วันนี้ (8 ธ.ค.2568) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ขณะนี้สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยในบางจุดได้เกิดเหตุการใช้อาวุธระหว่างกำลังทหารฝ่ายไทยกับกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียง จึงจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการระมัดระวังและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
กอ.รมน. ขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีการใช้อาวุธหรือพื้นที่เสี่ยงอพยพออกจากพื้นที่ชั่วคราวตามเส้นทางและจุดปลอดภัยที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครองกำหนดไว้ โดยเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก/เลขาธิการ กอ.รมน. ได้มอบหมายให้ รอง ผอ.รมน.จังหวัด (ฝ่ายทหาร) ทำหน้าที่สำคัญในการบูรณาการกำลังและการปฏิบัติงานร่วมกับฝ่ายปกครอง (นายอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ) เพื่อดำเนินการอพยพประชาชนในพื้นที่ส่วนหลังอย่างมีระบบ โดยปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการในพื้นที่ส่วนหลังของจังหวัด ให้จัดกำลังสนับสนุนจากมวลชน กอ.รมน. ได้แก่ ไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.), เครือข่าย พคบ., ผู้นำชุมชนและภาคประชาสังคม รวมถึงประสานเส้นทางปลอดภัย จุดรวมพลและการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และรายงานสถานการณ์ ความต้องการเร่งด่วนกลับสู่ศูนย์อำนวยการอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ กอ.รมน. ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสังเกตการณ์และแจ้งเบาะแสที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เช่น บุคคลต่างชาติที่มีพฤติกรรมลับล่อ หรือหลีกเลี่ยงการแสดงตน, การถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลในพื้นที่หวงห้าม, การเข้าพื้นที่ต้องห้ามโดยไม่มีเหตุผล, การติดต่อหรือเคลื่อนไหวผิดปกติใกล้พื้นที่ราชการหรือพื้นที่ด้านความมั่นคง โดย กอ.รมน. ขอยืนยันว่า ข้อมูลที่ประชาชนแจ้งจะถูกเก็บเป็นความลับและใช้เพื่อความปลอดภัยส่วนรวม โดยสามารถแจ้งผ่าน
- สายด่วน 191 และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
- สายด่วนความมั่นคง กอ.รมน. 1374 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
- สายด่วนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด 1567
- หน่วยทหารและฝ่ายปกครองในพื้นที่ หรือเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย
อ่านข่าว : พล.ต.วินธัย ย้ำปฏิบัติการทางอากาศที่ตั้งอาวุธ-ฐานโดรนกัมพูชา ยับยั้งโจมตีไทย











