วันนี้ (12 พ.ย.2568) สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก, สพ.ญ.กานต์พิชชา หาญอาษา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง), น.สพ.นภัส เสวกวรรณ นายสัตวแพทย์ กลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า อัปเดตการดูแลรักษาลูกช้างป่า "ข้าวต้ม"
ลูกช้างป่าข้าวต้มกินนมและน้ำข้าวต้ม แต่ยังกินได้ประมาณน้อยกว่าที่สัตวแพทย์คำนวนปริมาณไว้ ปัสสาวะมีสีใส อุจจาระเหลว และมีเนื้อครีมสลับกัน ในบางครั้งพบเนื้อเยื่อของลำไส้ลอกหลุดหรือมีลิ่มเลือดปนเล็กน้อย ยังไม่พบภาวะน้ำตาลต่ำกว่าปกติ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
สัตวแพทย์ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำตลอดทั้งวัน เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และพยุงระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งให้ยาปฏิชีวนะ ยาลดการเกิดแผลในทางเดินอาหาร ให้ยากระตุ้นภูมิ และให้ยาต้านไวรัสชนิด EEHV
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2568 เวลา 16.00 น. ทีมสัตวแพทย์ให้สเต็มเซลล์เข้าทางหลอดเลือดดำ โดยได้รับการสนับสนุนสเต็มเซลล์จากบริษัท Precision Vet ซึ่งสเต็มเซลล์จะช่วยลดอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งในเคสลูกช้างป่าข้าวต้ม จะเน้นลดอักเสบและซ่อมแซมระบบทางเดินอาหาร หลังได้รับสเต็มเซลล์ พบว่าลูกช้างไม่มีอาการแพ้ มีความร่าเริง และเล่นกับพี่เลี้ยงมากขึ้น
ภาพ : กรมอุทยานฯ
ภาพ : กรมอุทยานฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเวลา 02.00-03.00 น.ของวันนี้ ลูกช้างป่าข้าวต้มมีอาการชักเกร็ง น้ำตาลระดับต่ำกว่าปกติ สัตวแพทย์แก้ไขอาการดังกล่าวจนเข้าสู่สภาวะปกติ
ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ สัตวบาล และเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ได้ร่วมดูแลลูกช้างป่าตลอด 24 ชั่วโมง โดยยังต้องประเมินอาการแบบวันต่อวัน
อ่านข่าว : เอาใจช่วย “ลูกช้างป่าข้าวต้ม” พบเฮอร์ปีส์ไวรัส ทีมสัตวแพทย์ดูแลใกล้ชิด-ให้เลือด
กระทิงขวิด จนท.พิทักษ์ป่าภูเขียวบาดเจ็บ - ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
แท็กที่เกี่ยวข้อง: