สองปีก่อน ผู้กำกับหนังชื่อ วิร์ปิ ซูตาริ ต้องสูญเสียแม่ไปและได้รับมรดกเป็นผืนป่าเล็ก ๆ ในฟินแลนด์ตะวันออก เธอใช้เวลาครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะจัดการกับมรดกชิ้นนี้อย่างไรดี กระทั่งวันหนึ่งเธอก็เจอทางออกเมื่อได้ยินข่าวเกี่ยวกับกลุ่มคนหนุ่มสาวที่รวมตัวกันเป็น "ขบวนการป่าไม้" แล้วลุกขึ้นมาปกป้องป่าของพวกเขาจากธุรกิจตัดไม้ที่โค่นทำลายป่าจนเกินความจำเป็น
ต้นปี ค.ศ. 2022 ซูตาริติดต่อกลุ่ม Extinction Rebellion ที่ว่านี้และได้พบกับ มินคา วีร์ทาเนน หญิงสาวผู้กลายมาเป็นซับเจ็กต์หลักคนแรกของเธอ แล้วไม่นานหลังจากนั้น ทีมงานก็ได้พบ อิดา โคร์โฮเนน เด็กสาววัย 22 ปีผู้มีบุคลิกน่าสนใจตรงที่บางครั้งทำให้เรารู้สึกเหมือนเธอเป็นเด็กไร้เดียงสา แต่แล้วนาทีถัดมา เธอกลับกลายร่างเป็นนักวางกลยุทธ์สุดจะเฉียบคม


สารคดีเรื่อง Once Upon a Time in a Forest จึงเกิดขึ้นเพื่อติดตามการเดินทางของสองสาวและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่ออกมาปกป้องผืนป่าอันเป็นสมบัติล้ำค่าของฟินแลนด์ พร้อม ๆ กับที่ต้องเผชิญภัยคุกคามซึ่งมักถูกมองข้าม นั่นคือการตัดไม้ทำลายป่าที่รุนแรงจนระบบนิเวศใกล้ล่มสลาย
ฟินแลนด์นั้นเรียกได้ว่าเป็นดินแดนแห่งป่าไม้ เพราะมีพื้นที่ป่าปกคลุมถึงร้อยละ 75 หรือกว่า 20 ล้านเฮกตาร์ แต่น่าใจหายอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลจากสถาบันทรัพยากรธรรมชาติฟินแลนด์ระบุว่า มีเพียงร้อยละ 7 ที่ได้รับการคุ้มครองอย่างจริงจัง (พื้นที่ป่าทางใต้ได้รับการปกป้องแค่ร้อยละ 3 เท่านั้น) ส่วนที่เหลือทั้งหมดถูกผนวกเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหมายความว่าภาคธุรกิจและรัฐสามารถตัดไม้ในพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ซูตาริใช้เวลาถ่ายทำสารคดีเรื่องนี้ราวหนึ่งปีครึ่ง โดยดึงตัว ทีมู เลียกกา ช่างภาพธรรมชาติที่เคยฝากผลงานไว้กับ National Geographic มาร่วมงานด้วย ภายใต้โจทย์ที่ว่าหนังจะเน้นการถ่ายทอดธรรมชาติในมุมที่ใกล้ชิด งดงาม และอบอุ่น สัตว์ต่าง ๆ ที่เราได้เห็นจะไม่ใช่บรรดาสัตว์ป่าหายากแบบสารคดีเกี่ยวกับป่าทั่วไป แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเราและทำให้เรารู้สึกผูกพันได้ง่าย เช่น กบ นกไซบีเรียเจย์ และปลาตัวน้อยในทะเลสาบ นอกจากนั้น หนังยังเลือกใช้อัตราส่วนของภาพ 4:3 ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดและโหยหาอดีต แต่พอถึงฉากพิเศษที่ต้องการเผยความงดงามของธรรมชาติอย่างเต็มที่ ก็จะขยายเป็นภาพกว้างซีนีมาสโคปเพื่อให้เราคนดูได้ดื่มด่ำกับผืนป่าและท้องฟ้าอันไร้ขอบเขตอย่างเต็มตา


นอกจากถ่ายป่าแล้ว อีกส่วนที่หนังติดตามแบบเอาจริงเอาจังก็คือ การทำงานของเหล่านักกิจกรรมหนุ่มสาว โดยเฉพาะการประท้วงหลากหลายรูปแบบซึ่งเสี่ยงอันตรายทั้งจากตัวเหตุการณ์เองและจากสภาพแวดล้อม เช่น เมื่ออิดาและเพื่อนพยายามไปหยุดการทำงานของคนตัดไม้ในป่ายามค่ำคืนมืดมิด ท่ามกลางหิมะและอุณหภูมิต่ำถึงขั้นติดลบ 25 องศา ซึ่งทำให้ทีมงานต้องฝ่าหิมะสูงระดับเอวพร้อมแบกอุปกรณ์ถ่ายทำที่หนักอึ้ง พร้อมกับที่ก็ต้องคอยเฝ้าระวังการถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่หรือจับกุมไปด้วย
สิ่งที่ผู้กำกับซูตาริต้องทำในสถานการณ์แบบนี้ก็คือ การมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไว้เป็นที่ปรึกษาตลอดการถ่ายทำ ทั้งเพื่อไม่ให้เนื้อหาในหนังส่งผลร้ายต่อนักกิจกรรมและเพื่อปกป้องทีมคนทำหนังเอง เพราะแม้กฎหมายของฟินแลนด์จะอนุญาตให้ถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ แต่ฉากการประท้วงในสำนักงานบริษัทก็ยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ทีมงานต้องระมัดระวัง (ผลของฉากนี้คือ สุดท้ายแล้วกองถ่ายหนังก็ถูกเชิญออกจากสถานที่พร้อมกับผู้ประท้วง)

ส่วนสุดท้ายที่ถูกนำเสนอและเพิ่มมิติให้กับหนังได้อย่างน่าสนใจ ก็คือเรื่องราวความสัมพันธ์ต่างวัยของอิดากับคุณปู่ผู้เป็นอดีตชาวนาและคนงานป่าไม้ บทสนทนาของคนทั้งสองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านทัศนคติต่อป่าไม้ตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป คุณปู่เป็นตัวแทนของคนรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สองที่ฟินแลนด์ต้องใช้ไม้จากป่าเป็นทรัพยากรในการสร้างความมั่งคั่งให้แก่ประเทศ ขณะที่อิดาก็เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ประเทศมั่นคงแล้วและเริ่มเกิดคำถามต่อวิธีการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติแบบเดิม โดยเฉพาะเมื่อนักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของป่าไม้ต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการแก้ไขวิกฤตโลกร้อน
ทั้งหมดนี้ทำให้ Once Upon a Time in a Forest ไม่ใช่แค่หนังสารคดีว่าด้วยการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่มันแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคม ทัศนคติอันแตกต่างของยุคสมัย และความหวังที่คนหนุ่มสาวมีต่อโลกที่ดีขึ้น แม้พวกเขาอาจจะรู้อยู่ลึก ๆ ว่าความพยายามและการต่อสู้ที่ทำอยู่นี้คงไม่ทันการณ์ แต่พวกเขาก็เชื่อเช่นกันว่าการยืนดูเฉย ๆ ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไปแล้ว

▶ ติดตามสารคดี Once Upon a Time in a Forest สารคดีพาเราเข้าสู่หัวใจของป่าไม้และศูนย์กลางของความขัดแย้ง ผ่านเรื่องราวของ "อิดา" หญิงสาววัย 22 ปี ผู้หลงใหลป่าและกลายมาเป็นผู้นำของกลุ่มคนหนุ่มสาวในชื่อ Forest Movement ซึ่งเผชิญหน้ากับทั้งอคติของสังคมและอุตสาหกรรมป่าไม้ยักษ์ใหญ่ที่มีรัฐบาลหนุนหลัง
รับชมได้ทาง www.VIPA.me หรือ VIPA Application