ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“สุขกาย สบายกระเป๋า” พาณิชย์–สาธารณสุข ยัน เข้าถึงง่าย ประหยัดจริง

เศรษฐกิจ
18:26
62
“สุขกาย สบายกระเป๋า” พาณิชย์–สาธารณสุข ยัน เข้าถึงง่าย ประหยัดจริง
พาณิชย์-อย.-สาธารณสุข ลงพื้นที่ลองทดสอบใช้ สุขกาย สบายกระเป๋า ยัน เข้าถึงง่าย ประหยัดจริง เดิมต้องจ่ายกว่า 10,000 บาท เหลือจ่ายจริง5,500 บาท ประหยัดเงินอกว่า 4,500 บาท อย. เผยมีร้านขายยาเข้าร่วม กว่า 3,400 ร้านทั่วประเทศ

วันนี้ ( 6 พ.ค.2568) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” หลังนายกรัฐมนตรีได้คิกออฟเปิดตัวตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย.68โดยได้ร่วมกับ ภก.เลิศชาย เลิศวุฒ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลย่านพระราม 9 และร้านขายยาเชนใหญ่ เช่น Top Care , Boots และ Watsons

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน

โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการให้บริการจริงของโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่การลงทะเบียน พบแพทย์ รับใบสั่งยา ไปจนถึงการนำใบสั่งยาไปซื้อยาภายนอก เพื่อยืนยันว่าประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวก และลดค่าใช้จ่ายได้จริง

เพื่อให้เห็นภาพจริงในการรับบริการใน โครงการ สุขกาย สบายกระเป๋า ทั้งที่โรงพยาบาลเอกชนและร้านขายยา จึงได้แสดงเป็น “ผู้ป่วยจำลอง” ที่มีอาการไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง และนอนไม่หลับเป็นภาวะแทรกซ้อน โดยหากเข้ารับการรักษาและซื้อยาทั้งหมดจากโรงพยาบาลเอกชน จะมีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 10,370 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายา

จากการทดลองใช้สิทธิ์ตามโครงการ สุขกาย สบายกระเป๋า นายวิทยากร ได้นำใบสั่งยาจำนวน 4 รายการ ไปซื้อที่ร้านขายยาภายนอก และรับเฉพาะยาควบคุมพิเศษ 1 รายการ ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลจึงเหลือเพียง 1,670 บาท (รวมค่าตรวจ ค่าบริการทางการแพทย์ และค่ายาควบคุมพิเศษ)

หลังจากนั้น ได้มีการนำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลดังกล่าว มาทดลองซื้อจริงที่ ร้านยา Tops Care ภายในห้างย่านพระราม9 ซึ่งเป็นร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ ภายใต้ระบบ ร้านยาใกล้ฉัน ของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าสามารถนำใบสั่งยามาซื้อยาได้โดยตรง โดยมีเภสัชกรประจำร้านให้คำแนะนำอย่างครบถ้วน ทั้งชื่อสามัญของยา วิธีใช้ ขนาดการรับประทาน และข้อควรระวังของแต่ละโรค เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับยาที่ถูกต้อง ปลอดภัย และมีคุณภาพเทียบเท่ากับยาที่จ่ายจากโรงพยาบาล โดย ค่ายา 4 รายการที่นำมาซื้อตามใบสั่งยา มีราคาทั้งหมดเพียง 3,863 บาท เมื่อเทียบกับราคาค่ายาเดิมของโรงพยาบาลที่อยู่ที่ 8,700 บาท จะเห็นว่ามีส่วนต่างที่ประหยัดได้ถึง 4,837 บาท

พูดง่าย ๆ คือ จากเดิมที่ต้องจ่ายกว่า 10,000 บาท วันนี้เหลือจ่ายจริงเพียงประมาณ 5,500 บาท ประหยัดเงินไปเกินครึ่ง หรือกว่า 4,500 บาท ซึ่งเป็นเงินที่กลับไปอยู่ในกระเป๋าของประชาชนโดยตรง

อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวอีกว่า ทั้งนี้โรงพยาบาลพระราม 9 เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ และร้านขายยาทั้งสามแห่งที่เรามาติดตามในวันนี้ ได้ติดตั้งโลโก้และสติกเกอร์ สุขกาย สบายกระเป๋า อย่างชัดเจนในจุดให้บริการต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนสังเกตได้ง่าย พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้าใจหลักเกณฑ์ของโครงการและพร้อมให้บริการแก่ผู้ป่วยที่ประสงค์จะเลือกซื้อยาเอง

ด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รายงานว่า ปัจจุบันมีร้านขายยาที่ผ่านการรับรองและเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 3,400 ร้านทั่วประเทศ และจำนวนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยร้านที่เข้าร่วมจะต้องมีเภสัชกรประจำร้านและจำหน่ายยาที่มีมาตรฐานเดียวกับโรงพยาบาล เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าจะได้รับยาที่มีคุณภาพและปลอดภัย และเป็นทางเลือกให้กับประชานชนในการช่วยลดภาระค่าครองชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

อ่านข่าว:

 ชะตากรรม "ข้าวไทย" เผชิญคู่แข่งรอบด้าน ชาวนาจะรอดอย่างไร

เชือดจริง ร้านคนละครึ่งพลัส คิดVAT 7% สั่งปรับ 1 พันบาท 7วัน ร้องเรียนพุ่ง 112 เรื่อง

อังกฤษขึ้นบัญชีดำ 39 ราย ไทยโดนด้วยฐานละเมิดกม.คว่ำบาตรรัสเซีย