ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สทนช. รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำ เพิ่มระบายน้ำ "เขื่อนภูมิพล" รับมือมวลน้ำระลอกสุดท้าย

ภัยพิบัติ
09:46
165
สทนช. รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำ เพิ่มระบายน้ำ "เขื่อนภูมิพล" รับมือมวลน้ำระลอกสุดท้าย
อ่านให้ฟัง
07:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สทนช. รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำ "เขื่อนภูมิพล" คาดหลัง 13 พ.ย.นี้ ปริมาณฝนตอนบนเบาลง อากาศหนาวมาแทนที่ ประเมินระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาต่ำกว่า 1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ได้ช่วงกลางเดือน ธ.ค.นี้

วันนี้ (11 พ.ย.2568) เวลา 7.00 น. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงานสรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ ทั้ง สภาพอากาศวันนี้ สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม โดยมีรายละเอียดดังนี้    

คาดการณ์ 13-16 พ.ย. อากาศเย็นลง อุณหภูมิลด

1. สภาพอากาศวันนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมา ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคกลางตอนล่าง ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

คาดการณ์ วันที่ 13-16 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีอากาศเย็นในตอนเช้า เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนไปปกคลุมประเทศเมียนมา ในขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้

สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม ปริมาณน้ำรวม 89% ของความจุเก็บกัก (71,713 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 82% (47,590 ล้าน ลบ.ม.) การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำ แหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 19 แห่ง ดังนี้ ภาคกลาง 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคตะวันตก 5 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง

3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

เขื่อนภูมิพลปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 45 เป็น 48 ล้าน ลบ.ม./วัน

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ในปีนี้มีฝนตกเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มากเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2565 โดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ย.ที่มีฝนตกหนักจากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ "คัลแมกี" ส่งผลให้มีมวลน้ำระลอกใหม่ไหลเข้าเขื่อนภูมิพลเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันเหลือช่องว่างรองรับน้ำอยู่เพียงประมาณ 127 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)

ที่ประชุมติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ เพื่อปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบให้ทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำแบบขั้นบันไดของเขื่อนภูมิพล จากอัตราเดิม 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เป็น 48 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ทั้งนี้ มวลน้ำดังกล่าวจะไหลต่อเนื่องลงสู่พื้นที่ตอนล่าง คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่าน จ.นครสวรรค์ สูงสุดประมาณ 3,100 ลบ.ม. ต่อวินาที และมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อจังหวัดอุทัยธานีและชัยนาท

ในส่วนของท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เริ่มเพิ่มการระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 68 จากอัตรา 2,800 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 2,900 ลบ.ม. ต่อวินาที และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง ซึ่งยังต่ำกว่าปี 2554 ที่มีการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาสูงสุด 3,700 ลบ.ม. ต่อวินาที

ทั้งนี้ ทุกหน่วยงานตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงมีความพยายามอย่างยิ่งเพื่อเร่งคลี่คลายมวลน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยขณะนี้ได้ประสานกรมชลประทานเพื่อระบายน้ำเข้าสู่ทุ่งลุ่มต่ำที่ยังมีพื้นที่รองรับเพิ่มเติม รวมทั้งจะเร่งดำเนินการระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของเขื่อนเจ้าพระยาให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม คาดว่าการระบายมวลน้ำรอบนี้จะเป็นรอบสุดท้ายของฤดูฝนปี 2568 เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) ประเมินว่า ฝนในพื้นที่ตอนบนจะลดลงตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 68 และไม่มีแนวโน้มได้รับอิทธิพลจากพายุเพิ่มเติม เนื่องจากมวลความกดอากาศสูงได้แผ่เข้าปกคลุมพื้นที่ โดยฝนจะเคลื่อนตัวไปตกหนักในพื้นที่ภาคใต้มากขึ้น คาดว่าจะสามารถเริ่มระบายน้ำในอัตราต่ำกว่า 1,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ได้ในช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 2-3 ของเดือน ธ.ค.

ในการนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ และจะเร่งหาแนวทางในการชดเชยเยียวยาเพิ่มเติมให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยมากกว่า 30 วัน รวมถึงกำชับให้เร่งรัดโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในระยะยาว  

อ่านข่าว : สภาพอากาศวันนี้ ไทยตอนบนมีฝนลดลง เหนือ-อีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า

กัมพูชาปัดวางทุ่นระเบิดใหม่ กังวลไทยระงับดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วม

ทบ.ยืนยันเหตุห้วยตามาเรีย ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดใหม่