วันนี้ (18 ธ.ค.2568) กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. การปะทะในพื้นที่ยังอยู่ในระดับความรุนแรงสูง โดยมีศูนย์กลางความรุนแรงในพื้นที่ตาควาย จ.สุรินทร์ และพื้นที่ห้วยตามาเรียและภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
ทหารกัมพูชาปฏิบัติการทางยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง มุ่งเข้าตียึดคืนที่หมายสำคัญในพื้นที่ดังกล่าว ด้วยการใช้จรวดหลายลำกล้อง (BM-21), เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 100 มม. และโดรนโจมตี ระดมยิงเข้าสู่พื้นที่การปะทะและพื้นที่ส่วนหลังอย่างหนาแน่น ส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่พลเรือน นอกจากนี้พบการใช้โดรนเพื่อโจมตีและหาพิกัด GPS สำหรับเป้าหมายทางทหารในพื้นที่ตอนใน
สำหรับฝ่ายไทย คุมอากาศยานไร้คนขับได้ดีขึ้นและมีการตอบโต้เชิงระบบ ทำให้สามารถควบคุมพื้นที่สำคัญได้หลายจุดและยังคงขยายการควบคุมตามแผนปฏิบัติการ ทำให้ภาพรวมกำลังพลฝ่ายไทยขวัญกำลังใจดี และการควบคุมสถานการณ์ยังมั่นคงดี
ส่วนชายแดน จ.อุบลราชธานี
- พื้นที่ช่องบก กำลังทั้ง 2 ฝ่ายปะทะอย่างต่อเนื่อง โดยปรากฏข่าวกัมพูชาเพิ่มเติมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่
- พื้นที่ช่องอานม้า ฝ่ายไทยปฏิบัติการเชิงรุกที่หมายตามแผน, ทำการเสริมความมั่นคงและจัดระเบียบใหม่ ณ ที่หมายซึ่งกัมพูชาไม่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฝ่ายไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เด็ดขาด
ชายแดน จ.ศรีสะเกษ
- พื้นที่ซำแต - โดนตรวล - ภูผี - สัตตะโสม - พนมประสิทธิโส - ช่องตาเฒ่า มีกระสุนปืนใหญ่ของทหารกัมพูชาตกบริเวณฐานทหารไทยหลายครั้ง ฝ่ายไทยยิงตอบโต้ไปในทิศทางที่ตรวจพบจากเครื่องมือค้นหาเป้าหมาย นอกจากนี้ยังตรวจพบโดรนข้าศึกจำนวนมาก โดยมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นายจากสะเก็ดจรวด RPG ในพื้นที่ซำแต
- พื้นที่บริเวณผามออีแดง - ห้วยตามาเรีย ทั้ง 2 ฝ่ายยังปะทะเป็นระยะ ด้วยปืนเล็กยาวและเครื่องยิงลูกระเบิดกันต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่นี้ถือว่าเป็นสงครามโดรนและการใช้อาวุธยิงระยะไกลอย่างเข้มข้น
- พื้นที่ภูมะเขือ - ช่องโดนเอาว์ - พลาญยาว - พลาญหินแปดก้อน ฝ่ายกัมพูชาใช้โดรนบินทิ้งระเบิดในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยยังมีการปะทะกันอย่างหนาแน่นจากการพยายามเข้าตียึดคืนพื้นที่ของทหารกัมพูชา ซึ่งทหารไทยตรวจพบ UAV 1 ลำและโดรน 4 ลำ บริเวณภูมะเขือและยังคงมีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกบริเวณทางขึ้นภูมะเขือ
ชายแดน จ.สุรินทร์
- พื้นที่ช่องจอม - ช่องเปรอ - ช่องระยี กัมพูชายิงจรวด BM-21 เข้ามาเป็นห้วงๆ ฝ่ายไทยเปิดปฏิบัติการเชิงรุกเข้าตีฐานเคลียงเมือง (ปีกขวาช่องจอม) สามารถเข้าควบคุมและเคลียร์ที่หมายได้สมบูรณ์ โดยมีการปักธงชาติไทยตามแนวคูเลต และฝ่ายไทยควบคุมพื้นที่และสถาปนาความมั่นคงได้สำเร็จ
- พื้นที่คนา ฝ่ายไทยสถานปนาความมั่นคง ณ ที่หมาย และตรึงกำลังตลอดแนวการวางกำลัง
- พื้นที่ตาควาย ทหารกัมพูชายิงเครื่องยิงลูกระเบิด, ปืนใหญ่และจรวด BM-21 เข้ามาเป็นระยะ รวมทั้งทหารกัมพูชายังคงเพิ่มเติมกำลัง โดยฝ่ายไทยพยายามดำเนินกลยุทธ์ต่อเนิน 350 แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ มีกำลังพลเสียชีวิต 2 นายจากการปะทะบริเวณพื้นที่ตาควาย ภาพรวมเป็นพื้นที่ปะทะหนัก แต่ฝ่ายไทยยังยึดพื้นที่หลักไว้ได้
- พื้นที่ช่องกร่าง ตรวจพบรถถังของทหารกัมพูชายิงมายังแนวการวางกำลังของฝ่ายไทย
- พื้นที่ตาเมือนธม ทหารไทยตรึงกำลังควบคุมพื้นที่ตลอดแนวการวางกำลัง โดยทหารกัมพูชายิงปืนใหญ่และจรวจ BM-21 เป็นระยะ และตรวจพบ UAV จำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจพบทหารกัมพูชาเพิ่มกำลังเข้ามาในพื้นที่ และตรวจพบรถถังทหารกัมพูชาบริเวณหน้าแนว ส่วนในช่วงเย็นมีกำลังพลบาดเจ็บ สถานการณ์เริ่มตึงเครียดและมีแนวโน้มยกระดับ
ชายแดน จ.บุรีรัมย์
- พื้นที่ช่องสายตะกู ฝ่ายไทยใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงตึกอาคารที่ถูกใช้เป็นฐานทหาร จุดปล่อยโดรนของกัมพูชาและสถานที่ตั้งสแกมเมอร์ อาคาร ตึกและพื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายอย่างมาก
สำหรับผลกระทบในพื้นที่พลเรือน 1 พื้นที่ คือ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ในพื้นที่ชุมชนยังตรวจพบกระสุน BM-21 ตก 2 จุด สะเก็ดระเบิดถูกหลังคาบ้านเสียหาย นอกจากนี้ยังมีกระสุนตกบริเวณไร่มัน ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์เสียหาย
อ่านข่าว
เขมรยิง BM-21 กระสุนตก 92 จุด สิ่งปลูกสร้างเสียหาย 23 หลัง
"จีน" ส่งทูตพิเศษเยือน "ไทย-กัมพูชา" ไกล่เกลี่ยหันหน้าหากัน-ฟื้นฟูสันติภาพ
เสธ ทร.จ่อประกาศเพิ่ม 5 จว.สกัดน้ำมัน-ยุทธปัจจัยไปกัมพูชา ยันไทยไม่ยึดเกาะกง-เกาะยอ











