วันนี้ (12 ธ.ค.2568) นายเชษฐา ทรัพย์เย็น อาจารย์ภาควิชาการบริหารและจัดการการเมือง มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ให้สัมภาษณ์รายการมุมการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยุบสภาฯ แล้ว ผิดจากที่คาดการณ์หรือไม่ นายเชษฐา กล่าวว่า ผิดจากที่คาดการณ์ เพราะสถานการณ์ประเทศภาพใหญ่มันยังไม่ชี้ชวน ว่าจะเกิดการยุบสภาฯเร็ว ๆ นี้ ปรากฏว่า ช็อกวงการการเมืองทีเดียว
แต่เท่าที่ติดตามที่มาที่ไป หากคิดในบางแง่มุม มันก็มีโอกาสเกิดขึ้น เพราะตัว สว.เขานำเรื่องการสงวนความเห็น 1 เสียง จากกรรมาธิการขึ้นมาเสนอใหม่ในรัฐสภา และข้อสงวนนี้ให้ สว.ยังมีส่วนร่วมถูกพิจารณาอย่างกว้างขวางมากเลย คอการเมืองที่เห็นก็ว่าสัญญาณไม่ดีแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะไปไกลถึงขั้นยุบสภาฯ
สิ่งที่ สว.เสียงข้างน้อยหยิบยกมาแล้ว ทำให้พรรครัฐบาลเห็นชอบ ถ้าดูโครงสร้างการเห็นชอบ กลุ่ม สว.และพรรคร่วมทั้งหมด ส่วนที่ไม่เห็นชอบให้ สว.มามีส่วน 1 ใน 3 ก็จะเป็นฝ่ายค้านปัจจุบัน และมีพรรคประชาธิปัตย์สายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสังเกตว่า โครงสร้างสองกลุ่มนี้มันชัดเจนว่า แต่ละกลุ่มคงตามเจตนารมณ์เดิมที่มีมาหลายปี
รัฐบาลปัจจุบันก็เป็นไปตามที่เคยร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และยืนยันว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีที่สุด จนมาปรากฏผลเอาเมื่อวาน ในการยืนยันเจตนารมย์เดิม ส่วนฝั่งที่แพ้ พวกนี้ก็เป็นสายปฏิรูปก้าวหน้าที่อยากจะแก้มานานแล้ว
สรุปแล้วดูเหมือนคนที่ลงคะแนน มันก็กลิ่นอายมรดกตกทอดจากช่วงรัฐบาลลุงตู่ โครงสร้างมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเกมลวงค่ายสีส้มแบบต้มส้มหม้อใหญ่ หรือคิดว่าค่ายสีส้มรู้อยู่แล้ว นายเชษฐากล่าวว่า หัวหน้าเท้ง (นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ) ยืนยันมาตลอดว่า เขาต้องการแค่แก้รัฐธรรมนูญ เขาก็ผลักดันภูมิใจไทย แม้จะรู้ว่าเสี่ยง แต่มันทำให้เขามีโอกาสมากที่สุด
ถ้าเมื่อวาน (11 ธ.ค.2568) โหวตรับร่างของกรรมาธิการมันยังมีเวลา 15 วัน ในการดีลทางการเมือง แต่ปรากฏว่า รัฐบาลกับ สว.รวมกันโหวตเลยว่า ให้มี สว.1 ใน 3 ก่อนจะไปประชามติ แสดงว่า เขาคุยกันมาแล้วในการคงเจตนารมย์เดิม
ถ้ามองในมุมนี้คือ พรรคประชาชนถูกต้ม มันจะสวิงกลับมาโดยพรรคเพื่อไทยที่ดาหน้าออกมาถล่มพรรคประชาชนเลย หนักกว่าถล่มรัฐบาล ซึ่งมันผิดปกติสำหรับฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า แสดงว่ามันไม่ได้มาเกิดขึ้นหน้างาน นายเชษฐากล่าวว่า โดยปกติการสงวนความเห็นของเสียงข้างน้อยในกรรมาธิการแค่หนึ่งเสียง มันจะไม่ค่อยมีน้ำหนัก แต่ครั้งนี้กลับมีน้ำหนักเยอะมาก แสดงว่าคุยกันมา ตัวพรรคประชาชนไม่ได้เตรียมใจกับเรื่องนี้ เพราะเท่าที่เห็นการลุกขึ้นอภิปรายเมื่อวาน เขาก็จะมีข้อครหาจากฝั่งเพื่อไทย มันอ่อนด้อยการเมือง ตามเกมเขาไม่ทัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ามองในแง่ร้ายว่า เป็นเกมชิงความได้เปรียบ ใครได้ใครเสีย นายเชษฐากล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ ฟื้นขึ้นมาจากกรณีหาดใหญ่ มาเก็บคะแนนบริเวณชายแดน และตุนคะแนนเสียง ในการเอาเงินคนละครึ่งพลัสหว่านไป ต่อมาเขายังคงความนิยมในฝั่งอนุรักษ์นิยมได้ โดยเติมรัฐธรรมนูญไม่ให้เปลี่ยนแปลง คะแนนเสียงฝั่งอนุรักษ์ก็พึงพอใจ
ประการต่อมา หากรัฐธรรมนูญผ่านวาระสามได้ พรรคสีส้มจะได้เปรียบ แต่ตอนนี้มันกลายเป็นพรรคสีแดงแทนเพราะ MOA มันล่ม สีแดงบอกเลยว่าสีส้มประสบการณ์ไม่พอ
เมื่อถามว่า ตอนสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ฝั่งผู้สนับสนุนพรรคประชาชน ก็ตั้งคำถามกับพรรคตัวเอง ถึงนาทีนี้ เขาเสียคะแนนกลุ่มนี้ไปเยอะหรือไม่ นายเชษฐากล่าวว่า สมัยนั้นสำรวจมามีราว 30 % ที่ไม่เห็นด้วยให้พรรคประชาชนไปหนุน ผ่านมาแค่สามเดือน แล้วแผลมันถูกย้ำ มันทำให้ความไม่พอใจถูกจุดขึ้นมา แล้วถ้าพรรคสีแดงหาเสียงดี ๆ ทำนองว่าต้องเก๋าเกมอะไรก็ตามและเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯดี ๆ มีโอกาสดึงเสียงออกมาจากสีส้มได้มากกว่ารอบที่แล้ว
เรียบเรียง : อุรชัย ศรแก้ว ผู้สื่อข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : "วราวุธ" นำ 10 อดีต สส.ลาออกพรรคชาติไทยพัฒนา สวมเสื้อภูมิใจไทย 15 ธ.ค.นี้
"ปชน." แถลงเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ประกาศส่งผู้สมัครทุกจังหวัด
สะบั้น “เอ็มโอเอ” ยุบสภา เมื่อ “ต่อรอง-อำนาจ” ไม่ลงตัว
แท็กที่เกี่ยวข้อง:











