วันนี้ (11 พ.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงผลการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาหลังพบว่าทหารไทย 4 นายเหยียบกับระเบิด ที่ห้วยตามมาเรีย จ.ศรีสะเกษ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าในที่ประชุมจะมีมาตรการออกมาตอบโต้หรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขอไปประชุมคณะรัฐมนตรีก่อนหลังจากนั้นจะแถลงทุกอย่างอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะมีการยกเลิกปฏิญญาสันติภาพไทยกัมพูชาเลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุสั้นๆ ว่า ระงับ
ผู้สื่อข่าวพยายามจะสอบถามถึงกรอบระยะเวลาที่จะระงับไว้ นายอนุทิน ไม่ตอบคำถามก่อนจะรีบเดินทางไปเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีที่ตึกบัญชาการ 1 ทันที
ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ยืนยันผลประชุม สมช.เช้านี้ ถก 3 เรื่อง
1.การสูญเสียกำลังพลของกองทัพไทย เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียครั้งแรก
2.การที่มีทุ่นระเบิดในอธิปไตยไทย ถือว่ากระทบต่ออธิปไตย
3.รัฐบาลจะปกป้องอธิปไตยและชีวิตของประชาชน ทหารไทย อย่างเต็มขีดความสามารถ
ผลสรุปที่ประชุม สมช.ระงับการปฏิบัติตาม Joint Declaration ไว้ก่อนทั้งหมดทุกข้อ และยุติการส่งเชลยศึกให้ฝ่ายกัมพูชา
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ายังคาดหวังความจริงใจจากกัมพูชาหรือไม่ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพไม่ได้คาดหวัง แต่สิ่งที่ไทยดำเนินการได้ฝ่ายในอธิปไตยของไทยก็จะทำ ซึ่งขณะนี้ก็ถือเป็นการยกระดับมาตรการแล้ว ทั้งการระงับการปฏิบัติตาม Joint Declaration และการปฏิบัติการทางทหารในเขตอธิปไตยไทย แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด
ส่วนแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด มี 2 ระดับ คือ หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ ซึ่งในพื้นที่เกิดเหตุนั้น เป็นพื้นที่ที่ไทยปฏิบัติการอยู่เป็นประจำ และหน่วยทหารสามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดได้
แต่การเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่เป็นทางการเต็มรูปแบบ จะเป็นการเก็บกู้โดยศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ หรือ TMAC ขณะนี้เข้าไปดำเนินการแล้ว 4 พื้นที่ จาก 5 พื้นที่ เหลืออีก 1 พื้นที่ที่ทางกัมพูชายังไม่ตอบรับ ซึ่งจากนี้เราจะเข้าเก็บกู้ทันที
ขอให้มั่นใจว่าจากนี้การปฏิบัติการทางทหาร เราได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม สมช.ว่าให้สามารถดำเนินการได้ตามสถานการณ์
ขณะที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กรณีที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด เราถือว่า Joint Declaration ท่าทีของไทยตลอดมา มองว่าการจะนำไปสู่สันติภาพ ก็ต่อเมื่อมีการปฏิบัติตามข้อต่าง ๆ ที่ระบุไว้ใน Joint Declaration เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเป็นการละเมิด ท่าทีของไทยคือระงับการปฏิบัติตาม Joint Declaration แต่ตรงไหนที่ไทยดำเนินการฝ่ายเดียวก็จะทำต่อ เช่น การเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายแดน
กระทรวงการต่างประเทศจะประท้วงต่อเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้น เบื้องต้นได้พูดคุยและประท้วงไปยังรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา ว่าไม่ควรเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เป็นการละเมิดสิ่งที่ตกลงกันไว้ และขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังกัมพูชา รวมทั้งประท้วงภายใต้กรอบอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิด
ส่วนในเรื่องท่าทีของไทย จะมีการชี้แจงไปยังสหรัฐฯ และมาเลเซีย ผู้ที่ลงนามใน Joint Declaration ถึงเหตุผลความจำเป็นที่ไทยระงับดังกล่าว
นอกจากนี้ ไทยจะชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ต่อประชาคมโลก โดยประสานข้อมูลจากกระทรวงกลาโหม และกองทัพบก เพื่อให้ท่าทีของไทยมีความหนักแน่นและความชอบธรรม
"ถ้าจะให้การปฏิบัติตาม Joint Declaration กลับไปสู่ที่ควรจะเป็น ก็มีความจำเป็นที่ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือ ต้องแสดงความเสียใจ ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ และกำหนดมาตรการไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ"
กรณีสื่อสังคมออนไลน์เรียกร้องให้ดำเนินการมากกว่าการประท้วงนั้น รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เราต้องประท้วง เพราะเป็นการละเมิดข้อตกลง และให้ประชาคมเข้าใจว่าเหตุใดต้องระงับ Joint Declaration ซึ่งการประท้วงก็ถือเป็นการประณามด้วย เพราะละเมิดสิ่งที่ตกลงไว้
"เราไม่ได้ประท้วงอย่างเดียว แต่ระงับ Joint Declaration ทั้งการถอนกำลัง และทุกข้อ ยกเว้นเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ไทยดำเนินการฝ่ายเดียวได้ ไม่ใช่เรื่องประท้วงอย่างเดียว ทั้งหมดเป็นการแสดงท่าทีที่ชัดเจน ต้องดูท่าทีตอบสนองของเขา อาจยกระดับความเด็ดขาดของเราก็ได้"
นายสีหศักดิ์ ยังกล่าวถึงการชี้แจงของฝ่ายกัมพูชา ว่า การชี้แจงของฝ่ายกัมพูชา ยังไม่พอเพียงให้ฝ่ายไทยมีความมั่นใจและสบายใจ ท่าทีของเราขณะนี้คือระงับการปฏิบัติตาม Joint Declaration เรื่องการเจรจาเรายังไม่พูดถึงเลย เพราะไม่มีพื้นที่สำหรับการพูดคุย ต้องดูท่าทีตอบสนองของเขาก่อน
อ่านข่าว :
จับตา ครม. พิจารณาแนวทางจัดการแรงงานกัมพูชาใบอนุญาตหมดอายุ
กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา เลื่อนถกประเด็นคำสั่งหยุดยิง เหตุ "พล.ท.บุญสิน" ติดคิวบรรยาย