ด้วยคำพูดตำหนิ และให้นายกฯ แป้น นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้จบ ขอโทษประชาชน แล้วลาออกจากตำแหน่ง ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ในวงประชุมส่วนงานราชการ ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล ร่วมอยู่ด้วย ยิ่งตอกย้ำความผิดพลาดต่อการรับมืออุทกภัยครั้งใหญ่ของเมืองหาดใหญ่
คลิปภาพดังกล่าว ได้ถูกนำไปแชร์ลงโซเชียลในหลายมุมในเวลาต่อมา ยิ่งปลุกเร้ากระแสความไม่พอใจของคนในหาดใหญ่ ให้เพิ่มดีกรีมากขึ้น เพราะเสมือนว่า ผู้ใหญ่ในรัฐบาลยังก็ยังเห็นกับการลาออก
หลังจากนายกฯ แป้น ทำคลิปรับมือน้ำท่วมหาดใหญ่ วันที่ 21 พ.ย. เผยแพร่ทางโซเชียล โดยย้ำว่า น้ำแห้งหมดแล้ว ฝนจะหมดวันที่ 22-23 พ.ย.นี้ ขอให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วม และที่ อ.สะเดา ก็ไม่มีน้ำแล้ว
ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแบบผิด ๆ ให้กับคนหาดใหญ่ และคนในโลกโซเชียล จนไม่ได้ระมัดระวังเตรียมพร้อมอะไร เพราะเป็นการสื่อสารของผู้บริหารท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง
ถึงแม้ชาวเมืองหาดใหญ่จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนจาก เซลล์บรอดแคส ในเวลาต่อมา ให้เตรียมขนย้ายของขึ้นที่สูง แต่ไม่มีรายละเอียดใด ๆ ว่า ต้องสูงขนาดไหน ส่วนใหญ่คิดว่าขึ้นชั้น 2 ก็คงปลอดภัยแล้ว จึงนำไปสู่ความเสียหายทั้งทรัพย์สิน และชีวิตของผู้คน ไม่ได้ตระเตรียมแม้แต่อาหารการกิน
เมื่อมีสัญญาณให้มีการอพยพผู้คน ก็ไม่มีแผนการล่วงหน้าว่าจะอพยพไปยังจุดไหน และด้วยวิธีการใด ทั้งที่ในขั้นตอนการรับมือภัยพิบัติถึงขั้นต้องอพยพผู้คน จะต้องมีแผนการล่วงหน้าพร้อมรายละเอียดแจ้งให้ทราบก่อน
ความเดือดร้อนทุกข์ยาก ขาดทั้งอาหารและน้ำดื่มสะอาด ขาดการช่วยเหลือผู้ติดเกาะที่ออกจากบ้านเรือนที่พักไม่ได้ กระทั่งมีผู้เสียชีวิตล้มตายร่วม 200 คน จุดชนวนความไม่พอใจการรับมือและความช่วยเหลือทั้งต่อระดับท้องถิ่นและรัฐบาลกลาง
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ร้อนแรงระอุทั้งในโซเซียล และการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ แม้ทางการจะลงดาบเชือดนายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหาดใหญ่ และตำรวจภาค 9 จะสั่งเด้งผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ เพชรหนองชุม เซ่นปมไม่อยู่ขณะน้ำท่วม แต่ไม่อาจลดดีกรีความไม่พอใจของผู้ประสบภัยได้ เพราะเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น ใหญ่และกระจายพื้นที่กว้างขวางเกินกว่า ขรก.และตำรวจระดับนี้จะรับมือได้โดยลำพัง
นายกฯ แป้น จึงเป็นเป้าถัดมา ในฐานะนายกเทฯมนตรีนครหาดใหญ่ หลังจากถูกถามหาในโลกโซเชียล ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร บ้างก็ว่าสมควรต้องลาออก กระทั่งนายกฯ แป้น ต้องตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ยอมพูดอะไรชัดเจน นอกจากระบุว่า จะไม่เล่นการเมืองอีกต่อไป ส่วนครั้งนี้จะลาออกหรือไม่ ขอเวลาพิจารณาในการตัดสินใจ
ไม่เพียงเท่านั้น ยังถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องพยายามอิงการเมืองเพื่อความอยู่รอดด้วยหรือไม่ และพบว่า เคยเป็นสมาชิกหลายพรรคการเมือง ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคก้าวไกล ล่าสุดเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ18 ส.ค.2568 ก่อนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค
อย่างไรก็ตาม แม้จะโดนกดดันจากกระแสสังคม และฝ่ายการเมืองผ่านคำพูดซึ่งหน้าของนายชาดา ให้นายกฯ แป้นลาออก ซึ่งความจริงเป็นเรื่องที่ไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
แต่เรื่องนี้ ไม่แคล้วจะย้อนกลับไปที่เดิม คือ การเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ จะรับมือและจัดการกับอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้างในหลายพื้นที่โดยลำพังได้หรือไม่
หรือหวังจะตัดตอนและกลายเป็น”แพะ”รับบาป สังเวยน้ำท่วมใหญ่ ต่อจากนายอำเภอหาดใหญ่และผู้กำกับการ สภ.หาดใหญ่ โดยไม่ให้มีอะไรแตะต้องไปถึงระดับที่สูงกว่า หรือระดับ “บิ๊ก” ในมหาดไทย หรือในรัฐบาลได้
เรื่องนี้ ยิ่งสาวยิ่งสับสน ยิ่งชวนงุนงงสงสัย
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ฟื้นชีวิตคนจนเมืองหาดใหญ่ หลัง "มหาอุทกภัยภาคใต้"
ปภ.โอนเงินน้ำท่วม 9,000 บ.ครั้งที่ 3 ให้ 5 จังหวัด รวมกว่า 630 ล้าน
"ภูเขาขยะ" กลางเมืองหาดใหญ่ ชาวบ้านวอนหาพื้นที่พักขยะสำรองแห่งใหม่











