ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ผบ.ตร." เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ กรณีพบโดรนปรากฎบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ

การเมือง
11:19
597
ผบ.ตร." เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ กรณีพบโดรนปรากฎบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ
"ผบ.ตร." เผย อยู่ระหว่างตรวจสอบ กรณี "โดรน" โผล่ สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ยืนยันมี 40 ลำ เตือน พวกคิดป่วน โทษหนักถึงขั้นประหาร-จำคุกตลอดชีวิต

วันนี้ (22 ธ.ค.2568) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกรณีพบอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บริเวณพื้นที่ตอนในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า แนวทางปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องโดรนเป็นการปฏิบัติร่วมภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านอากาศยานไร้คนขับของกองทัพอากาศ ตั้งแต่ที่มีมติ สมช.เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ดังนั้น การปฏิบัติดังกล่าวจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นวงใน วงกลาง และวงนอก ซึ่งวงในเรียกว่า “ไข่แดง” เป็น ทอ.และท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ดูแล ส่วนวงกลางเรียกว่า “ไข่ขาว” ตำรวจดูแล และวงนอก กองทัพบก ดูแล

ทั้งนี้ ตำรวจได้กำหนดมาตรการและแผนปฏิบัติ หรือ ยุทธศาสตร์เรื่องการป้องกัน ปราบปราม สืบสวนสอบสวน และการยกระดับความมั่นคงที่เกี่ยวกับระยะสั้นและระยะยาวไว้เป็นที่เรียบร้อย การดำเนินการและการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่มีรูปแบบทั้งของตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ที่ดูแลสนามบินมาเป็นต้นแบบ ซึ่งได้ออกแบบแผนเผชิญเหตุไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับวงนอกพื้นที่เป็นหน้าที่ ทบ. ซึ่งมีผลปฏิบัติอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนการบูรณาการและการแนะนำมีการปฏิบัติอยู่แล้ว โดยเห็นว่า การใช้ความร่วมมือของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. กสทช. ทอท. ตร. และกองทัพ ถือเป็นเรื่องสำคัญด้านการข่าวที่เราต้องนำมาประเมินและวิเคราะห์วางแผนปฏิบัติให้เป็นระบบและเกิดความสำเร็จต่อไป

ส่วนด้านกฎหมาย ความผิดกรณีผู้ที่ใช้โดรนในพื้นที่ห้ามบินหรือสนามบินเป็นการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 อันนี้มีโทษประหารชีวิต แต่หากสอบสวนแล้วพบว่า ผิดต่อความมั่นคงจะผิดต่อประมวลกฎหมายอาญา ในเรื่องความมั่นคงหมวด 2 และ 3 ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุกตลอดชีวิต

อยากบอกกับผู้ที่มีความคิดอาจจะป่วน หรือกระทำผิด ให้รู้ถึงโทษ ซึ่งตำรวจได้มีการกำหนดเป้าหมายที่จะทดสอบมาตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.เป็นต้นมา มีการตั้งจุดตรวจให้รู้ว่า เราจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่กระทบต่อความไม่สงบของประชาชนอย่างเด็ดขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับแจ้งมาตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. อยู่ระหว่างการดำเนินการด้วยการใช้ขีดความสามารถที่เรามี ในการดำเนินการอยู่ในเวลานี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่าโดรนที่ปรากฏที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้นตอมาจากที่ไหน ผบ.ตร. กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวน เมื่อถามว่า โดรนที่บอกว่าจำนวน 40 ลำ เป็นไปตามรายงานจริงหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นข้อมูลข่าวสารที่แจ้งเข้ามา ซึ่งการแจ้งอยู่ในแผนเผชิญเหตุ นับจากเวลาที่แจ้งได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปสนามบินสุวรรณภูมิบ้างแล้ว ซึ่งอยู่พื้นที่โดยรอบของสนามบินสุวรรณภูมิ เข้าไปร่วมปฏิบัติการกับผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรรมการผู้จัดใหญ่ได้มีการรับข้อมูล นับจากเวลารับข้อมูลจนถึงการปฏิบัติการเรายังไม่พบ เราได้รับข้อมูลเท่านั้น เป็นการรับข้อมูลมาเพื่อพิสูจน์ทราบและตรวจสอบ โดยกระบวนการและเครื่องมือที่เรามีอยู่ตามขีดความสามารถ

เมื่อถามย้ำว่า จะหาที่มาของโดรนได้ยากหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ขณะนี้ตั้งสมมติฐานก่อนว่า ได้รับแจ้งจำนวนกี่ลำ อยากใช้คำว่า “รับแจ้ง” แล้วเรื่องการป่วนหรือวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต้องใช้วิชาการสอบสวน เพราะบริเวณในท่าอากาศสุวรรณภูมิยังไม่มีกล้องหรือระบบที่เราสืบสวนและสอบสวนได้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีสืบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ตั้งโจทย์และธงไว้ว่าถ้าเป็นจริงจะต้องหาที่มา ที่ขึ้นบินของโดรน ใครเป็นผู้บังคับ ควบคุม หรือเจ้าของ และปลายทางไปไหน แต่เราต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า ข้อมูลเหล่านี้เกิดขึ้นจริงและมีจริง ขณะนี้ตั้งข้อสมมติไว้ร้ายแรงที่สุดแล้วนำไปสืบสวนตรวจสอบให้ได้

เมื่อถามอีกว่า หากโดรนมีจำนวน 40 ลำตามที่มีการรายงานจะถือว่า เป็นการก่อวินาศกรรมได้หรือไม่ เพราะพลเรือนไม่สามารถครอบครองได้จำนวนมากขนาดนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่ต้องเอามาดูร่วมกันกับฝ่ายความมั่นคง ตนต้องนำข้อมูลเหล่านี้รายงานทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพอากาศ (ศปก.ทอ.) ส่วนจะเข้าข่ายก่อวินาศกรรมหรือไม่ จากข้อมูลที่แจ้งจากการบิน ถ้าข้อมูลนั้นเป็นความจริงคือ เป็นการบินในระดับผ่านไป ต้องไปดูพฤติกรรมและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า จะถึงขั้นเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่ แต่ในฐานะที่ตนเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งเหล่าทัพและตำรวจ รวมถึง กพท.ต้องตั้งสมมติฐานขั้นร้ายแรงที่สุด และกำหนดแผนมาตรการป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นก่อเหตุหรืออะไรที่ไม่พึงประสงค์ และเกิดอันตรายต่ออากาศยานหรือพี่น้องประชาชน เราก็ต้องมีแผนปฏิบัติที่จะรองรับอย่างชัดเจนและเข้มข้นต่อไป

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประชาชนอาจเห็นเป็นโดรน แต่หลายครั้งพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นแสงจากอากาศยาน (เครื่องบิน) ซึ่งสามารถใช้แอปพลิเคชัน Flightradar ในการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ถ้าพบเห็นโดรนในพื้นใดขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีเพื่อใช้เป็นข้อมูลจุดปล่อยโดรนได้

นอกจากนี้ ตำรวจได้กำหนดแผนปฏิบัติเพื่อรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน จากการใช้อากาศยานไร้คนขับในการก่อเหตุหรือกระทำการไม่พึงประสงค์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว อีกทั้งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงความไม่สงบในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงขอยืนยันว่าจะให้การดูแลอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ใครปั่นป่วนสถานการณ์ได้

อ่านข่าว:

เกาหลีใต้ร่วมมือกัมพูชา จับกุม 26 สแกมเมอร์ชาวเกาหลี เตรียมส่งกลับประเทศ

ทภ.2 ตรวจพบจรวด BM-21 ตกพื้นที่ส่วนหลัง "พนมดงรัก" 4 ลูก

นิวเดลีวิกฤตหมอกควัน AQI พุ่ง 377 ชาวเมืองเที่ยวภูเขาสูงหาอากาศสะอาด