ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เอเชียอ่วม! พายุโหมถล่ม 4 ประเทศ คร่าชีวิตกว่า 900 อพยพอีกนับล้าน

ภัยพิบัติ
14:16
61
เอเชียอ่วม! พายุโหมถล่ม 4 ประเทศ คร่าชีวิตกว่า 900 อพยพอีกนับล้าน
อ่านให้ฟัง
06:12อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เอเชียเผชิญฝนสุดขั้วจากพายุ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ดินถล่มในหลายประเทศ คร่าชีวิตกว่า 900 คน สูญหายนับพัน อินโดนีเซีย–ศรีลังกา–ไทย–มาเลเซีย รับผลกระทบหนัก นักวิทยาศาสตร์เตือนภูมิภาคนี้เป็นแนวหน้าของสภาพอากาศสุดโต่งที่รุนแรงขึ้นทุกปี

วันนี้ (1 ธ.ค.2568) CNN วิเคราะห์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เอเชียกลายเป็นภาพสะท้อนของโลกที่กำลังร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว พายุ 2 ลูก ได้แก่ ไต้ฝุ่นโคโตะทางฟิลิปปินส์ และไซโคลนเซนยาร์ ที่ก่อตัวอย่างผิดธรรมชาติในช่องแคบมะละกา ที่ ๆ ปกติแทบไม่เคยเป็นแหล่งกำเนิดพายุรุนแรงเช่นนี้ ได้ส่งแรงปะทะเข้าหากันจนเกิดสายฝนหนักแบบสุดขั้ว ทำให้เกิดน้ำท่วมขนาดใหญ่ ดินถล่ม และความสูญเสียในอินโดนีเซีย ไทย ศรีลังกา และมาเลเซีย คร่าชีวิตรวมกว่า 900 คน สูญหายนับร้อย และทำให้ผู้คนนับล้านต้องอพยพอย่างสิ้นหวังกลางคืนที่ฝนไม่หยุดตก

เหตุรุนแรงครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียง "ภัยพิบัติรายประเทศ" แต่คือสัญญาณเตือนระดับภูมิภาค ว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวสู่จุดที่โลกกำลังถกเถียง เราจะรับมือกับสภาพอากาศสุดขั้วแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ?

สุมาตราจม สังเวย 440 คน สูญหายอีก 402

สถานการณ์เลวร้ายที่สุดเกิดใน จ.อาเจะห์ และ สุมาตราเหนือ ซึ่งแผ่นดินถล่มและน้ำหลากจากไซโคลนเซนยาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 440 คน และยังสูญหายอีก 402 คน การกู้ภัยเป็นไปอย่างยากลำบากเพราะหลายพื้นที่ถูกตัดขาด ถนนพัง และโคลนหนาเป็นเมตร เฮลิคอปเตอร์ต้องลำเลียงอาหารและสิ่งของลงจุดกระจายตามหมู่บ้าน ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งต้องแย่งชิงน้ำและอาหารก่อนที่ความช่วยเหลือจะเดินทางมาถึง

เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าสาเหตุเกิดจากความหวาดกลัวว่าจะถูกทิ้งไว้โดยปราศจากเสบียง ขณะที่ชาวบ้านบางรายเล่าว่าไม่สามารถนำทรัพย์สินใดติดตัวออกมาได้เลย บ้านถูกน้ำพัดพังลงในเวลาเพียงไม่กี่นาที

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

170 คนในหาดใหญ่ดับจากฝนครั้งประวัติศาสตร์

ในประเทศไทย สถานการณ์ไม่ต่างกันมากนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ จ.สงขลา และ เมืองหาดใหญ่ ได้รับผลกระทบหนักสุด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 170 คน (ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 30 พ.ย.2568) และประชาชนกว่า 3,500,000 คน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่มีความรุนแรงเข้าขั้น "ฝนที่ตกหนักสุดในรอบ 300 ปี" ตามรายงานของ CNN 

น้ำสูงกว่า 3 เมตรในตัวเมือง ทำให้ถนนจม บ้านเรือนถูกตัดขาด และโรงพยาบาลต้องอพยพผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน หนึ่งในเหตุการณ์ที่ชวนสะเทือนใจคือ กรณีครอบครัวในหาดใหญ่ต้องใช้ชีวิตบนชั้น 2 ของบ้านติดต่อกันเกือบ 48 ชั่วโมง ระหว่างรอน้ำลด เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องบินลำเลียงผู้ป่วยที่ต้องใช้ออกซิเจน รวมถึงช่วยเหลือนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 รายที่ติดอยู่ในสงขลา

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

บ้านเรือน 25,000 หลังถูกถล่มจากไซโคลนดิตวาห์ 

ศรีลังกาเองก็ต้องรับมือกับหายนะครั้งใหญ่จากไซโคลนดิตวาห์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 334 คน และผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 1,100,000 คน บ้านเรือนกว่า 25,000 หลังถูกทำลาย อีกกว่า 147,000 คนต้องละทิ้งบ้านไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ชาวบ้านเล่าถึงการหนีน้ำที่พัดเข้ามาอย่างเร็วเกินคาดว่า หลายคนเก็บของแม้แต่อาหารและเสื้อผ้าไม่ทัน บางครอบครัวต้องพึ่งอาหารจากมัสยิด ขณะที่เด็กจำนวนมากเริ่มป่วยจากสภาพอากาศและความเครียดในศูนย์อพยพ

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

มาเลเซียน้ำท่วมรุนแรง แม้เตรียมอพยพล่วงหน้า

ในมาเลเซีย พายุเซนยาร์ซัดขึ้นฝั่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ประชาชนราว 34,000 คนถูกสั่งอพยพล่วงหน้า แม้รัฐบาลจะจัดศูนย์หลบภัยรองรับ แต่บางครอบครัวก็ยังติดค้างกลางทุ่งน้ำท่วมและรอให้ญาติช่วยช่วย สภาพน้ำสูงและเชี่ยวในบางพื้นที่ทำให้ผู้ประสบภัยเปรียบเทียบว่าเป็นความรุนแรงที่ไม่เคยพบมาก่อน

นักวิทยาศาสตร์เตือนมานานแล้วว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เปราะบางที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนความจริงนั้นอย่างชัดเจน สภาพอากาศสุดขั้วครั้งนี้เกิดจากการปะทะกันของพายุ 2 ลูก ทั้งไต้ฝุ่นโคโตะในฟิลิปปินส์ และไซโคลนเซนยาร์ ที่เกิดขึ้นผิดปกติในช่องแคบมะละกา ทำให้ลม–ฝนถูกดูดเข้าหากันจนกลายเป็นฝนหนักผิดฤดูกาล

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ขณะเดียวกัน หลายประเทศในภูมิภาค เช่น เวียดนามและฟิลิปปินส์ ก็เพิ่งเผชิญพายุรุนแรงและฝนที่ทำให้เกิดดินถล่มและน้ำท่วมขนาดใหญ่ ก่อนที่อาเซียนจะเจอคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีเมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เหตุการณ์ต่อเนื่องเหล่านี้ทำให้คำเตือนเกี่ยวกับสภาพอากาศสุดโต่งที่รุนแรงขึ้นกลายเป็นความจริงที่ประชาชนต้องเผชิญอยู่ทุกปี

อ่านข่าวอื่น :

น้ำท่วมใต้กระทบ "อุตสาหกรรมกุ้ง" ประเมินเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

อินโดฯ กู้ภัยน้ำท่วม-ดินถล่ม เสียชีวิตทะลุ 440 สูญหายอีกว่า 400 คน