ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

โลกร้อน-อาหารหมด กระทบ "หมีญี่ปุ่น" ออกจากป่าบุกชุมชนเพราะหิวโซ

ต่างประเทศ
15:57
75
โลกร้อน-อาหารหมด กระทบ "หมีญี่ปุ่น" ออกจากป่าบุกชุมชนเพราะหิวโซ
วิกฤตหมีป่าบุกชุมชนในญี่ปุ่นทวีความรุนแรงขึ้นในปีนี้ หลังมีรายงานการโจมตีเพิ่มสูงและผู้เสียชีวิตถึง 13 คน ล่าสุดพบหมีหิวโหยบุกเข้าเรียวกังที่ยามากาตะ สร้างความเสียหาย คนในชุมชนหวาดกลัว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ถึงผลผลิตผลไม้ป่าที่ขาดแคลนคือสาเหตุหลัก

วันนี้ (8 พ.ย.2568) NHK รายงาน วิกฤตหมีป่าบุกพื้นที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น กำลังกลายเป็นข่าวพาดหัวหลักในสื่อมวลชนของประเทศ หลังจากหมีเหล่านี้ไม่ยอมอยู่นิ่งในป่า แต่เริ่มบุกเข้าไปในเขตชุมชนและเมืองใหญ่ ส่งผลให้เกิดการโจมตีมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยในปีงบประมาณปัจจุบัน (ซึ่งสิ้นสุดในเดือน มี.ค.2569) มีรายงานผู้เสียชีวิตจากหมีถึง 13 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ สถานการณ์นี้ไม่เพียงสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน แต่ยังบังคับให้หน่วยงานรัฐและชุมชนต้องปรับตัวรับมืออย่างเร่งด่วน

เหตุการณ์ล่าสุดที่จุดประกายความตื่นตระหนกเกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 พ.ย.2568) ใน จ.ยามากาตะ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ที่เรียวกังแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัว หมีตัวหนึ่งบุกเข้ามาแบบไม่ได้รับเชิญ สร้างความโกลาหลภายในอาคารด้วยการทำลายข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ จนเจ้าของครอบครัวต้องรีบอพยพหนีไปอย่างปลอดภัย

ซาซากิ คาซูโอะ เจ้าของเรียวกัง เล่าว่า เคยเห็นหมีตัวนี้ลาดตระเวนใกล้เคียงอาคารตั้งแต่ต้นสัปดาห์ก่อน จึงตัดสินใจปิดกิจการชั่วคราวและเตรียมปิดฤดูหนาวเร็วกว่ากำหนด หมีอาจเคยเดินเตร็ดเตร่ใกล้เรียวกังมาก่อน แต่ไม่เคยบุกเข้ามาภายในตัวอาคารแบบนี้มาก่อน เขากล่าวด้วยน้ำเสียงกังวล 

ไม่ใช่แค่ยามากาตะเท่านั้น แต่ชุมชนทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความหวาดกลัวที่คล้ายคลึงกัน ใน จ.อิวาเตะ ผู้ปกครองจำนวนมากเริ่มกังวลถึงความปลอดภัยของบุตรหลาน โดยเรียกร้องให้รถบัสโรงเรียนปรับเส้นทางส่งนักเรียนให้ใกล้บ้านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินเท้าผ่านเส้นทางที่อาจมีหมีซุ่มโจมตี

ซูกิโมโตะ ชูทาโร ผู้ประกอบการรถแท็กซี่และรถบัสโรงเรียนในพื้นที่ เปิดเผยว่า รถบัสไม่สามารถเข้าไปในถนนแคบ ๆ ได้ ทำให้การปกป้องเด็ก ๆ เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ สถานการณ์นี้ไม่เพียงกระทบต่อชีวิตประจำวัน แต่ยังสร้างแรงกดดันให้หน่วยงานท้องถิ่นต้องเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและการรณรงค์ให้ชาวบ้านเก็บขยะให้มิดชิด เพื่อไม่ให้กลิ่นอาหารล่อหมีเข้ามา

ผู้เชี่ยวชาญหลายรายชี้ว่า สาเหตุหลักของวิกฤตนี้มาจากความหิวโหยของหมี ซึ่งบังคับให้พวกมันต้องออกจากถิ่นฐานตามธรรมชาติเพื่อหาอาหารในพื้นที่มนุษย์ ศาสตราจารย์โคอิเกะ ชินซูเกะ จากมหาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีโตเกียว อธิบายว่า หมีเหล่านี้อาจกำลังเดินทางไปในพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้น เนื่องจากผลเอคอร์นหรือผลของต้นโอ๊ก ที่อาหารหลักในฤดูใบไม้ร่วง อาจขาดแคลน รวมถึงถั่วชนิดอื่น ๆ ด้วย

คำอธิบายนี้สอดคล้องกับมุมมองของหน่วยงานป่าไม้แห่งชาติญี่ปุ่น ซึ่งยืนยันว่าผลผลิตถั่วเบ๊ช ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีนี้ต่ำผิดปกติ เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและภัยแล้ง ส่งผลให้หมีหิวโหยและเสี่ยงบุกชุมชนมากขึ้น

สถานการณ์วิกฤตหมีในญี่ปุ่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ปีนี้ดูเหมือนจะรุนแรงกว่าที่เคย หน่วยงานรัฐกำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางคนเดียวในป่า และเพิ่มการติดตามประชากรหมีผ่านเทคโนโลยีดาวเทียม ขณะที่ชุมชนท้องถิ่นเรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณมากขึ้นสำหรับมาตรการป้องกัน หากไม่ได้รับการแก้ไข สถานการณ์นี้อาจลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่น สร้างความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและชีวิตของประชาชนต่อไป

อ่านข่าวอื่น :

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ ฉ.19 เตือนพายุ "คัลแมกี" ฝนตกหนักถึงหนักมาก ช่วงวันที่ 8 – 9 พ.ย. 68

เปิดช่องว่างนอมินีกลุ่มทุน "สวมสิทธิ" กินรวบโควตาสลาก