วันนี้ (23 ธ.ค.2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงเสียงวิจารณ์ว่าโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้ไปต่อหรือไม่ ว่า ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่านายบวรศักดิ์ อุวรรณโน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วว่ารัฐบาลรักษาการไม่สามารถดำเนินการโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้
ส่วนกรณีที่นางมนพร เจริญศรี อดีต รมช.คมนาคม แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า โครงการเงิน 10,000 บาท ถูกตีตก เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยเปลี่ยนงบไปใช้คนละครึ่ง นั้น นายสิริพงศ์ ระบุว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งคาดว่าเป็นการกล่าวที่ไม่รับผิดชอบต่อความล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่นโยบายของตนเอง ที่ได้หาเสียงไว้
พร้อมระบุว่า หากกลับไปดูมติคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 20 พ.ค. นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นแถลงข่าวด้วยตนเองว่า โครงการเงิน 10,000 บาทต้องชะลอไปก่อน เนื่องจากเหตุผลต่าง ๆ โครงการเงิน 10,000 บาทมีความจำเป็นน้อยกว่าการไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และหากจำได้ขณะนั้นใช้ระยะเวลาแปลงโครงการ 1.5 แสนล้าน ในเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์ ซึ่งทุกอย่างเร่งรีบ เพราะให้เหตุผลว่าโครงการเงิน 10,000 บาทมีความจำเป็นน้อยกว่าโครงการเหล่านั้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่โครงการเงิน 10,000 บาทเฟสนั้นไม่สามารถดำเนินการต่อได้ และเมื่อรัฐบาลนี้ได้เป็นรัฐบาล ก็ไม่มีงบประมาณที่ถูกจัดสรรไว้ในโครงการเงิน 10,000 บาท
ขณะที่โครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นการนำงบกลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้ โดยไม่ได้ตระเตรียมว่าจะนำงบประมาณมาจากแหล่งใด และหากเทียบกับเม็ดเงินมันก็กันมาก เพราะคนละครึ่ง พลัส ใช้เงินกว่า 40,000 ล้านบาท แต่เงิน 10,000 ในแต่ละเฟสใช้เงินกว่า 100,000 ล้านบาท
"ของเรา (รัฐบาลอนุทิน) กระตุ้นสั้นได้ผลยาว กระจายตัว แต่ที่ฟังชาวบ้านพูดมาโครงการที่แล้ว กระตุ้นสั้น แต่ซึมยาวซึม" นายสิริพงศ์ กล่าว
อ่านข่าว
คนละครึ่งเฟส 2 ส่อชะงัก กกต.แจ้งยึดเกณฑ์ความได้เปรียบเสียเปรียบ
ครม.เคาะงบกลาง 5 พันล้าน สนับสนุนเหล่าทัพป้องอธิปไตย
ครม.อนุมัติงบกลางจัดเลือกตั้ง สส. พร้อมทำประชามติ 8,978 ล้านบาท











