วันนี้ (8 พ.ย.2568) ประเด็นร้อนเรื่องโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลที่หายไปจากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก กำลังขยายวงสู่ปมใหม่ที่ร้ายแรงยิ่งกว่า คือ ขบวนการสวมสิทธิ์เป็น "ผู้พิการ" หรือ "คนด้อยโอกาสเทียม" เพื่อครอบครองโควตาสลากที่ควรสงวนไว้ให้กลุ่มเปราะบางจริง ๆ สถานการณ์นี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีเครือข่ายนอมินี ที่นำสลากไปส่งต่อให้กลุ่มทุนเบื้องหลัง โดยข้อมูลพบว่าสลากจำนวนหนึ่งหลุดไปอยู่ในมือหน่วยงานหรือมูลนิธิที่ไม่ได้มีสิทธิ์รับจัดสรรตามกฎ ทำให้เกิดคำถามใหญ่ถึงความโปร่งใสของระบบโควตาที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาลรับผิดชอบ
สลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งสิ้น 105 ล้านฉบับต่องวด โดยกองสลากฯ จัดสรรโควตาให้ผู้พิการ 2 กลุ่มหลัก เพื่อส่งเสริมอาชีพและรายได้
- กลุ่มแรก คือ ผู้พิการรายบุคคล จำนวน 7,408 เล่ม คิดเป็นร้อยละ 0.71 ของโควตาทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้พิการมีรายได้เสริมและยืนหยัดในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี
- กลุ่มที่สอง คือ สมาคม มูลนิธิ และองค์กรผู้พิการ รวม 860 แห่ง ได้รับจัดสรรถึง 145,095 เล่ม หรือร้อยละ 13.82 ของโควตา
ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงสะท้อนถึงนโยบายช่วยเหลือ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ผู้พิการไม่ใช่แค่ผู้ขายตัวเลขแห่งโชค แต่ขายสลากเพื่อความหวังในการเลี้ยงดูครอบครัวและสร้างชีวิตใหม่
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง โควตาสลากเหล่านี้กลับไม่ตกถึงมือผู้ด้อยโอกาสตัวจริง โดยกลุ่มผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลและตัวแทนผู้พิการตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีขบวนการริดรอนสิทธิ์ ผ่านการนำบุคคลทั่วไปเข้าสู่สมาคมหรือองค์กรในลักษณะนอมินี เพื่อรวบรวมโควตาสลากจำนวนมาก ส่งต่อให้กลุ่มทุนสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การขายต่อในราคาสูงหรือนำไปใช้ในเครือข่ายค้าปลีกใหญ่ สงสัยว่ามีนักการเมืองบางส่วนอยู่เบื้องหลัง เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ
ร.ท.ธนเดช เพ็งสุข สส.พรรคประชาชน ผู้จุดประเด็นเปิดข้อมูลโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงความผิดปกติที่ "สมาคม องค์กร และมูลนิธิสาธารณกุศล" เกิดขึ้นง่ายและจำนวนมากผิดสังเกต รวมถึงความหละหลวมในการตรวจสอบของกองสลากฯ ซึ่งเปิดช่องให้เกิด "สมาคมม้า" ของ "กลุ่มทุนเทา" แทรกซึมเข้ามากินรวบเชิงโครงสร้าง สร้างการผูกขาดและฟอกเงินผ่านระบบโควตา
นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาการหายไปของโควตา แต่เป็นการบ่อนทำลายศักดิ์ศรีของผู้พิการจริง ๆ ที่ยังรอคอยโอกาส สส.ธนเดช กล่าว โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเชิงลึกและปฏิรูประบบให้โปร่งใสยิ่งขึ้น
แรงกดดันต่อกองสลากกินแบ่งรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ต้องกล้าหาญจัดสรรระบบโควตาใหม่ให้เป็นธรรม ชาวบ้านผู้พิการจำนวนมากยังยึดอาชีพขายสลากเป็นเส้นทางแห่งศักดิ์ศรีและความมั่นคงทางการเงิน
หากไม่แก้ไข ปัญหานี้อาจนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นในระบบสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งหมด และกระทบต่อภาพลักษณ์ของการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสของรัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและปรับปรุง เพื่อให้โควตากลับคืนสู่มือผู้สมควรได้รับจริง
อ่านข่าวอื่น :











