วันนี้ (9 ธ.ค.2568) พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม นำทีมโฆษกเหล่าทัพร่วมแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า จากกรณีเหตุปะทะเมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) ฝ่ายกัมพูชา มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง และมีการใช้ BM 21 เข้ามาโจมตียังพื้นที่พลเรือน ส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิง ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีลักษณะการเคลื่อนย้ายอาวุธยิงระยะไกล เข้ามาในพื้นที่ของไทย
ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงการณ์ให้กับคณะทูต ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศจำนวน 73 ประเทศ ไปแล้วโดยเน้นย้ำในเรื่อง 5 ประเด็นสำคัญซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทยไม่สามารถอดทนอดกลั้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้คือ
1 สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การกระทำแบบเดิมของกัมพูชา รุกรานไทย รวมถึงการยั่วยุในรูปแบบต่างๆ การลอบวางทุ่นระเบิดของกัมพูชา ถึงแม้ว่ากัมพูชาจะพยายามสร้างภาพเรียกร้องสันติภาพ แต่กลับเป็นฝ่ายยั่วยุต่างๆ ก่อนเสมอ
2.ไทยมุ่งมั่นปกป้องอธิปไตย และ บูรณภาพดินแดน เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นต้องดำเนินการทางทหารจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดน
3.ประชาชนคนไทยหมดความอดทน อดกลั้น ต่อการดำเนินการของกัมพูชาที่ไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของประเทศไทย รวมถึงการที่คนไทยต้องเผชิญกับภัยคุกคามกับความปลอดภัยครั้งแล้วครั้งเล่า ดังนั้นรัฐบาลไทยจึงต้องใช้ให้ความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สินจนกว่าอธิปไตยและบูรณภาพดินแดนของไทยจะไม่ถูกคุกคาม
4. ท่าทีของไทยรวมถึงการปฏิบัติการทางทหารจะดำเนินไปจนกว่า กัมพูชาต้องเปลี่ยนแปลงจุดยืนเช่นการกลับเข้ามาสู่ทางเดินสันติภาพที่แท้จริง
5. กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงต่างๆ รวมถึงข้อตกลงหยุดยิง และ ถ้อยแถลงร่วมที่ได้มีการลงนาม ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งทั้ง 5 ประเด็นสำคัญที่ทำให้ไทยหมดความอดทนอดกลั้น ทำให้จำเป็นต้องตอบโต้การยิงของฝ่ายกัมพูชา
ทั้งนี้ยืนยันว่า ฝ่ายไทยดำเนินการต่างๆ ตามหลักมนุษยธรรม โดยยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่มีเป้าหมายเพื่อจำกัดความรุนแรงของการปะทะโดยเน้นการคุ้มครอง พลเรือนผู้บาดเจ็บ แยกแยะเป้าหมาย ความเป็นสัดส่วนและความจำเป็นทางทหาร ต่างจากอาวุธที่ทางฝ่ายกัมพูชาใช้โดยสิ้นเชิง ที่ได้ส่งผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือนผู้บริสุทธิ์
การปฏิบัติการทางฝ่ายไทย เป็นการปฏิบัติที่เน้นในเรื่องของการโจมตีเป้าหมายทางทหารเพื่อลิดรอนขีดความสามารถทางทหารของกัมพูชาเท่านั้น ขณะที่การใช้อาวุธของกัมพูชายังคงเป็นลักษณะในการมุ่ง ไปยังเป้าหมายของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และสถานที่พลเรือน สถานพยาบาลต่างๆ ซึ่งเป็นการมุ่งหวังให้เกิดความโกลาหลและตื่นตระหนกของประชาชนผู้บริสุทธิ์ พร้อมเน้นย้ำว่า ไทยต้องการสันติภาพ แต่สันติภาพนั้นจะต้องมาพร้อมกับความปลอดภัยและความมั่นคงของประชาชนเป็นสำคัญ
อ่านข่าว :
ทภ.2 รายงาน ทหารไทย เสียชีวิตเพิ่ม 1 นาย เจ็บ 1 นาย
ทร.ยืนยันไม่ได้ใช้อาวุธเคมี กรณีปฏิบัติการทางทหารต่อ "กำลังพลกัมพูชา" รุกล้ำพื้นที่ จ.ตราด











