วันนี้ (13 พ.ย.2568) การบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2568 ที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและสถานบันเทิงจำนวนมาก หลังกฎหมายห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และห้ามนั่งดื่มในร้านหลังเที่ยงคืน (00.00 น.) หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 10,000 บาท โดยคงข้อห้ามเดิมเรื่องกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามขาย ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยอมรับว่าอาจกระทบธุรกิจหนัก โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจถดถอย จึงเสนอขอขยายเวลาให้ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและช่วยเหลืออาชีพกลางคืน
ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่สำรวจร้านค้าที่จดทะเบียนเป็นร้านอาหารบริเวณ ซ.วิภาวดีรังสิต 60 และ 62 พบว่าผู้ประกอบการสะท้อนมุมมองคล้ายกัน คือไม่เห็นด้วยกับกรอบเวลาขายถึงเที่ยงคืนเท่านั้น เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เลิกงานดึก การสังสรรค์จึงสั้นลง ส่งผลรายได้ร้านลด พวกเขาขอให้ยืดเวลาเพิ่มอีกนิด หรือเผื่อเวลาจัดการร้านและลูกค้าให้เรียบร้อยก่อนปิด
อานนท์ ประดิษฐ์ทอง ผู้ประกอบการร้านอาหารใน ซ.วิภาวดี กล่าวว่า ถ้ามีความยืดหยุ่นเพิ่มอีกนิดหน่อย เช่น เผื่อเวลาเคลียร์ร้าน เคลียร์ลูกค้า ก็จะดีขึ้น ลูกค้าบางคนบอกขออีกนิดให้หมดแก้ว แต่ทางร้านก็พร้อมเคารพกฎ
ด้าน เอกภพ มาลีลัย ผู้ประกอบการร้านอาหารอีกแห่ง ชี้ว่าร้านขนาดเล็ก ลูกค้าไม่เยอะและดื่มไม่นาน หากจำกัดขายแอลกอฮอล์ รายได้จะยิ่งลด ลำพังขายอาหารแทบไม่เหลือกำไร ยังไม่รวมค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ถ้าให้ขายเพิ่มอีก 2-3 ชั่วโมง จะช่วยให้หายใจได้ดีกว่า ยังช่วยคนขับแท็กซี่ ขายของกินกลางคืนอย่างปลาหมึก ลูกชิ้น ข้าวเหนียวด้วย
ทางด้านผู้ใช้บริการยอมรับว่าธรรมชาติของคนดื่มมัก "ติดลม" ทำให้ดื่มล่วงเวลาไปนาน การกำหนดชั่วโมงขายถึงเที่ยงคืนอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาที่แท้จริง ปกติดื่มแอลกอฮอล์ก็ติดลม ดื่มยาวถึงตี 1-2 แต่กฎใหม่บีบเหลือน้อย ถ้าดื่มนิดหน่อยก็โอเค แต่คนติดเหล้าก็ติดลมอยู่ดี ถ้าเข้มงวดเกินไป ผู้ประกอบการน่าจะแย่กว่า
จากความเห็นทั้งผู้ประกอบการและลูกค้า พวกเขาพร้อมปฏิบัติตาม หากมีการหารือจนได้ข้อสรุปร่วม โดยเฉพาะขยายเวลาหรือยืดหยุ่นบังคับใช้จากเจ้าหน้าที่ พิจารณาจากปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน
สาเหตุที่ผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการออกมาแสดงความเห็น เพราะกฎหมายใหม่บังคับใช้แล้ว แต่กฎหมายลูกที่กำหนดรายละเอียดปฏิบัติยังไม่ชัดเจน พ.ร.บ.เปิดทางให้จัดทำกฎหมายลูกภายใน 1 ปี สร้างความกังวลและสับสนให้สถานบันเทิง ร้านอาหาร ลูกค้า นักดื่ม และเจ้าหน้าที่บังคับใช้ โดยประเด็นร้อนคือห้ามขายสุราและนั่งดื่มหลังเที่ยงคืน
ในพื้นที่พัทยา จ.ชลบุรี ผู้ประกอบการสถานบันเทิงยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยเข้าใจว่าประกาศคณะปฏิวัติ พ.ศ.2515 ถูกยกเลิกแล้ว แต่กฎใหม่ยังหยิบยกข้อห้ามขายและดื่มที่จุดขายช่วง 14.00-17.00 น. และหลังเที่ยงคืนมาบังคับต่อ พร้อมโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งใช้ดุลยพินิจปรับน้อยหรือมาก ทำให้ไม่ชัดเจน
นอกจากผู้ใช้บริการชาวไทยสับสน บางประเทศเริ่มออกคำเตือนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถึงพลเมืองที่มาเที่ยวไทย เช่น ออสเตรเลียเตือนนักท่องเที่ยวแล้ว คาดอังกฤษและสหรัฐฯ จะตามมา สร้างภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไม่ดี กระทบท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักปีนี้ถึงปีหน้า
ตัวแทนผู้ประกอบการและเครือข่ายเห็นตรงกันว่า ควรนำสถานบันเทิงเข้าสู่ระบบ จดทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.สถานบริการ เพื่อกำกับดูแล และขายแอลกอฮอล์ได้ถึง 02.00 น. ซึ่งยืดหยุ่นกว่า ปัจจุบันมี ผู้มีใบอนุญาตที่ถูกต้องน้อยมาก เช่น ถนนข้าวสาร มีผู้ประกอบการเกือบ 100 แห่ง แต่ใบอนุญาตสถานบริการแค่ 4 ใบ ทองหล่อต้องปิดเที่ยงคืนหมด เพราะไม่มีใบอนุญาต ร้านกึ่งสถานบริการโดนทั้งหมด
ปัจจุบันสถานบริการจดทะเบียนถูกต้องมีแค่ 1,800 แห่ง จากร้านค้าทั้งหมดราว 200,000 แห่ง ต้องแก้ พ.ร.บ.สถานบริการควบคู่ เพื่อโซนนิ่งชัดเจน
ขณะที่ นพ.สุทัศน์ โชตนพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่า พ.ร.บ.ใหม่เป็นการปรับปรุงจากฉบับ พ.ศ.2551 ที่ใช้มา 17 ปี รวบประกาศกระจัดกระจายเข้าด้วยกัน เพื่อจัดระเบียบ ไม่เปลี่ยนเวลาและข้อกำหนดเดิม แต่แก้ไขช่องโหว่ เช่น ยกเว้นบริโภคในโรงแรม สนามบินนานาชาติ และสถานบริการจดทะเบียนตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขายได้ตามเวลาปิดปกติ
นพ.สุทัศน์ ย้ำจุดมุ่งหมายเพื่อความปลอดภัย ลดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ เสียงดังรบกวนหลังเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาพักผ่อน ร้านปกติไม่ควรขายหลังเที่ยงคืน แต่สถานบริการจดทะเบียนในโซนนิ่งชัดเจน ไม่มีกฎห้าม ต้องบริหารความปลอดภัย จอดรถ อายุผู้ใช้บริการ และยอมรับสถานบริการจดทะเบียนน้อย เพราะ พ.ร.บ.สถานบริการเก่า ต้องปรับโซนนิ่งและปลดล็อกบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย
ส่วนค่าปรับ 10,000 บาท เป็น "ไม่เกิน" ใช้ดุลยพินิจตามความรุนแรง ตักเตือนก่อนได้ หากไม่ร้ายแรงหรือเกิดจากความไม่เข้าใจ หลังบังคับใช้ต้องมีกฎหมายลูกราว 35 ฉบับ เพื่อรายละเอียดปฏิบัติ บางฉบับออกเร็วเพื่อเปลี่ยนประกาศเก่า
สำหรับการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วันนี้ (13 พ.ย.2568) จะหารือ 2 ประเด็นหลัก คือ ห้ามขาย-บริโภคช่วง 14.00-17.00 น. และหลังเที่ยงคืน โดยพิจารณาผลดี-ผลเสีย รอบคอบ ทิศทางรัฐบาลส่งเสริมท่องเที่ยว
อ่านข่าวอื่น :
หวังสหรัฐฯเข้าใจไทย ปมขัดแย้งชายแดน ไม่กระทบเจรจาการค้า
ทรัมป์ลงนามยุติ "ชัตดาวน์" นานสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ 43 วัน