ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กองทัพไทยเปิดผลสอบ AOT ชี้ทุ่นระเบิดภูมะเขือเป็น PMN-2 ถูกฝังใหม่

การเมือง
10:14
70
กองทัพไทยเปิดผลสอบ AOT ชี้ทุ่นระเบิดภูมะเขือเป็น PMN-2 ถูกฝังใหม่
อ่านให้ฟัง
04:32อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดข้อมูลหลังคณะ AOT-TH สังเกตการณ์ เหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดพื้นที่ภูมะเขือ 10 พ.ย.68 โดยยืนยันชัดเจนว่า เป็นทุ่นระเบิด PMN-2 ฝังใหม่ ลักษณะตรงกับทุกเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น และทุกจุดอยู่ในดินแดนของไทย

วันนี้ (24 พ.ย.2568) กองบัญชาการกองทัพไทย สรุปผลการตรวจสอบของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนประจำประเทศไทย หรือ AOT ต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณพื้นที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2568 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ

โดยผลการสังเกตการณ์ยืนยันชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดที่พบเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 ที่ถูกฝังใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าตามที่กองทัพกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด

ทั้งนี้ คณะ AOT-TH ได้ลงพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุ และจากการประเมินสภาพหน้าดิน รูปแบบการวางทุ่น และร่องรอยการฝัง พบว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ถูกฝังในช่วงเหตุปะทะล่าสุด

ลักษณะตรงกับทุกเหตุการณ์ก่อนหน้าในความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งทุ่นระเบิด PMN-2 ที่พบในแต่ละครั้งล้วนเป็นการฝังใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่ตกค้างตามคำกล่าวอ้างของฝ่ายกัมพูชา

จากการตรวจสอบของหน่วยวิศวกรรมร่วมกับ AOT-TH ยังพบสัญญาณบ่งชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวอาจมีการฝังทุ่นระเบิดเพิ่มเติม และยังไม่สามารถเข้าดำเนินการเก็บกู้ได้ในทันทีเนื่องจากความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่

นอกจากนี้ คณะ AOT-TH ได้ยืนยันพิกัดจุดพบทุ่นระเบิดทุกจุดด้วย GPS โทรศัพท์มือถือ (Google Map) ร่วมกับแผนที่ภูมิประเทศอย่างเป็นระบบ ผลการตรวจสอบชัดเจนว่า ทุกตำแหน่งอยู่ในดินแดนของไทยทั้งหมด ไม่มีจุดใดอยู่นอกเขตแดนไทย

ที่สำคัญ หัวหน้าคณะ AOT-TH ได้ตรวจสอบ โทรศัพท์มือถือส่วนตัวของทหารกัมพูชา ซึ่งถูกทิ้งไว้ขณะถอนกำลังบริเวณภูมะเขือ ภายในโทรศัพท์พบภาพถ่าย วิดีโอ และข้อมูลการลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ที่เป็นของฝ่ายกัมพูชาอย่างชัดเจน โดยมีภาพการวางและขุดฝังทุ่นระเบิด PMN-2 รวมถึงภาพการปฏิบัติของทหารกัมพูชาในพื้นที่ ซึ่งถือเป็น หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ยืนยันได้ว่าทุ่นระเบิดถูกฝังโดยฝ่ายกัมพูชาในเขตแดนไทย

คณะสังเกตการณ์ยังระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเคยใช้เป็นฐานปฏิบัติการส่วนหน้าในช่วงการปะทะ และมีความเป็นไปได้สูงว่าทุ่นระเบิดถูกฝังในห้วงสถานการณ์ความตึงเครียดล่าสุด ไม่ใช่ทุ่นระเบิดเก่าที่เหลืออยู่ในพื้นที่ตามการชี้แจงของฝ่ายกัมพูชา

กองบัญชาการกองทัพไทยขอย้ำว่า ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่มาจากการสังเกตการณ์โดยตรง หลักฐานทางกายภาพ พิกัดภูมิศาสตร์ ภาพถ่าย วิดีโอ และการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ โดยคณะ AOT-TH ซึ่งมีความเป็นกลาง โปร่งใส และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลทุกขั้นตอน โดยประเทศไทยปฏิบัติตามทุกข้อตกลงภายใต้กรอบกลไกทวิภาคี ไม่ว่าจะเป็น GBC, JBC หรือข้อตกลงการสังเกตการณ์ร่วมทุกฉบับ พร้อมดำเนินงานตามหลักสันติวิธี ความโปร่งใส และมาตรฐานสากลมาโดยตลอด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์อย่างสร้างสรรค์และรักษาความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกัน ฝ่ายไทยยังพบพฤติการณ์จากฝ่ายกัมพูชาที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในหลายเวทีการหารือ ซึ่งส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการเจรจาและความเชื่อมั่นในกลไกความร่วมมือ

ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทยยังคงเดินหน้าตามกลไกทวิภาคีทุกระดับอย่างโปร่งใส ชัดเจน และตรวจสอบได้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฏต่อประชาคมในทุกเวทีที่เกี่ยวข้อง และเพื่อปกป้องอธิปไตย-บูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างมั่นคงต่อไป

อ่านข่าว :

"นายกฯ" ชี้ต้องมีคนรับผิดชอบ หลังทหารกัมพูชาจุดประทัดระหว่าง AOT ลงพื้นที่

ผบ.ทร.ชี้ตึกกาสิโนกัมพูชา ล้ำแดน บ.ท่าเส้น ต้องรื้อเท่านั้น

ทภ.2 เปิดพฤติกรรม "ทหารเขมร" ลอบวางทุ่นระเบิดสังหาร