ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

Secret Story | The Giants ป่าและมนุษย์ล้วนต่อสู้เพื่อเติบโต


Lifestyle

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

แชร์

Secret Story | The Giants ป่าและมนุษย์ล้วนต่อสู้เพื่อเติบโต

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2933

Secret Story | The Giants ป่าและมนุษย์ล้วนต่อสู้เพื่อเติบโต

ในสารคดีเรื่องนี้ เราจะได้เห็นภาพต้นไม้สูงตระหง่านกลางผืนป่าในแบบที่ไม่ได้พบเห็นบ่อยนัก เพราะมันถูกนำเสนออย่างงดงามราวกับภาพวาดตำนานเก่าแก่ ผ่านการจัดวางบนจอด้วยสัดส่วนซีเนมาสโคป เห็นลำแสงที่ส่องลอดผ่านยอดไม้ บวกกับเทคนิคพิเศษที่เพิ่มประกายระยิบระยับ ซึ่งล้วนทำให้เรารู้สึกได้ว่าต้นไม้นั้นคือ ‘สิ่งมีชีวิต’

ภาพแปลกตาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของผู้กำกับภาพ เชอร์วิน อัคบาร์ซาเดห์ และกลุ่ม The Tree Projects ซึ่งประกอบด้วยนักปีนต้นไม้มืออาชีพกับนักวิทยาศาสตร์ด้านป่าไม้ พวกเขาต้องปีนขึ้นต้นไม้ใหญ่ในป่าโบราณสูงถึง 80 เมตรเพื่อติดตั้งกล้องแล้วเก็บภาพจากมุมมองหาดูยาก จากนั้นทีม TerraLuma ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยข้อมูลเชิงพื้นที่ของมหาวิทยาลัยแทสเมเนีย ก็ใช้เทคนิคการสแกนด้วยเลเซอร์ 3 มิติจากพื้นดินและการสแกนด้วยโดรนทางอากาศ เพื่อรวบรวมข้อมูลพอยต์คลาวด์ (point cloud data - กลุ่มข้อมูลของจุดสามมิติ) ของต้นไม้หลักและป่าโดยรอบ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่พวกเขาพลิกแพลงเครื่องมือเหล่านี้ (ซึ่งปกติใช้ในอุตสาหกรรมป่าไม้เพื่อคำนวณปริมาณไม้) มาใช้ในการ ‘จับภาพความงามและความหลากหลายของป่าโบราณ’ ก่อนส่งต่อข้อมูลไปยังทีมนักออกแบบโมชัน เพื่อลงมือสร้างสรรค์แอนิเมชันภาพเคลื่อนไหว 3 มิติที่ทำให้เรารู้สึกเสมือนต้นไม้แต่ละต้นนั้นเป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวา มีการเติบโตและมีพลังแห่งการดำรงชีพที่ชวนให้อัศจรรย์ใจ

แต่นั่นยังไม่ใช่สารทั้งหมดที่สารคดีเรื่องนี้ต้องการจะสื่อ เพราะอีกครึ่งหนึ่งของหนัง มันยังบอกเล่าเรื่องซึ่งน่าตื่นเต้นและสร้างแรงบันดาลใจได้ไม่แพ้ภาพมหัศจรรย์ของป่า นั่นคือเรื่องราวของ ‘บ็อบ บราวน์’ นักต่อสู้ผู้ทุ่มเทชีวิตยาวนานหลายสิบปีให้แก่การปกป้องความงดงามของป่าเหล่านี้ในออสเตรเลียไว้สำหรับคนรุ่นลูกหลาน

ภาพจากสารคดี The Giants
ภาพจากสารคดี The Giants

บ็อบ บราวน์เกิดในปี ค.ศ. 1944 ที่นิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย ช่วงแรก ๆ เขาทำงานเป็นแพทย์ ก่อนจะผันตัวมาเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม จุดเปลี่ยนสำคัญของบราวน์เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1976 ระหว่างไปเดินทางล่องแพในแม่น้ำแฟรงคลินซึ่งทำให้เขาได้ค้นพบความสวยงามและยิ่งใหญ่น่าหวงแหนของมัน ประสบการณ์นั้นจุดประกายให้เขาตัดสินใจริเริ่มขบวนการปกป้องธรรมชาติ อันนำมาสู่การก่อตั้งสมาคม Wilderness Society และเป็นหัวหอกของการประท้วงต่อต้านการสร้างเขื่อนที่แม่น้ำแฟรงคลินในปี ค.ศ. 1982

การประท้วงครั้งนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลก ซึ่งความสำเร็จส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดและบุคลิกอันเปี่ยมเสน่ห์ของตัวบราวน์นี่เอง เขากับทีมงานสามารถดึงดูดผู้คนหลากหลายมาเข้าร่วมได้ถึงกว่า 6,000 คน แม้มันจะลงเอยด้วยการที่รัฐส่งตำรวจเข้าสลายการชุมนุมจนมีคนถูกจับกุม 1,500 คน และถูกจำคุก 600 คน รวมถึงตัวบราวน์เองที่ถูกจำคุกนาน 19 วัน แต่ในวันเดียวกับที่เขาได้รับการปล่อยตัว บราวน์ก็ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกรัฐสภาแทสเมเนีย ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักการเมืองสีเขียวคนแรกในประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย (ต่อมาในปี ค.ศ. 1989 เขาได้เป็นผู้นำทีมกรีนและมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งพรรคกรีนออสเตรเลีย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1996 เขาก็ได้รับเลือกเข้าสู่วุฒิสภาออสเตรเลีย โดยเป็นวุฒิสมาชิกพรรคกรีนคนแรกของประเทศ)

ตลอดเส้นทางนั้น บราวน์ไม่เพียงต้องยืนหยัดเผชิญหน้ากับพรรคการเมืองรุ่นเก่าหรือทุนฝ่ายตรงข้ามที่จ้องแต่จะแสวงประโยชน์จากป่าโดยไม่สนใจผลกระทบ แต่เขากับมิตรสหายร่วมอุดมการณ์ยังต้องอดทนกับการถูกเหยียดหยามถากถาง ทว่าน่าทึ่งที่อุปสรรคกลับทำให้บราวน์ยิ่งฮึดสู้แบบไม่เกรงใจใคร แถมเขาไม่ได้สู้แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน สิทธิด้านความหลากหลายทางเพศ (บราวน์เปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์เมื่อปี ค.ศ. 1976) สิทธิผู้ลี้ภัย การควบคุมอาวุธปืน ความโปร่งใสทางการเมือง และการตรวจสอบกลุ่มทุนสื่ออย่างดุเดือดอีกด้วย

ผู้กำกับ ลอเรนซ์ บิลเลียต และ เรเชล แอนโทนี ตัดสินใจใช้วิธีเล่าเรื่องป่าไม้กับเรื่องชีวประวัติของบ็อบ บราวน์คู่ขนานกันไป เพราะได้แรงบันดาลใจหลังจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ป่าไม้หลายเล่ม เช่น The Hidden Life of Trees, Finding the Mother Tree, The Secret Life of Trees และ The City of Trees ซึ่งทำให้พวกเขาค้นพบข้อเท็จจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน นั่นคือ ต้นไม้ไม่ได้เติบโตในป่าอย่างเป็นเอกเทศ แต่พวกมันสัมพันธ์กันในฐานะ ‘ชุมชน’

ภาพจากสารคดี The Giants
ภาพจากสารคดี The Giants

บิลเลียตอธิบายว่า "เราเลยคิดว่าน่าสนใจดีถ้าลองเล่าเรื่องชีวิตของบ็อบให้เชื่อมโยงกับเรื่องของป่า และสำรวจความสัมพันธ์ที่ซ้อนทับกันระหว่างชีวิตมนุษย์กับชีวิตต้นไม้" ส่วนแอนโทนีเสริมว่า “บ็อบเป็นทั้งพลังเพื่อธรรมชาติและพลังแห่งธรรมชาติ แล้วจะมีอะไรดีไปกว่าการเชื่อมโยงชีวิตของบ็อบเข้ากับต้นไม้ของเราล่ะ คนดูจะได้เห็นว่าเรื่องราวทั้งสองเชื่อมต่อกันอย่างไร”

วิธีนี้ส่งผลให้เมื่อมองด้านหนึ่ง The Giants ดูเหมือนหนังสองเรื่องที่ต่างมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเอง แต่มองอีกด้าน ทั้งสองเส้นเรื่องนั้นมุ่งให้เราได้ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ทรงอำนาจของธรรมชาติและความเปราะบางพร้อมจะถูกทำลายลงได้ทุกเมื่อของมัน ชื่อหนัง ‘ยักษ์ใหญ่’ อาจหมายถึงทั้งต้นไม้กลางป่าอายุยืนยาวที่เติบโตงอกงามขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลาที่ผ่านไป และอีกด้านก็หมายถึงบราวน์กับเหล่ามนุษย์ที่แม้ร่างกายจะเล็กจ้อย ทว่าในยามต่อสู้อย่างอาจหาญ พวกเขาก็กลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ที่ยืนอย่างผงาดและท้าทาย

บิลเลียตให้สัมภาษณ์ย้ำประเด็นนี้ไว้ว่า “สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากชีวิตของบ็อบก็คือ ไม่มีอะไรที่กลุ่มคนเล็ก ๆ จะทำไม่ได้ บ็อบเป็นคนพิเศษ แต่ขณะเดียวกันเขาก็เป็นคนธรรมดามาก ๆ ด้วย ...ผมคิดว่าหากทุกคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วเกิดความประทับใจและลงมือทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก มันก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุด”

▶ ติดตามสารคดี The Giants เรื่องราวน่าทึ่งของ "บ็อบ บราวน์" บุคคลสำคัญของชุมชน LGBTQ+ และนักต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม สารคดีบอกเล่าความเชื่อมโยงผูกพันระหว่างต้นไม้กับมนุษย์ วัฏจักรชีวิตอันน่าทึ่งของต้นไม้ยักษ์ใหญ่ในออสเตรเลียซึ่งเป็นต้นไม้ที่สูงและเก่าแก่ที่สุดในโลก

รับชมได้ทาง www.VIPA.me หรือ VIPA Application

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ธรรมชาติสัตว์ป่าออสเตรเลียVIPAVIPA Best DocumentaryVIPAdotMeสารคดี VIPA
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้เขียน: ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้ง Documentary Club คลับของคนรักสารคดี และหนังนอกกระแส

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด