วันนี้ (16 ธ.ค.2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า รัฐบาลได้เห็นชอบแนวทางการยื่นคำถามประชามติ เพื่อถามประชาชนว่าต้องการให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ โดยเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในกระบวนการ
รัฐบาลพิจารณาไว้ 2 แนวทางหลัก แนวทางแรกคือการเสนอโดยตรงจาก ครม. โดยอ้างจากนโยบายที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีเจตนารมณ์ชัดเจนจากสภาและรัฐสภา รวมถึงประเด็นกฎหมายเรื่องกำหนดระยะเวลาการบริหารงานของรัฐบาล ช่องทางนี้จะช่วยปลดล็อคปัญหาเรื่องเวลาได้
แนวทางที่ 2 คือการเสนอตามมาตรา 9(4) โดยใช้ความเห็นชอบจากรัฐสภา แล้วนำเสนอต่อ กกต.
ไม่ว่าจะเลือกแนวทางใด สุดท้าย กกต. จะเป็นผู้ตัดสินใจ โดยรัฐบาลมีความเห็นเพิ่มเติมว่าควรจัดการลงประชามติในวันเดียวกับการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อประหยัดงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ต้องรอความเห็นจากกกต.อีกครั้ง หากไม่มีอุปสรรค คาดว่าไทม์ไลน์จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในสิ้นปีนี้
ในส่วนของการยกเลิกบันทึกความเข้าใจ (MOU) เรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ปี 2543-2544 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอแนวทางให้รวมไว้ในคำถามประชามติ จากการศึกษาของคณะทำงานและคณะกรรมการวิสามัญ พบว่า MOU ปี 2543 ยังมีผลบังคับใช้ต่อไป อาจปรับปรุงได้ แต่ MOU ปี 2544 ในทางปฏิบัติไม่มีผลผูกพัน จึงเสนอให้ทำประชามติยกเลิกเฉพาะปี 2544
อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (กฤษฎีกา) มีความเห็นขัดแย้ง โดยชี้ว่าทั้ง 2 ฉบับมีผลผูกพันไปจนถึงรัฐบาลชุดต่อไป และขาดเจตจำนงหรือคำยืนยันจากรัฐสภา ทำให้ไม่สามารถดำเนินการประชามติยกเลิกได้ในขณะนี้
อ่านข่าวอื่น :
"อนุทิน" มอบคำขวัญวันเด็ก "รักชาติไทย ใส่ใจโลก"
มติ สมช.สกัดส่งออกน้ำมัน ยุทธปัจจัยไปกัมพูชา - จัดเครื่องบินเช่าเหมาลำรับคนไทย
อัล จาซีรา เผยชายแดนไทยยังตึงเครียด ชาวบ้านไร้ที่ทำกิน หวั่นจรวดกัมพูชาไม่สิ้นสุด











