วันนี้ (28 ธ.ค.2568) ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย–กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ได้ย้ำถึงข้อตกลงการหยุดยิง และจุดยืนของประเทศไทยว่า การหยุดยิงครั้งนี้ไม่ใช่การยอมจำนน แต่เป็นการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์เพื่อพิสูจน์ความจริงใจของอีกฝ่าย
รมว.กลาโหม ระบุว่า ไทยเห็นชอบการหยุดยิงแบบมีเงื่อนไข เพื่อทดสอบว่าอีกฝ่ายสามารถยุติการใช้อาวุธและการคุกคามได้จริงหรือไม่ พร้อมย้ำว่า ความสงบต้องวัดจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่จริง ไม่ใช่จากคำประกาศหรือถ้อยแถลงฝ่ายเดียว
สำหรับกรอบการหยุดยิง ทั้งสองฝ่ายตกลงให้มีผลพร้อมกันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 27 ธ.ค.โดยกำหนดให้คงกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน ห้ามเคลื่อนย้ายหรือเสริมกำลัง ห้ามโจมตี ยั่วยุ หรือคุกคามซึ่งกันและกัน และจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างน้อย 72 ชั่วโมง เพื่อยืนยันว่าการหยุดยิงเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง
พล.อ.ณัฐพล ยังได้ย้ำว่า หากการหยุดยิงไม่เกิดขึ้นจริง หรือมีการละเมิดข้อตกลง ไทยยังคงมีสิทธิชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศในการป้องกันตนเอง โดยการใช้กำลังจะอยู่ภายใต้หลักความจำเป็น ความได้สัดส่วน และการคุ้มครองประชาชนเป็นสำคัญ
ในประเด็นความไว้วางใจ รมว.กลาโหม ระบุว่า การหยุดยิงครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเชื่อใจ แต่เป็นเรื่องของการตรวจสอบความจริงใจ โดยไทยยึดหลักว่าการสิ้นสุดความเป็นปรปักษ์ต้องสะท้อนผ่านการกระทำ ไม่ใช่เพียงคำพูด
สำหรับประชาชนในพื้นที่ชายแดน การกลับเข้าที่อยู่อาศัยจะเกิดขึ้นได้เมื่อการหยุดยิงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์สงบ และได้รับการยืนยันด้านความปลอดภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐจะดูแลและสนับสนุนการกลับเข้าพื้นที่อย่างรอบคอบเป็นขั้นตอน
ด้านมาตรการด้านมนุษยธรรม ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดผ่านกลไกความร่วมมือร่วม (JCTF) เพื่อให้พื้นที่มีความปลอดภัยก่อนจะเข้าสู่กระบวนการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในอนาคต โดยย้ำว่าต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบ โปร่งใส และปลอดภัย
การติดตามและตรวจสอบการหยุดยิงจะมีกลไกหลายระดับ ทั้งผู้สังเกตการณ์ในระดับภูมิภาค เช่น อาเซียน และกลไกระดับพื้นที่อย่างสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงและลดความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่ความตึงเครียดซ้ำ
รมว.กลาโหม ยืนยันว่า การหยุดยิงครั้งนี้ไม่กระทบต่อศักดิ์ศรีหรืออธิปไตยของไทย ทุกการตัดสินใจยึดความปลอดภัยของประชาชนและศักดิ์ศรีของชาติเป็นหลักสูงสุด
พร้อมกันนี้ รัฐบาลย้ำว่าจะดูแลทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งด้านสิทธิ สวัสดิการ การเยียวยา รวมถึงการดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และการฟื้นฟูกำลังพลหลังการปฏิบัติภารกิจอย่างจริงจัง
อ่านข่าว :
"บิ๊กเล็ก" แถลงไทย-กัมพูชาลงนามหยุดยิงเที่ยงนี้ ยึด 3 ข้อ ห้ามเคลื่อนย้ายเสริมกำลัง
TMAC ประณามกัมพูชา ตรวจค้นฐานทหารพบหลักฐานยังวางทุ่นระเบิด
สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา กองทัพภาคที่ 2 เผยหลังหยุดยิงความรุนแรงลดลงชัดเจน











