ท่ามกลางเปลวเพลิงของความขัดแย้งระลอกใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากอิสราเอลเปิดปฏิบัติการสิงโตผงาดพุ่งเป้าโจมตีอิหร่านโดยตรง จนสั่นสะเทือนดุลอำนาจทางการเมืองในภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากอิสราเอลตั้งเป้าปลิดชีพอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านเพื่อหวังโค่นอำนาจการปกครอง ขณะที่การเปิดปฏิบัติการของสหรัฐฯ ในการโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่งในฟอว์โด นาทานซ์ และอิสฟาฮานยิ่งโหมกระพือไฟแห่งความขัดแย้งให้บานปลายมากขึ้น
การพูดคุยกับเอกอัครราชทูตของทั้ง 2 ประเทศ คงช่วยฉายภาพให้เห็นถึงมุมมองของคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายต่อการโจมตีตอบโต้กันโดยตรงได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษถึงเป้าหมายของอิสราเอลในการเปิดปฏิบัติการทางการทหารกับอิหร่าน ในขณะที่ประเทศ กำลังเผชิญกับศึกรอบด้านทั้งในประเทศและนอกประเทศ
จากการเฝ้าดูสิ่งที่อิหร่านกระทำ ดิฉันรู้สึกว่าเราไม่มีทางเลือกอื่น
เปิด 3 ปัจจัยอิสราเอลโจมตีอิหร่าน หวังสร้าง “สันติภาพ” ให้โลก?
ท่านทูตเปิดบทสนทนาด้วยการพูดถึง 3 ปัจจัยหลัก ของการเปิดปฏิบัติการสิงโตผงาด เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา
ปัจจัยแรก คือ การเสริมขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์
ปัจจัยที่ 2 คือ การเดินหน้าพัฒนาระบบขีปนาวุธพิสัยไกล
ปัจจัยที่ 3 คือ การสนับสนุน “กลุ่มก่อการร้าย” ในภูมิภาค
ท่านทูตตั้งคำถามถึงการเร่งเครื่องผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ ตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนที่ผ่านมา จนเข้าเกณฑ์ในการนำมาพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้
นอกจากนี้ยังพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงภายใต้เป้าหมายผลิตให้ได้ปีละ 3,000 ลูก และผลิตให้ได้ 10,000 ลูกในเวลา 3 ปี
แล้วทำไมประเทศที่มีทรัพยากรจำกัดแบบอิหร่าน
ต้องลงทุนมหาศาลในโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ
ถ้าไม่ได้ตั้งใจจะใช้งานจริง
ยิ่งไปกว่านั้นอิหร่านยังให้การสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธครอบคลุมทั้งกลุ่มฮามาส กลุ่มอิสลามิกญิฮาด กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ กลุ่มฮุตี และกองกำลังชีอะห์ในอิรัก
ขณะที่การเปิดปฏิบัติการของอิสราเอลยังมีความหมายต่อโลกเนื่องจากการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่านย่อมเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง นำไปสู่การแข่งขันด้านนิวเคลียร์ จนส่งแรงกระเพื่อมถึงยุโรปและเอเชีย แม้กระทั่งประเทศไทย ดังนั้นความเคลื่อนไหวของอิสราเอลในครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อ “สร้างสันติภาพ” ให้โลกใบนี้
“ปัญหาภายใน” สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลอิสราเอล
นอกเหนือจากเป้าหมายในการทำลายโครงการนิวเคลียร์และคลังอาวุธเพื่อจำกัดขีดความสามารถทางการทหารตามคำอธิบายของออร์นาแล้ว
ผศ.ดร.มาโนชญ์ อารีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองตะวันออกกลาง ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มองว่า อิสราเอลอาจใช้ไพ่ในการโจมตีเพื่อโน้มน้าวให้สหรัฐฯ ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ หลังจากความสัมพันธ์ในระดับผู้นำระหว่างอิสราเอลกับสหรัฐฯ ไม่ค่อยสู้ดีนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันแรงกดดันทางการเมืองภายในและความนิยมที่ตกต่ำลงของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นำมาสู่การฉวยโอกาสชิงโจมตีอิหร่านเพื่อรักษาฐานอำนาจทางการเมืองและประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินกลบกระแสการประท้วงต่อต้านรัฐบาล
บทบาทสหรัฐฯ มหามิตรของอิสราเอล
เมื่อสอบถามอย่างตรงไปตรงมาถึงความต้องการของอิสราเอล ในการโน้มน้าวให้สหรัฐฯ มีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งครั้งนี้
ท่านทูตย้ำว่าสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรอันแน่นแฟ้นที่สุดของอิสราเอล แต่การให้ความช่วยเหลือหรือไม่ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตามอิสราเอลขอใช้สิทธิในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามในการเร่งเครื่องเสริมเขี้ยวเล็บทางการทหารของอิหร่านอย่างต่อเนื่อง
ข้อถกเถียงโจมตีเป้าหมายพลเรือน
ขณะเดียวกันเป้าหมายการโจมตีของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงจุดประเด็นถกเถียงเป็นวงกว้าง เนื่องจากทั้งอิสราเอลและอิหร่านต่างอ้างว่าไม่ได้โจมตีเป้าหมายพลเรือนแต่ละฝ่าย
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ยืนยันว่า ปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลในครั้งนี้พุ่งเป้าโจมตีเฉพาะฐานที่มั่นทางการทหารของอิหร่านเท่านั้น
เราทำอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีพลเรือน
แต่อิหร่านกลับกลับทำตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง…
มีขีปนาวุธกว่า 400 ลูกถูกยิงใส่อิสราเอลและโดรนกว่า 850 ลำ
อิหร่านเผยตกเป็น “เหยื่อ” ความรุนแรง
อย่างไรก็ตาม ดร.นอเศเรดดีน ฮัยแดรี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย เริ่มต้นการสนทนาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่าอิหร่านตกเป็นเหยื่อของการรุกรานจากอิสราเอล
การใช้ความรุนแรงของอิสราเอลเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เนื่องจากอิสราเอลโจมตีทั้งโครงการนิวเคลียร์และโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน
เราไม่ได้เริ่มสงครามนี้
เราคือผู้ตกเป็นเหยื่อ…
พลเรือน ผู้หญิง และเด็ก
แม้แต่โรงพยาบาลก็ไม่เว้น
ผู้คนถูกสังหารมากกว่า 200 คน
บาดเจ็บกว่า 2,000 คน
ปัจจุบันรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านได้ยื่นคำร้องของประชุมฉุกเฉินต่อเลขาธิการสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แล้ว
หลายประเทศได้ประณามการรุกรานของอิสราเอลในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังไม่ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
หากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อิหร่านจำเป็นจะต้องใช้สิทธิในการป้องกันตนเอง ตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ
ระบอบอิสราเอลหยิ่งผยอง
ไม่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
ฝ่าฝืนเส้นแดงทุกเส้น
สหรัฐฯ ไม่สามารถหยุดยั้งอิสราเอลได้
ดร.นอเศเรดดีน ตั้งข้อสังเกตว่า อิสราเอลมักฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศสะท้อนให้เห็นจากการใช้ความรุนแรงต่อชาวปาเลสไตน์ในกาซา
แม้กระทั่งสหรัฐฯ ในฐานะ “ชาติมหาอำนาจ” บนเวทีการเมืองโลกก็ไม่สามารถหยุดยั้งอิสราเอลในการละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศได้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง
แต่สหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลเชิงโลจิสติกส์
และมีส่วนรับผิดชอบโดยปริยาย
ขณะที่ชาติพันธมิตรของอิหร่านทั้งจีนและรัสเซียต่างพร้อมใจกันประณามการโจมตีของอิสราเอลอย่างชัดเจนบนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ
อย่างไรก็ดี ท่าทีแข็งกร้าวของทั้ง 2 ประเทศ ยังไม่สามารถยับยั้งความรุนแรงได้ เนื่องจากสหรัฐฯ คอยให้การสนับสนุนอิสราเอลมาอย่างต่อเนื่อง
ปฏิเสธการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
เราเคยเข้าสู่การเจรจาทางอ้อมกับสหรัฐฯ
เพื่อแสดงว่าอิหร่านไม่มีเจตนาในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
กิจกรรมทั้งหมดของอิหร่านอยู่ภายใต้การตรวจสอบของ IAEA อย่างเต็มรูปแบบ
ดร.นอเศเรดดีน กล่าวถึงการเจรจานิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ในทางอ้อมเพื่อแสดงถึงความจริงใจในการพิสูจน์ว่าอิหร่านไม่มีเจตนาครอบครองอาวุธ ทำให้อิหร่านขึ้นแท่นประเทศที่เผชิญกับการตรวจสอบจากทบวงการพลังงานปรมาณู หรือ IAEA มากที่สุดประเทศหนึ่ง
นอกจากนี้เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทยยังยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านมีวัตถุประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น เนื่องจาก อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน มี “ฟัตวา” หรือ คำสั่งห้ามเด็ดขาดในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
อิหร่านเป็นภาคีของสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)
ซึ่งไม่ได้ห้ามการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมตราบเท่าที่ไม่นำไปผลิตอาวุธระดับ 60% ไม่ถือว่าผิดสนธิสัญญา
มุมมองเกี่ยวกับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมระหว่างเอกอัครราชทูตอิหร่านกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มองนัยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม
ข้อมูลจากบทความ Why is Iran producing 60 per cent-enriched uranium? เผยแพร่บนเว็บไซต์สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศ (Stockholm International Peace Research Institute หรือ SIPRI) เมื่อเดือนเมษายน ปี 2021 ระบุว่า ยูเรเนียมที่ถูกเสริมสมรรถนะถึงระดับ 60% ไม่สามารถนำไปใช้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ที่มีประสิทธิภาพได้ และอิหร่านก็ไม่มีการใช้งานในทางปฏิบัติที่สมเหตุสมผลอื่นใด สำหรับยูเรเนียมในระดับนี้ อย่างไรก็ตาม การเลือกเสริมสมรรถนะถึง 60% ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนื่องจากกระบวนการทำงานของเครื่องหมุนเหวี่ยง (centrifuges) จะออกแบบมาให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียมเป็นขั้นเป็นตอน
เครื่องหมุนเหวี่ยงของอิหร่านน่าจะถูกกำหนดให้เสริมสมรรถนะยูเรเนียม 3 ขั้นตอน ได้แก่
1. ระดับต่ำไปถึงระดับ 20%
2. ระดับ 20% สู่ระดับ 60%
3. ระดับ 60% สู่ระดับ 90% ซึ่งถือเป็นระดับสำหรับผลิตอาวุธ
ตามปกติ หากยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะถึง 60% ถูกเก็บไว้ในรูปของก๊าซยูเรเนียมเฮกซะฟลูโอไรด์ (UF₆) ซึ่งอิหร่านไม่มีเหตุผลใดจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบเคมีอื่น
ขั้นตอนสุดท้ายของการเสริมสมรรถนะจาก 60% สู่ 90% นั้น กินเวลาสั้นมาก บ่งชี้ชัดเจนว่า การตัดสินใจของอิหร่านมีเป้าหมายเพื่อส่งสารทางการเมืองว่า “เราดำเนินการตอบโต้ต่อการยั่วยุต่าง ๆ จนถึงที่สุด และยังไม่ก้าวข้ามเส้น ไปสู่การผลิตยูเรเนียมระดับอาวุธ”
อิหร่านจะถอนตัวจากสนธิสัญญา NPT?
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา สมาชิกสภานิติบัญญัติอิหร่านจัดเตรียมร่างกฎหมายผลักดันให้อิหร่านถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) หลังจากคณะกรรมการ IAEA 19 ประเทศจากสมาชิก 35 ประเทศลงมติประกาศว่าอิหร่านละเมิดพันธกรณีตามสนธิสัญญาเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
เนื่องจาก “การเพิกเฉยหลายครั้ง” ของอิหร่านในการให้คำตอบเกี่ยวกับวัสดุนิวเคลียร์และกิจกรรมที่ไม่เปิดเผยต่อ IAEA ถือเป็นการไม่ปฏิบัติตามพันธกรณี
อิหร่านให้สัตยาบันในสนธิสัญญาตั้งแต่ปี 1970 รับรองสิทธิของประเทศต่าง ๆ ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ แต่ต้องละเว้นจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
ดร.นอเศเรดดีน เปิดเผยว่า นักวิชาการและนักการเมืองบางส่วนสนับสนุนแนวคิดนี้ เนื่องจากประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันเลวร้ายในช่วงเวลานี้
มาตรา 10 ของ NPT ระบุว่า หากเกิดสถานการณ์พิเศษร้ายแรง
ประเทศภาคีสามารถถอนตัวได้
เคลซีย์ ดาเวนพอร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายการควบคุมการแพร่กระจายอาวุธ จากองค์กร Arms Control Association ระบุว่า “การถอนตัวของอิหร่านจะส่งสัญญาณว่าเตหะรานกำลังพิจารณาการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อย่างจริงจัง”
แม้ว่าการถอนตัวจาก NPT ไม่ได้หมายความว่าอิหร่านจะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ทันที แต่การถอนตัวจะทำให้อิหร่านไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของสนธิสัญญาอีกต่อไป รวมถึงการอนุญาตให้ IAEA เข้าตรวจสอบและข้อผูกพันด้านความโปร่งใส และหากอิหร่านถอนตัวจาก NPT และพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์อาจสร้างแรงกดดันให้ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคในการแสวงหาการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ในท้ายที่สุดเช่นเดียวกัน
การยุติสงครามอิหร่าน-อิสราเอลยังริบหรี่
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยเกริ่นถึงความสำเร็จของปฏิบัติการสิงโตผงาดในการโจมตีโครงการนิวเคลียร์และสถานที่ผลิตขีปนาวุธ อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการดังกล่าวยังไม่บรรลุเป้าหมายทั้งหมดในการขจัดภัยคุกคามจากอิหร่าน เนื่องจากการประกาศทำลายล้างอิสราเอลให้สิ้นซากได้บั่นทอนความไว้เนื้อเชื่อใจให้พังทลายลง
…ในขณะที่อิหร่านกำลังเจรจากับสหรัฐฯ พวกเขากลับเพิ่มความสามารถในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมขึ้นถึง 3 เท่า หลังจากโกหกมาหลายปี ดิฉันพูดตามตรงว่าไม่เชื่อคำพูดพวกเขาอีกต่อไป
ขณะที่เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทยแสดงความพร้อมในการหยุดยิงหรือการบรรลุข้อตกลงยุติการสู้รบใด ๆ เป็นประเทศแรก แต่ตราบใดที่ความโหดร้ายและการรุกรานยังดำเนินอยู่ อิหร่านจำเป็นต้องลุกขึ้นปกป้องประชาชน
แม้ว่าเอกอัครราชทูตทั้ง 2 คน จะไม่ตัดความเป็นไปได้ของการยุติความขัดแย้งผ่านการเจรจาหยุดยิง แต่จุดยืนที่แตกต่างกันของทั้ง 2 ประเทศ ส่งผลให้โอกาสในการหาข้อสรุปร่วมกันเพื่อปูทางไปสู่การสร้างสันติภาพยังคงริบหรี่
ส่วนการเปิดปฏิบัติการของสหรัฐฯ ในการโจมตีโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน 3 แห่งในฟอว์โด นาทานซ์ และอิสฟาฮานช่วงเช้าวันนี้ (22 มิถุนายน 2025) เป็นสัญญาณเตือนว่าความขัดแย้งมีความทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกขั้น
ติดตามชมรายการทันโลก กับ Thai PBS วันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 21.00 – 21.30 น. ทางช่อง Thai PBS หมายเลข 3 หรือรับชมออนไลน์ผ่านทาง www.thaipbs.or.th/Live และชมย้อนหลังได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/program/Tanloke
อ้างอิง:
- Why is Iran producing 60 per cent-enriched uranium? / sipri
- Iran says parliament is preparing bill to leave nuclear non-proliferation treaty / reuters
- What is the NPT, and why has Iran threatened to pull out of the treaty? / aljazeera
- Treaty on the Non-Proliferation of Nuclear Weapons (NPT) / United Nations
- The Safeguards Implementation Report for 2024