ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อนุทิน" นำภูมิใจไทยเปิดสโลแกน "พูดแล้วทำพลัส" สู้เลือกตั้ง 69

การเมือง
10:59
2,796
"อนุทิน" นำภูมิใจไทยเปิดสโลแกน "พูดแล้วทำพลัส" สู้เลือกตั้ง 69
อ่านให้ฟัง
01:53อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อนุทิน" นำพรรคภูมิใจไทยประกาศนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" สู้ศึกเลือกตั้ง 2569 ลุย 4 ปัญหาหลัก คือ เศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม และภัยพิบัติ ลั่นเลือกพรรคภูมิใจไทย จะได้ "อนุทิน" กลับมาเป็นนายกฯ

วันนี้ (24 ธ.ค.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรค ผู้สมัคร​ สส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และ​เขต​ รวม​ 500 คน​ พร้อมทั้ง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว มาร่วมงานอย่างคึกคัก

ทั้งนี้​ นายอนุทิน กล่าวเปิดเวทีเป็นคนแรก​ ว่า​ ก่อนหน้านี้​ มีความกังวลระดับหนึ่ง แต่วันนี้ความกังวลเปลี่ยนแปลงเป็นความมั่นใจ มีความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง​ เพื่อรับใช้ประเทศ และประชาชน การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญที่สุดตั้งแต่มีพรรคภูมิใจไทยมา เพราะเป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ว่า ประชาชนชาวไทยตั้งความคาดหวังไว้สูงกับการทำงานของพรรค จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากความพร้อมสูงสุดในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านบุคลากร นโยบาย และยุทธศาสตร์ ที่ต้องยกระดับเพิ่มขึ้น เป็นที่มาของสโลแกน "ภูมิใจไทยพูดแล้วทำพลัส"

นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยวันนี้ มีประสบการณ์การครบถ้วนทุกรูปแบบ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว ไม่ใช่เด็กละอ่อนอีกต่อไป ผ่านประสบการณ์บริหารทุกด้านมาแล้ว สามารถทำให้ประเทศไทย มีที่ยืนทุกมิติบนเวทีโลก นอกจากนี้ พรรคเคยผ่านงานท่ามกลางภาวะวิฤตครบทั้งภัยพิบัติ โรคระบาด ความมั่นคงชายแดน ตนอยู่กับพรรคมานาน 10 กว่าปี เห็นมาตลอดว่า สมัยก่อน ยังขาดอะไร แต่วันนี้มั่นใจแล้วว่าพรรคเติมเต็มส่วนที่ขาดทุกมิติเรียบร้อย

พรรคภูมิใจไทย ผ่านการเลือกตั้งมา 3 ครั้ง ทุกครั้งพรรคเติบโตขึ้นเสมอไม่เคยเล็กลง และในการเลือกตั้ง ที่กำลังจะถึงกราบขอโอกาสประชาชน อย่าทำให้กราฟพรรคภูมิใจไทยตกต่ำ แต่ขอให้พุ่งขึ้นเต็มที่ เพื่อสร้างความเจริญให้ประเทศได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ

วันนี้พรรคมีความพร้อมสูงสุดในการตั้งใจรับใช้ประชาชน ไม่ใช่แค่ความสามารถในการทำงาน แต่เรามีความสามารถในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างๆ มีเอกภาพ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับข้าราชการ กองทัพ ทุกภาคส่วนของสังคม ทุกคนคงเห็นแล้วว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทยมีแต่คนทุ่มเททำงานไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย เราคัดสรรคนที่ทำงานเป็นมาทำงานให้ประชาชนเต็มที่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเต็มไปด้วยคลังของคนทำงาน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ภัยของประเทศในวันนี้ หลักๆ มี 4 ด้าน ที่เป็นภัยคุกคามประเทศทั้งเศรษฐกิจ สังคม ภัยพิบัติ และภัยความมั่นคง คนไทยในปัจุจุบันเกิดความกลัวสารพัด แต่สิ่งที่ตนเองไม่อยากให้คนไทยต้องกังวลเลย คืออย่ากลัวเสียอธิปไตยของประเทศ พรรคภูมิใจไทยจะทำให้ความหวาดระแวง ความกลัวของท่าน เปลี่ยนมาเป็นความมั่นคง มั่งคั่ง และเชื่อมั่น ซึ่งระหว่างที่นายอนุทิน​ มีน้ำเสียงสั่นเครือและสะอื้น

ภัยความมั่นคง ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย ทำงานอย่างหนักในการแก้ปัญหาชายแดน ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกองทัพที่ให้ความเชื่อมั่นในรัฐบาลที่มีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำ ทำให้ประเทศปลอดจากภัยคุกคาม เสริมสร้างศักยภาพกองทัพให้เข้มแข็ง

เราต้องทำให้ประเทศไทยเป็นที่ยำเกรงของคนที่ประสงค์ร้ายต่อประเทศ เราจะทำต่อไปให้มีความแข็งแกร่งมั่นคงยิ่งขึ้น คนที่คิดว่าจะทำอะไรประเทศไทยหรือเราต้องยอมทุกอย่าง ต้องกลับไปพลิกตำราใหม่ เพราะต่อจากนี้ไทยจะมีความแข็งแกร่งโดยเฉพาะเรื่องความมั่นคง พรรคสร้างรั้วแน่นอน แต่เป็นรั้วของชาติ สร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตประชาชนทุกคน เราจะสร้างรั้วของชาติที่ป้องกันภัยทุกมิติ ทั้งทางการทหาร ภัยสงคราม ภัยยาเสพติด ภัยการลักลอบขนของเถื่อน การลักลอบนำเข้าพืชทางการเกษตร และแรงงานเถื่อน

นอกจากนี้ เราจะสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศสามารถป้องกันอาชญากรรมต่างๆ ได้ทั้งสแกมเมอร์ การพนัน ทุนเทา เพื่อให้ประชาชนจำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เอาเรื่องพวกนี้ไม่เอาสีเทาทั้งหมด เราจะสร้างรั้วปกป้องประเทศจากสิ่งเหล่านี้

นายอนุทิน กล่าวต่อด้วยว่า พรรคภูมิใจไทย​ จะเปิดโอกาสทหารอาสาเพื่อรับใช้ชาติอย่างสมัครใจ และมีอนาคต จะเปลี่ยนคำว่าทหารเกณฑ์เป็นคำว่าทหารอาสา เพื่อจะได้มีทหารที่ตั้งใจเต็มใจเข้ามาปกป้องอธิปไตยดินแดนของไทย โดยจะเปิดรับสมัครทหารอาสา 1 แสนคน ให้ได้รับราชการเป็นทหาร 4 ปี เงินเดือน 12,000 หมื่นบาท จะทำให้ประเทศมีกำลังพลที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องแผ่นดิน

ส่วนด้านเศรษฐกิจ 2-3 เดือน ที่ผ่านมาเรามีนโยบาย "ควิกบิ๊กวิน" มาให้ประชาชน ทำโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ยังติดประชาชนอยู่คนละ 2,400 บาท ขอได้มีโอกาสกลับมาชำระหนี้ให้ แน่นอน ว่า โครงการนี้จะกลับมาแบบไม่ธรรมดา เพราะมีคำว่าพลัสกลับไปด้วย รวมถึงจะทำให้สินค้าที่ประทับตราเมดอินไทยแลนด์ เป็นสินค้าที่ทรงพลังที่ทั่วโลกต้องการ และที่ผ่านมาทำให้เห็นแล้วว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้ค้ายาเสพติด ปราบสแกมเมอร์ เพื่อดูแลประชาชนไม่ใช่แค่คนไทย เพราะเรื่องนี้เป็นภัยคุกคามทั่วโลก 3 เดือนที่ผ่านมา ได้แสดงผลงานได้เป็นที่ประจักษ์ เศรษฐกิจดีขึ้น ราคาข้าว มันสำปะหลัง มีราคาสูงขึ้น เราได้นำประเทศไทยกลับคืนสู่เวทีโลก รักษาเกียรติภูมิของประเทศ ถ้าประชาชนให้โอกาส ให้เวลามากกว่านี้พรรคภูมิใจไทยจะทำได้ดีกว่านี้

ขอพิสูจน์พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะเดินไปไหนหูได้ยินเสียงประชาชนเสมอ ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทยกลับมา จะได้นายอนุทินเป็นนายกฯ

ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยกลับมา จะให้นายสีหศักดื์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี​ และ ​รมว.ต่างประเทศ เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ นางศุภจี​ จะไม่เพียงเป็น รมว.​พาณิชย์​ แต่จะเป็นรองนายกรัฐมนตรี​กำกับการพาณิชย์ การอุตสาหกรรม และการค้า

นายเอกนิติ จะยังเป็นรองนายกรัฐมนตรี​ และ​ รมว.คลัง คุมการคลังของแผ่นดิน ดูวินัยการเงินการคลัง ดูค่าเงินบาท นโยบายทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้พรรคภูมิใจไทยไม่เคยมีมาก่อน แต่วันนี้มีแล้วจะทำงานครอบคลุม ถ้าทำไม่ได้พรรคภูมิใจไทยไม่พูด เมื่อก่อนมีข้อจำกัดแต่วันนี้ไม่มีข้อจำกัดแล้ว นอกเหนือจาก 3 คนที่กล่าวมา ยังมีคนที่มีความรู้ความสามารถที่ตนเองเชิญเข้ามา แม้จะมาจากส่วนอื่นในรัฐบาลที่แล้ว แต่วันนี้ไปขอให้มาร่วมงานกับภูมิใจไทย เพื่อประเทศไทย

อ่านข่าว :

กกต.เตรียมเปิดลงทะเบียนออกเสียงประชามติ 3 - 5 ม.ค.นี้

ครม.อนุมัติงบกลางจัดเลือกตั้ง สส. พร้อมทำประชามติ 8,978 ล้านบาท

"ไชยชนก" ปัดตอบ "ศุภจี​ -​ สีหศักดิ์" ตอบรับนั่ง​ แคนดิเดตนายก​ฯ "ภูมิใจไทย" ​หรือไม่​

นายกฯ เผย กกต.ชงงบจัดเลือกตั้ง 69 พ่วงประชามติ 8 พันล้านบาท