วันนี้ (14 ธ.ค.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่สังคมให้ความสนใจและมีข้อสงสัยในประเด็นเรื่องการหยุดยิงว่า กองทัพบกไม่เคยกล่าวถึง หรือมีแนวการปฏิบัติในเรื่องนี้ เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชายังคงใช้อาวุธหนัก จรวด BM-21, เครื่องยิงลูกระเบิด และโดรนพลีชีพ โจมตีทหารไทยในพื้นที่ตลอดแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนชาวไทยอย่างร้ายแรง
โดย พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางการปฏิบัติเฉพาะส่วนอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันยืนยันว่า ยังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการของหน่วยในพื้นที่การรบแต่อย่างใด ยังคงสั่งการให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบตลอดแนวชายแดน เดินหน้าปฏิบัติการตามแผนที่กำหนด
พร้อมบูรณาการร่วมกับเหล่าทัพ และหน่วยงานอื่น ๆ ในการปฏิบัติอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันผู้บัญชาการทหารบกได้กำชับให้กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 เน้นย้ำกำลังพล เรื่องการปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ดำเนินกลยุทธ์ด้วยความรอบคอบ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักคือ
การผลักดัน และมุ่งทำลายขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชา
ทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รวมถึงองค์ประกอบสนับสนุนอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม พร้อมยืนยันว่ากองทัพบกไทยโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยเพียงเท่านั้น และการสถาปนาพื้นที่ เข้าควบคุมบริเวณที่เคยมีการรุกล้ำเขตอธิปไตยไทย และเสริมความมั่นคงให้มีความสมบูรณ์ เอื้อต่อการปฏิบัติการทางทหารต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก กำกับดูแลใส่ใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บและสูญเสียจากสถานการณ์การสู้รบ รวมถึงครอบครัวกำลังพล อย่างครอบคลุม ทั้งด้านการรักษาพยาบาล สิทธิและสวัสดิการ
รวมทั้งการอำนวยความสะดวกครอบครัว ในการเข้าเยี่ยมเยียน หรือประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างเต็มที่และดีที่สุด ซึ่งในพิธีศพของกำลังพล ผู้บัญชาการทหารบกได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ลงพื้นที่ร่วมประกอบพิธีสดุดีวีรชนอย่างสมเกียรติ พร้อมปลอบขวัญและเสริมสร้างกำลังใจให้กับครอบครัว ขอบคุณแนวหลังของทหารกล้าผู้เสียสละในการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้อย่างเต็มภาคภูมิ
กองทัพบกขอยืนยันในปฏิบัติการครั้งนี้ว่า ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาหยุดความเป็นปรปักษ์ โจมตีต่อกำลังทหารไทยและประชาชนในพื้นที่ชายแดน โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก พร้อมตรึงกำลังการปฏิบัติ และตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังตามแผนปฏิบัติการที่กำหนดและเป็นไปตามหลักกติกาสากล เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช และดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนชาวไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ
อ่านข่าว : กองทัพไทย สั่งปิดกั้นอ่าวไทย สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัย ลำเลียงเข้ากัมพูชา











