นายยงยุทธ แฉล้มวงษ์ ผู้อำนวยการวิจัยการพัฒนาแรงงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ กล่าวว่าปัจจุบัน ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ โดยสร้างมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.7 ล้านบาทหรือร้อยละ 38 ของจีดีพี จากจำนวนเอสเอ็มอีที่มีมากถึง 2.9 ล้านแห่งหรือร้อยละ 99.6
แต่ในจำนวนนี้มีเอสเอ็มอีที่มีขนาดใหญ่จริง ๆ คิดเป็นร้อยละ 0.3 ซึ่งถือว่าน้อยมาก รองลงมาคือเอสเอ็มอีขนาดกลางมีร้อยละ 0.6 ที่เหลืออีกร้อยละ 99 คือเอสเอ็มอีขนาดย่อม แต่รายได้ส่วนใหญ่กลับมาจากเอสเอ็มอีขนาดใหญ่มากสุด รองลงมาคือขนาดกลางและขนาดเล็ก
ดังนั้น เอสเอ็มอีขนาดกลางและขนาดเล็ก ต้องเร่งเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพ และยกระดับเทคโนโลยีที่ใช้ทดแทนแรงงานคนให้มากขึ้นโดยเร็ว เพื่อควบคุมต้นทุนและให้ธุรกิจแข่งขันได้
ส่วนนโยบายค่าจ้างสูง อาจทำให้เอสเอ็มอีบางส่วนต้องปิดตัว และเลิกจ้างแรงงาน แต่สถานการณ์ไม่น่าจะเลวร้ายเนื่องจากไทยยังขาดแคลนแรงงานระดับกลางและระดับล่างหลายแสนคนในขณะนี้
ดังนั้นรัฐจึงควรเข้ามาสนับสนุน ทำให้เกิดการถ่ายเทการจ้างงานจากแหล่งงานที่ลดคนงานไปสู่แหล่งงานที่ขาดคนงาน เพราะมีธุรกิจมากกว่าร้อยละ 66 ยังมีความต้องการแรงงาน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: