ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยกเลิกกัญชาเสรี “ผู้ซื้อ - ผู้ขาย” กระทำผิดมีบทลงโทษอะไรบ้าง ?


Insight

อธิเจต มงคลโสฬศ

แชร์

ยกเลิกกัญชาเสรี “ผู้ซื้อ - ผู้ขาย” กระทำผิดมีบทลงโทษอะไรบ้าง ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2862

ยกเลิกกัญชาเสรี “ผู้ซื้อ - ผู้ขาย” กระทำผิดมีบทลงโทษอะไรบ้าง ?

 

ข่าวคำสั่งยกเลิกกัญชาเสรี กำลังได้รับความสนใจต่อผู้คนในสังคม โดยเฉพาะสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายหลังการยกเลิกกัญชาเสรีมีอะไรบ้าง ?

Thai PBS ชวนทำความเข้าใจ มาตรการการควบคุมหลังยกเลิกกัญชาเสรี ตลอดจนบทลงโทษของผู้ค้า – ผู้ชื้อ จากการปรับรายละเอียดให้ซื้อ - ขาย เฉพาะผู้มีใบอนุญาตเท่านั้น จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ?

ย้อนที่มาการประกาศยกเลิกกัญชาเสรี

การปลดล็อกกัญชา ออกจากบัญชียาเสพติดเมื่อปี 2565 เกิดขึ้นท่ามกลางหลายปัจจัย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการแพทย์ โดยมีความคาดหวังให้กัญชาเสรี ช่วยให้เกิดประโยชน์ทางการแพทย์ต่อผู้ป่วย กลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ทั้งในด้านของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกสู่ตลาด และการเพาะปลูกเพื่อพัฒนาสายพันธุ์กัญชาเพื่อแข่งขันในตลาดโลก

ผลจากการปลดล็อกกัญชาหรือนโยบายกัญชาเสรี ทำให้ประชาชนสามารถปลูก ซื้อ ขายกัญชา สามารถนำไปผสมอาหารหรือใช้เพื่อสันทนาการในพื้นที่ส่วนตัวได้ ทั้งนี้ หลังการปลดล็อกกัญชา ส่วนใหญ่มักถูกนำไปใช้ประโยชน์ 3 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่ 

-การใช้เพื่อการแพทย์ (รวมถึงแพทย์ทางเลือก) 
-ใช้เพื่อนันทนาการ 
-อื่น ๆ (ต้มดื่ม หรือผสมอาหาร) 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาแห่งกัญชาเสรีนั้นกิดขึ้นท่ามกลางข้อกังวลสำคัญ นั่นคือ ยังไม่มีกฎหมายแม่บทควบคุม มีเพียงกฎกระทรวง ที่ออกมา ส่งผลให้ขาดความชัดเจน และมีความสับสน ในทางปฏิบัติ ร้านค้าที่นำกัญชามาเป็นสินค้า มีทั้งที่เปิดขายแบบมีใบอนุญาต มีการควบคุม และแบบที่ไม่มีใบอนุญาต

ในห้วงเวลาดังกล่าว พบว่ากัญชาถูกใช้เพื่อการสันทนาการเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า นอกจากนี้ยังมีรายงานถึงเด็กและเยาวชนที่ใช้กัญชามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ขณะที่ด้านการแพทย์ พบผู้ป่วยจิตเวชที่มีสาเหตุจากการใช้กัญชาเพิ่มขึ้น 3 – 5 เท่า 

ช่วงเวลาที่ผ่านมา นโยบายกัญชาเสรีถูกต้องคำถามอย่างหนัก เคยมีประกาศเพื่อควบคุมออกมาตามกระแสข่าว เช่น ประกาศไม่ให้โรงเรียนหรือสถาบันศึกษาใช้ส่วนผสมของกัญชาในอาหาร สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนในการควบคุม เกิดกระแสการผลักดันให้กัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติดเพื่อควบคุมผลกระทบที่เกิดขึ้น

บทลงโทษมีอะไรบ้าง ? หลังยกเลิกกัญชาเสรี

ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 เป็นประกาศที่กำหนดให้ “ช่อดอกกัญชา” เป็น “สมุนไพรควบคุมเพื่อใช้ทางการแพทย์” ความสำคัญคือการปรับรายละเอียดจากเดิมที่ห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตร กับห้ามขายให้กับนักเรียน และนักศึกษา เปลี่ยนเป็นให้สามารถขายให้กับผู้ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น และยกเว้นการใช้ในทางการแพทย์ หรือก็คือให้บุคคลกรทางการแพทย์ หมอฟัน เภสัชกร แพทย์แผนไทย รวมถึงหมอพื้นบ้าน สามารถใช้กัญชาทางการแพทย์ได้

หรือก็คือมีใจความให้ร้านค้าไม่สามารถจำหน่ายให้คนทั่วไปได้แล้วนั่นเอง ยกเว้นจากจะใช้ทางการแพทย์

ในส่วนของบทลงโทษสำหรับผู้ขายหรือเจ้าของร้านค้านั้น มีปรากฏในพรบ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 ร่วมกับกฎหมายอื่น ๆ ได้แก่ มีโทษตามมาตรา 78 จําคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังมีบทลงโทษในกฎหมายอื่นร่วมด้วย ได้แก่
ประมวลกฎหมายยาเสพติด ในกรณีที่มีการขายสารสกัดกัญชาที่มีค่า THC เกิน 0.2 % ซึ่งจะมีโทษฐานครอบครอง ยาเสพติดประเภทที่ 5 โดยไม้ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 93 โทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ในกรณีมีผลิตภัณฑ์อาหาร อาทิ คุกกี้ เยลลี่ บราวนี ไม่มีเลขอย. และไม่ฉลากภาษาไทยตามข้อกำหนด ซึ่งต้องระบุส่วนผสมเพื่อความปลอดภัย จะมีโทษตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท ขณะที่กรณีลับลอบนำเข้าอาหารต้องห้าม เช่น เยลลีกัญชาบางยี่ห้อจากต่างประเทศ จะมีโทษตามมาตรา 58 จำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ที่มีกัญชาไว้ในครอบครอง หรือมีการเสพกัญชานั้น หากไม่ได้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์แล้ว กรณีกัญชาที่มีสาร THC เกิน 0.2 % ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ดังนี้

หากมีไว้ในครอบครองในปริมาณที่มากอาจเข้าข่าย ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 500,000 บาท
กรณีครอบครองเพื่อเสพในปริมาณไม่มาก เป็นการครอบครองเพื่อเสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่หากผู้เสพ มีต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

แต่กรณีที่มีกัญชาที่มีสาร THC ไม่เกิน 0.2 % นั้น ยังคงไม่เข้าข่ายยาเสพติด และยังไม่ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานควบคุมในส่วนนี้นัก

จากช่วงกัญชาเสรีที่เปลี่ยนจากการปลดล็อกสู่การควบคุม คนไทยกับกัญชากลับมาสู่ทางแยกที่ยังคงรอมาตรการการจัดการที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดทางออกที่ลงตัวของทั้งการเปิดให้กัญชาให้สร้างประโยชน์ และควบคุมเพื่อป้องกันโทษของกัญชาที่อาจเกิดขึ้นได้

อ้างอิง

  • พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542
  • พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522
  • ประมวลกฎหมายยาเสพติด
  • ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565
  • ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568
     

แท็กที่เกี่ยวข้อง

กัญชากัญชาเสรีวันกัญชาโลกยาเสพติดสมุนไพรสมุนไพรท้องถิ่น
อธิเจต มงคลโสฬศ

ผู้เขียน: อธิเจต มงคลโสฬศ

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส สนใจเนื้อหาด้านสุขภาพจิต สาธารณสุข และความยั่งยืน รวมถึงประเด็นทันกระแสที่มีแง่มุมน่าสนใจซ่อนอยู่

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด