ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ดีเอสไอตรวจสอบกรณีนอมินีกว้านซื้อที่ดิน 7,000 ไร่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

เศรษฐกิจ
08:18
67
ดีเอสไอตรวจสอบกรณีนอมินีกว้านซื้อที่ดิน 7,000 ไร่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

เมื่อไม่นานมานี้ ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบที่นาใน อ.บางซ้ายและ อ.เสนากว่า 7,000 ไร่ ถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งกว้านซื้อไปจากเกษตรกรเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ล่าสุดพบข้อมูลเชื่อมโยงบริษัทต่างชาติดีเอสไอเร่งตรวจสอบแล้ว

หลังจากที่ทีมข่าวไทยพีบีเอสลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบที่นาใน อ.บางซ้ายและ อ.เสนากว่า 7,000 ไร่ ถูกบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งกว้านซื้อไปจากเกษตรกรเมื่อ 17 ปีที่แล้ว ล่าสุดพบข้อมูลเชื่อมโยงบริษัทต่างชาติดีเอสไอเร่งตรวจสอบแล้ว

แต่ปรากฎว่า บริษัทดังกล่าวล้มละลาย ก็ได้มีการนำทรัพย์สินไปออกขายทอดตลาด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า บริษัทดังกล่าว เกี่ยวโยงกับผู้ถือหุ้นเป็นชาวฮ่องกงและชาวไต้หวัน จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าที่ดินเหล่านั้นตกอยู่ในมือของชาวต่างชาติหรือไม่ ทำให้เรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของดีเอสไอ

ชาวบ้านหลายตำบล ใน อ.บางซ้ายและ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ขายที่นาไปกว่า 17 ปีที่แล้ว โดยไม่เคยเห็นหน้าผู้ซื้อตัวจริง พบเพียงนายหน้าที่เป็นคนในหมู่บ้าน ซึ่งเข้ามาเจรจาต่อรองจนนำไปสู่กระบวนการเซ็นต์สัญญาซื้อขาย

ทีมข่าวไทยพีบีเอสได้สอบถามจากผู้นำชุมชนพบว่า พื้นที่กว่า 7,000 ไร่ มีนายหน้าเข้ามากว้านที่ดินจากชาวบ้านซื้อตั้งแต่ปี 2538 เนื่องจากช่วงนั้นเกษตรกรประสบภัยธรรมชาติ ส่งผลให้ผลผลิตเสียหายเป็นจำนวนมาก และทำให้บริษัท อยุธยาเกษตรธานี และ บริษัท กรีนวัลเล่ พรอพเพอร์ตี้ สามารถซื้อที่ดินยกแปลงได้ โดยนำเงินจากกองทุนแกมม่าแคปปิตอล เข้ามาลงทุนจากการตรวจสอบของทีมข่าวพบหลักฐานว่า ขณะนี้บริษัททั้ง 2 แห่งอยู่ระหว่างการถูกประกาศขายทรัพย์สินที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังบริษัททั้งสองประสบปัญหาทางการเงิน

ทั้งนี้ยังมีข้อมูลจากฐานข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า กองทุนแกมม่าแคปปิตอล ถูกบริหารงานโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีผู้ถือหุ้นรวม 7 คน ในจำนวนนี้ 5 คน เป็นชาวฮ่องกงและไต้หวัน  

ล่าสุดเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ที่กำลังตรวจสอบว่า บริษัทดังกล่าวมีการบริหารงานที่ผิด .พ.รบ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือไม่