ปัญหาแรงงานเด็กไทยวัยมัธยม: ไม่ได้เรียน-เกี่ยวข้องกับวงจรยาเสพติด


Insight

9 พ.ย. 65

Thai PBS Digital Media

Logo Thai PBS
ปัญหาแรงงานเด็กไทยวัยมัธยม: ไม่ได้เรียน-เกี่ยวข้องกับวงจรยาเสพติด

สำหรับเด็กอายุ 15-17 ปี นอกจากการไปเรียนที่โรงเรียนแล้ว ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ต้องทำงานหาเงินเพื่อเอาตัวรอด หรือหาเงินไปช่วยเหลือครอบครัวด้วยการเป็นไกด์ให้กับนักท่องเที่ยว รับจ้าง หรือแม้แต่ขายยาเสพติด

ปี 2562-2564 เด็กเหล่านี้ต้องออกจากระบบการศึกษาเพื่อทำงานหาเงินปีละกว่า 1 แสนคน และมีเด็กอีกกว่า 3,000 คนต่อปี ที่ต้องทำงานในรูปแบบที่เลวร้าย คือ งานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด งานอันตราย การค้าประเวณี หรือไปจนถึงการใช้แรงงานทาส

การใช้แรงงานเด็กก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่น ในปี 2565 ข่าวมูลนิธิคุ้มครองเด็กแห่งหนึ่งใน อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ประธานมูลนิธิด่าทอเด็กด้วยคำหยาบคาย ทำร้ายร่างกาย รวมถึงใช้แรงงานให้ทำงานในรีสอร์ต ซึ่งเด็ก 55 คนในมูลนิธิทั้งหมดมีอายุไม่ถึง 18 ปี หรือข่าวปัญหาไกด์เด็กบนสะพานมอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ต้องออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานหาเงินให้ครอบครัว และถูกหลอกไปใช้แรงงานที่อื่นโดยนักท่องเที่ยว

#ThaiPBS ชวนย้อนดูสถิติสถานการณ์แรงงานเด็กในไทยตั้งแต่ปี 2562-2564 และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เสนอแนะโดยกระทรวงแรงงาน

 

 

เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 ในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการรายงานสถานการณ์เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็ก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 โดยกระทรวงแรงงาน พบว่าเด็กไทยอายุ 15-17 ปีมีจำนวน 2,515,500 คน มีเด็กทำงาน 165,689 คน คิดเป็นร้อยละ 6.59 ของเด็กอายุ 15-17 ปีทั้งหมด ซึ่งเป็นเด็กที่ทำงานและเรียนไปด้วย 34,342 คน คิดเป็นร้อยละ 20.73 และทำงานเพียงอย่างเดียว 131,347 คน คิดเป็นร้อยละ 79.27 โดยปีล่าสุดมีจำนวนเด็กที่ทำงานลดลง

ในส่วนของปี 2563 เด็กไทยอายุ 15-17 ปีมีจำนวน 2,560,633 คน มีเด็กทำงาน 184,648 คน คิดเป็นร้อยละ 7.21 ของเด็กอายุ 15-17 ปีทั้งหมด ซึ่งเป็นเด็กที่ทำงานและเรียนไปด้วย 29,255 คน คิดเป็นร้อยละ 15.84 และทำงานเพียงอย่างเดียว 155,393 คน คิดเป็นร้อยละ 84.16

และปี 2562 เด็กไทยอายุ 15-17 ปีมีจำนวน 2,606,932 คน มีเด็กทำงาน 166,580 คน คิดเป็นร้อยละ 6.39 ของเด็กอายุ 15-17 ปีทั้งหมด ซึ่งเป็นเด็กที่ทำงานและเรียนไปด้วย 29,477 คน คิดเป็นร้อยละ 17.70 และทำงานเพียงอย่างเดียว 137,103  คน คิดเป็นร้อยละ 82.30

 

 

แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

ในด้านแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย ปี 2564 กลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3,222 คน จากปี 2563 ที่มีจำนวน 3,188 คน และปี 2562 จำนวน 2,696 คน โดยแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายสามารถแบ่งได้เป็น 4 รูปแบบ คือ

  • รูปแบบ ก. ทุกรูปแบบของการใช้ทาส หรือแนวปฏิบัติที่คล้ายกับการใช้ทาส เช่น การขายและการขนส่งเด็ก แรงงานขัดหนี้ แรงงานไพร่ติดดิน แรงงานบังคับหรือเรียกเกณฑ์ ซึ่งรวมถึงการบังคับหรือเรียกเกณฑ์เด็กเพื่อใช้ในการสู้รบ
  • รูปแบบ ข. การใช้ จัดหา หรือเสนอเด็กเพื่อการค้าประเวณี เพื่อการผลิตสื่อลามก หรือเพื่อการแสดงลามก
  • รูปแบบ ค. การใช้ จัดหา หรือเสนอเด็กเพื่อกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเพื่อการผลิตและขนส่งยาเสพติดตามที่นิยามไว้ในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
  • รูปแบบ ง. งานซึ่งโดยลักษณะของงาน หรือโดยสภาพแวดล้อมในการทำงานมีแนวโน้มที่จะเป็นอันตรายต่อสุขภาพความปลอดภัย หรือศีลธรรมของเด็ก

 

 

แรงงานเด็กเข้าสู่วงจรยาเสพติดเพิ่มขึ้น

จำนวนแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี งานอันตราย และแรงงานทาสมีจำนวนลดลง แต่งานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 3,157 คน หรือร้อยละ 97.98 ส่วนปี 2563 มีจำนวน 3,070 คน หรือร้อยละ 96.30 และปี 2562 มีจำนวน 2,495 คน หรือร้อยละ 92.54 จะเห็นได้ว่าสถิติแรงงานเด็กที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงสัดส่วนของประเภทคดีที่เด็กและเยาวชนถูกดำเนินคดี คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมีถึงร้อยละ 48.63 จากคดีทั้งหมด

“เมื่อเด็ก (ไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์) หรือเยาวชน (เกิน 15 ปีบริบูรณ์แต่ไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์) ถูกจับและดำเนินคดีอาญาจะไม่มีโทษประหารชีวิตและโทษจำคุกตลอดชีวิต ถ้าหากมีการกำหนดโทษดังกล่าวไว้ในความผิดนั้น ๆ ให้เปลี่ยนเป็นโทษจำคุกไม่เกิน 50 ปี คือโทษสูงสุด บางคนก็ใช้ส่วนนี้เป็นเครื่องมือ ใช้เด็กทำผิดเพราะรู้ว่าโทษไม่ถึงตายและไม่ถึงชีวิต”

พ.ต.อ.ชวลิต มั่นศิลป์ รองประธานชมรมทนายตำรวจเพื่อประชาชนให้สัมภาษณ์ในรายการกฎหมายน่ารู้: ยาเสพติดกับเยาวชน ของสถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64

จากรายงานผลการวิเคราะห์การดำเนินงานตามนโยบายระดับชาติและแผนปฏิบัติการด้านการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดปีงบประมาณ 2564-2565 พบว่าไทยมีความก้าวหน้าในการดำเนินการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เช่น การสนับสนุนด้านการศึกษาและจัดหาสวัสดิการให้กับเด็กและครอบครัวที่เปราะบาง เป็นต้น แต่ยังพบปัญหาอยู่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การเฝ้าระวังยากมากขึ้น และไม่สามารถลงพื้นที่ตรวจตราได้เต็มที่ รวมถึงสถานการณ์การระบาดยังส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศทำให้เด็กที่ได้รับผลกระทบต้องเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

 

ควรแก้ไขอย่างไรดี

 

 

กระทรวงแรงงานได้เสนอแนะแนวทางการแก้ไข ดังนี้

1. พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลและสถิติที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากไทยยังขาดข้อมูลตัวเลขเชิงสถิติและข้อมูลการดำเนินการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ครบถ้วนและถูกต้องจึงควรมีการดำเนินโครงการสำรวจสภาวการณ์ทำงานของเด็กในภาพรวมของประเทศโดยหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง ได้แก่ สำนักงานสถิติแห่งชาติ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปวิเคราะห์ หาแนวทางการแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

2. พัฒนากฎหมาย ระเบียบ ประกาศ และแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายให้ทันต่อสถานการณ์และสอดคล้องกับมาตรฐานด้านแรงงานระหว่างประเทศ เช่น กำหนดอายุขั้นต่ำให้ทำงานได้ หรือปรับปรุงประเภทงานที่เป็นอันตรายต่อเด็ก เป็นต้น

3. พัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง เช่น ด้านการคุ้มครอง การช่วยเหลือดูแลเด็ก การฟื้นฟู แนวทางการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มช่องทางการร้องเรียนและการตรวจบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่สุ่มเสี่ยงและพื้นที่ห่างไกล

4. จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักในด้านการขจัดการใช้แรงงานเด็ก ให้สังคมเกิดความตื่นตัวและเข้าใจปัญหา รวมถึงให้ความรู้กับเด็กเรื่องสิทธิประโยชน์จากการทำงานเพื่อเป็นเครื่องมือไม่ให้เด็กเป็นเหยื่อการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

5. ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเด็กจากภัยในรูปแบบออนไลน์ เช่น การหลอกลวงให้ขายยาเสพติด การเผยแพร่ภาพลามกอนาจาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำงานในเชิงบูรณาการเพื่อส่งเสริมและป้องกันคุ้มครองเด็กและเยาวชนในการใช้สื่อออนไลน์

 

 

ใครคือคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย และนำเสนอสถานการณ์และข้อเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเป็นประจำทุกปีหรือเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นประธานกรรมการ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นรองประธานกรรมการ และมี รศ. ดร.สายสุรี จุติกุล เป็นที่ปรึกษา

จากสถิติสถานการณ์แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายปี 2562-2564 จะเห็นว่าจำนวนแรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราคงได้แต่หวังว่ารัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ที่สะสมและค้างคามานานให้ดีขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ได้

 

อ้างอิง รายงานสถานการณ์เพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็ก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562-2564 โดยกองคุ้มครองแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน, สถิติคดีอาญา โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 74-75

📌 ชวนติดตามชมละคร "Junk Mail จดหมายที่ไม่ถูกเปิด" ตอน จดหมายจากครูอาร์ต
สะท้อนแง่มุมเยาวชนที่ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมอันตราย สุ่มเสี่ยงจะเข้าไปสู่วังวนของยาเสพติด คลิก
▶️ https://www.thaipbs.or.th/program/JunkMail/episodes/89193

และมาร่วมระดมความเห็น ออกแบบนโยบายสู่ภาคสังคมเพื่อการเปลี่ยนแปลง ได้ที่เว็บไซต์ 
🌐 http://www.thaipbs.or.th/InEquality

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ยาเสพติดแรงงานเด็กเด็กและเยาวชน
ผู้เขียน: Thai PBS Digital Media

บทความ NOW แนะนำ