ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ชัตดาวน์สหรัฐฯ กระทบการบิน ยกเลิก 1,002 ไฟลท์ จนท.ทำงานฟรี 13,000 คน

ต่างประเทศ
21:33
57
ชัตดาวน์สหรัฐฯ กระทบการบิน ยกเลิก 1,002 ไฟลท์ จนท.ทำงานฟรี 13,000 คน
จนถึงวานนี้ (7 พ.ย.68) FlightAware รายงานเที่ยวบินยกเลิก 1,002 เที่ยว ล่าช้า 4,309 เที่ยว ผลจากการชัตดาวน์สหรัฐฯ กระทบคนเดินทางนับล้านจน FAA ต้องสั่งลดเที่ยวบิน 10% ขณะที่ จนท.ATC 13,000 คนต้องทำงานฟรี

วันนี้ (8 พ.ย.ย2568) วิกฤตการเดินทางทางอากาศในสหรัฐฯ กำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง หลังจากภาวะชัตดาวน์รัฐบาลกลาง ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568 ซึ่งกำลังจะครบรอบ 40 วันในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.) ทำลายสถิติเดิม 35 วันจากช่วงปี 2561-2562 ในสมัย ปธน.ทรัมป์ วาระแรก

สถานการณ์นี้ส่งผลให้เที่ยวบินถูกยกเลิกไปแล้วกว่า 1,000 เที่ยวในวันเดียว ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ (ATC) และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสนามบิน (TSA) ที่ต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สร้างความเดือดร้อนให้ผู้โดยสารนับล้านคนทั่วประเทศ

เว็บไซต์ติดตามเที่ยวบินชื่อดังอย่าง FlightAware รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ในช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.2568 มีเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกถึง 1,002 เที่ยวบิน และเที่ยวบินล่าช้ากว่า 4,309 เที่ยวบิน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสารจำนวนมากที่ต้องยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงแผนการเดินทางกะทันหัน

สายการบินหลัก ๆ ในสหรัฐฯ เช่น American Airlines, Delta Air Lines และ United Airlines ต่างประกาศยกเลิกเที่ยวบินจำนวนมาก โดยเฉพาะในศูนย์กลางการบินสำคัญอย่างสนามบินนานาชาติชิคาโก โอแฮร์ (ORD), ดัลลัส-ฟอร์ตเวิร์ท (DFW) และเดนเวอร์ (DEN) ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุด ผู้โดยสารหลายรายต้องติดค้างที่สนามบินนานหลายชั่วโมง สร้างความโกลาหลและความกังวลด้านความปลอดภัย

ความวุ่นวายนี้เกิดขึ้นหลังจากกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ และสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ ประกาศมาตรการลดปริมาณการจราจรทางอากาศใน 40 จุดทั่วประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับวิกฤตการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ ATC แผนดังกล่าวกำหนดให้ลดจำนวนเที่ยวบินลงร้อยละ 4 ในระยะแรก ก่อนจะเพิ่มเป็นร้อยละ 6 ภายในวันอังคารที่ 11 พ.ย. และร้อยละ 10 ภายในวันศุกร์ที่ 14 พ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เที่ยวบินทั้งประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สร้างแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมการบินที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากปัญหาโควิด-19

สาเหตุหลักของปัญหาคือภาวะชัตดาวน์ที่ทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางปิดทำการ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ ATC ประมาณ 13,000 คน และเจ้าหน้าที่ TSA อีกกว่า 50,000 คน ต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. มีรายงานจากสหภาพแรงงานว่า บางคนต้องทำงานล่วงเวลา ถึงวันละ 10 ชั่วโมง 6 วันต่อสัปดาห์ ขณะที่จำนวนพนักงานที่ขอลาหยุดหรือลาออกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความเครียดและปัญหาการเงิน

สถานการณ์นี้ไม่เพียงทำให้เที่ยวบินล่าช้าและยกเลิกบ่อยครั้ง แต่ยังก่อให้เกิดความกังวลต่อความปลอดภัยทางการบิน โดย FAA ต้องออกคำเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเพิ่มขึ้นจากบุคลากรที่เหนื่อยล้า

ด้านสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เตือนว่า ผลกระทบของการชัตดาวน์ครั้งนี้ "มากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้" และอาจสร้างความเสียหายในระยะยาวต่อเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 จะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง เนื่องจากการหยุดชะงักของภาคการบิน การท่องเที่ยว และห่วงโซ่อุปทาน

ขณะที่ความพยายามของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ในการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวยังคงล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า เนื่องจากข้อพิพาททางการเมืองเรื่องการใช้จ่ายและนโยบายชายแดน ซึ่งทำให้ชัตดาวน์ยืดเยื้อเกินกว่า 40 วัน

อ่านข่าวเพิ่ม : 

"อบจ.ชัยนาท" แซงชนะ "หมอนทอง" 2-1 ประตู คว้าแชมป์ ฟุตบอลนักเรียน 7 คน กีฬา 7HD 2025

คลัง-แบงก์ชาติ ช่วย SME ออกมาตรการ "พี่ช่วยน้อง" รับมือภาษีสหรัฐฯ