วันนี้ (20 พ.ย.2568) พล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการจัดหาเรือฟริเกต ว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้ไปชมนิทรรศการอาวุธ defense and security ในบูธต่าง ๆ ของหลายประเทศของเรือฟริเกต ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยยืนยันว่าในโครงการนี้จะต้องมี offset policy หรือการต่อเรือในประเทศ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนคืนทางเศรษฐกิจเพื่อประชาชน ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขที่ถูกกำหนดไว้ด้วย
ผบ.ทร.ยืนยันว่า การต่อเรือฟริเกตนั้น ต้องเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของกองทัพเรือ โดยกองทัพมีหน้าที่บำรุงรักษาและในการที่จะได้มาซึ่งเรือ ตนเองได้ดำเนินการและสั่งการแล้วว่าผลประโยชน์ต้องกลับไปสู่ประชาชนมากที่สุด และต้องต่อเรือภายในประเทศให้ได้สัดส่วนมากที่สุดด้วย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ากองทัพเรือสนใจเรือฟริเกตของตุรกีนั้น พล.ร.อ.ไพโรจน์ กล่าวว่า สนใจทุกประเทศ ซึ่งประเทศตุรกีมี 3 บริษัทที่ต่อเรือนี้ ซึ่งตนเองยังได้ดูในส่วนของบูธประเทศอื่น ๆ เช่น เกาหลีใต้ที่มีอยู่ 3 บริษัท ได้แก่ โอเชี่ยน ฮุนได เอสเค
ทั้งนี้ ตนเองได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกแบบ โดยมี พล.ร.อ.กรวิทย์ ฉายะรถี ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นประธาน และอยู่ระหว่างการร่าง TOR หากต้องจัดหาเป็นแพคเกจ ร่วมกับลำที่ 2 ก็จะขอความกรุณาจากรัฐบาลในการพิจารณาอนุมัติจาก ครม.ต่อไป
อ่านข่าว : กองทัพเรือโต้กัมพูชา ชี้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ปมเสียงประทัดชายแดน
นายกฯ บินเชียงใหม่ตามคดีจับยาเสพติด 10 ล้านเม็ด-ออกบัตร ปชช.เถื่อน
"อนุทิน" ยิ้มรับเสียงวิเคราะห์ชี้ "ศุภจี" ช่วยดึงคะแนนภูมิใจไทย
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











