การนิคมฯยืนยันน้ำที่สูบออกจากนิคมไฮเทคไม่มีสารเคมีปนเปื้อน

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยยืนยันน้ำที่สูบออกจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และไม่มีสารเคมีปนเปื้อน

เจ้าหน้าที่จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมร่วมกันเก็บตัวอย่างน้ำจากปลายท่อสูบของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปตรวจวัดคุณภาพน้ำ โดยกรมควบคุมมลพิษได้แบ่งการตรวจออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก จะเป็นการดูลักษณะทางกายภาพ ทั้งสีและกลิ่น และมีคราบน้ำมันหรือไม่ หลังจากนั้นจะเก็บตัวอย่างน้ำบางส่วนไปตรวจวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการทางเคมี เพื่อดูค่าออกซิเจนละลายในน้ำ ค่าการนำไฟฟ้า อุณหภูมิของน้ำ และ ค่าความเป็นกรด-ด่าง หรือ ค่า PH

นอกจากนี้ ยังใช้เครื่องมืออีกชุดในการตรวจสอบหาค่าโลหะหนัก และการปนเปื้อนสารไซยาไนต์ ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคุณภาพน้ำยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และมีคุณภาพดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งกรมควบคุมมลพิษจะเข้าเก็บตัวอย่างทุกวัน จำนวน 5 จุดจากปลายท่อสูบ ซึ่งเริ่มเก็บตัวอย่างมาตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หรือ วันแรกตั้งแต่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทคเริ่มสูบน้ำออกนอกนิคมฯ ส่วนกรมอนามัยจะเก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อตรวจวิเคราะห์หาค่าแบคทีเรีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ

ขณะที่การนิคมอุตสาหกรรมยืนยันว่า คราบน้ำที่พบในบริเวณนี้มีปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ใช่ชิ้นส่วนยานยนต์ และหากตรวจพบ จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการกำจัด และฉีดพ่นสารเคมีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้น้ำมันกระจาย และน้ำที่อยู่ชั้นล่างลงไปได้รับแสงแดด พร้อมยืนยันว่า น้ำที่สูบออกจากพื้นที่นิคมฯ ไม่ปนเปื้อนสารเคมี

สำหรับการสูบน้ำออกจากพื้นที่นิคมไฮเทคส่วนใหญ่จะสูบออกจากบริเวณคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออก และ จะลอดใต้ถนนสายเอเชีย ออกสู่พื้นที่ฝั่งรังสิตต่อไป ซึ่งผลการระดมสูบน้ำ ทำให้ระดับน้ำภายในนิคมอยู่ที่ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร คาดว่าจะใช้เวลาสูบอีก 2 วัน จึงจะสามารถให้รถขนาดใหญ่สามารถสัญจรเข้าไปภายในนิคมแห่งนี้ได้ และสามารถกลับมาเดินสายการผลิตได้ภายในกลางเดือนธันวาคมนี้