ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทย 19% “กัมพูชา” เจรจามีชั้นเชิง


รอบโลก

มินนี่ นัฐชา กิจโมกข์

แชร์

“ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทย 19% “กัมพูชา” เจรจามีชั้นเชิง

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2995

“ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทย 19% “กัมพูชา” เจรจามีชั้นเชิง

 

ทันโลก Special สัมภาษณ์พิเศษ เจาะลึก “ทรัมป์” ขึ้นภาษีไทย 19% เปิดมุมมองจาก รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

การที่โดนัลด์ ทรัมป์สรุปแล้วขึ้นภาษีไทย 19% ลดลงมาจาก 36% ไทยรับมือไหวไหม?

รศ.ดร.อัทธ์ : ไม่ไหวก็ต้องไหวครับ เพราะว่าประกาศออกมาแล้วว่า 19% จาก 36 มาเหลือ 19 ถือว่าก็เป็นความสําเร็จระดับหนึ่งของประเทศไทย ที่สามารถจะเจรจาลดลงมาได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นความสําเร็จสมบูรณ์แบบ เพราะว่าแนวคิดของการเจรจาภาษี แนวคิดของโดนัลด์ ทรัมป์ หรืออเมริกาก็ต้องปรับลดลงมาอยู่แล้ว

ทุกประเทศได้ลดหมด ลดลงเท่าไหร่ก็แล้วแต่ แต่ก็เป็นความพยายามของไทยที่สามารถทําได้ แต่ขณะเดียวกันจะมองว่าเป็นความล้มเหลวก็ไม่ผิดนัก 

กัมพูชาเจรจาภาษีไม่ธรรมดา

รศ.ดร.อัทธ์ : เราก็อยู่ในเกาะกลุ่มของประเทศอาเซียนในกลุ่มอัตราภาษี 19% จะมีกัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ และประเทศไทย

ซึ่งในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัมพูชา ที่สามารถปรับจาก 49% ไปเจรจาอย่างไรก็ไม่รู้ จาก 49% ลงมาเหลือ 19% ถือว่าการเจรจาเศรษฐกิจของเขา ก็ไม่ธรรมดา ถ้าเราพูดถึงประเด็นความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ในแง่ของการเมืองระหว่างประเทศ ในเรื่องของความมั่นคง เรื่องนี้ก็แสดงว่าในเวทีโลก ในเวทีระดับสากล กัมพูชาก็ถือว่าไม่ธรรมดา
 

กรุงพนมเปญ กัมพูชา

การแข่งขันของไทยบนเวทีอาเซียนต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?

รศ.ดร.อัทธ์ : เราสามารถแบ่งกลุ่มของคู่แข่งขันในอาเซียนได้ 3 กลุ่ม หนึ่ง กลุ่มที่เรามีภาษีต่ำ เช่น เวียดนาม ลาว เมียนมา และบรูไน

กลุ่มที่หนึ่งที่ว่านี้ บางประเทศไม่ใช่คู่แข่ง เช่น บรูไน และเมียนมา เหลือคู่แข่งจริงในกลุ่มที่หนึ่งที่ภาษีเราต่ำกว่าก็คือเวียดนาม ในกลุ่มที่หนึ่งถามว่าเราต่ำกว่าเขาหนึ่งเปอร์เซ็นต์ เกือบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการที่แข่งขันกับเวียดนาม หรือสินค้าเวียดนามโดยตรง เพราะอะไร? เพราะว่าสินค้าเวียดนาม มีราคาถูกกว่าไทย 5 ถึง 10% อยู่แล้วในตลาดอเมริกา

ถ้าเราใช้ฐานคิดที่ 5% ถูกกว่า 5% ลบออกไปอีกหนึ่งเปอร์เซ็นต์ ก็แสดงว่าสินค้าเวียดนามยังถูกกว่าสินค้าไทยที่ขายในอเมริกา 4%
 

โรงงานสิ่งทอในกรุงฮานอย เวียดนาม

ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มโดนภาษี 19% เท่ากันหลายประเทศ มีกัมพูชา ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ในกลุ่มนี้ต้องคัดประเทศกัมพูชาออก เพราะกลุ่มสินค้าหลักของกัมพูชาจะเป็นกลุ่มสินค้าที่เน้นแรงงานเป็นหลัก เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า สินค้ากลุ่มนี้ของกัมพูชา ต้องไปแข่งกับเวียดนาม ต้องไปแข่งกับอินโดนีเซีย

เพราะอินโดนีเซียเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียนที่ส่งเสื้อผ้าออกไปในตลาดโลกเยอะ รวมถึงอเมริกา อันนี้กลุ่ม 19 ก็ต้องแยกสินค้าอีก
 

อุตสาหกรรมสิ่งทอ จังหวัดชวาตะวันตก อินโดนีเซีย

กลุ่ม 19 เราจะแยกสินค้าที่เราได้รับแข่งกันจริงก็น่าจะเป็นมาเลเซีย ซึ่งจะเป็นกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้นทุนโดยรวมก็สูสีกัน  มาเลเซียค่อนข้างจะได้เปรียบในแง่ของต้นทุนในการผลิตในกลุ่มนี้ เพราะว่าเรื่องของต้นทุนพลังงานของมาเลเซียถูกกว่าไทยครึ่งหนึ่ง

กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่เราถูกภาษีสูงกว่าเขา คือกลุ่มสิงคโปร์ สิงคโปร์ 10% ไทย 19% แต่สิงคโปร์ไม่ได้เป็นคู่แข่งหลักของสินค้าของเรา ไม่ได้เป็นประเทศที่ผลิตสินค้าหลักหลักไปแข่งกับประเทศอาเซียนอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น อาจจะไม่ใช่ หรืออาจจะมีบางตัวนิดหน่อย เช่น กลุ่มที่เป็นสินค้าสําเร็จรูป อาหารสำเร็จรูป ซึ่งสิงคโปร์ได้เปรียบในแง่ของคุณภาพและมาตรฐาน เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีกฎระเบียบ มีกติกาด้านมาตรฐานทั้งนําเข้าและก็ส่งออก

เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าประเทศไทยจะได้จะเสียอย่างไร ผมอยากให้ประเทศไทยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเช่นนี้ 

อะไรคือผลกระทบที่ต้องจับตา? 

รศ.ดร.อัทธ์ : ปกติเราส่งออกไปอเมริกา เสียภาษี MFN 3% ในสมัยไบเดนก็ 3% วันนี้ก็เจอมา 19% เพราะฉะนั้นการแข่งขันของไทยก็จะต้องแพงขึ้นอยู่แล้ว สิ่งที่ประเทศไทยต้องทําต่อไป เราต้องเร่งบอกผู้ประกอบการเพื่อทําให้เขาได้มีเวลาในการปรับตัว

หน่วยงานรัฐบอกว่าต้องใช้เวลาสักหนึ่งเดือน แต่ระหว่างหนึ่งเดือนนี้ ผมคิดว่าหน่วยงานรัฐสามารถ ออกระเบียบกติกาเพื่อจะเข้าไปเยียวยา ภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบ

สินค้าที่น่ากังวล น่าจะเป็นสินค้าเกษตร เช่น กลุ่มเนื้อหมู เนื้อวัว และกลุ่มผลิตภัณฑ์นม
 

ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งใน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ

กัมพูชาดีลภาษี สะท้อนความสำเร็จในการเจรจา  

รศ.ดร.อัทธ์ : ผมคิดว่านี่คือหนึ่งความสําเร็จของกัมพูชา เพราะแสดงว่าเขายังมีชั้นเชิงในการเจรจา ภาพลักษณ์กัมพูชาในสายตาของนานาชาติ ในสายตาของประเทศที่พัฒนาแล้วยังไม่ดีเท่าไรนัก

โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ออกมาประกาศว่า กัมพูชาเป็นประเทศที่จะต้องน่าจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องของการที่จะให้วีซ่าคนกัมพูชาเข้าไปอเมริกา หรือเรื่องบทบาทและอิทธิพลของประเทศจีนที่อยู่ในกัมพูชา แต่เขาสามารถพลิกเกมได้ 

ภาษีเขาลงมาถึง 19% ส่วนหนึ่งมองว่าคือเรื่องของด้านการทหารที่จะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกา เมื่อก่อนสหรัฐอเมริกาไม่ได้เข้ามามีบทบาทด้านการทหารในกัมพูชามากนัก 
 

ฐานทัพเรือเรียมในจังหวัดพระสีหนุ กัมพูชา

สองก็คือเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อเมริกามาลงทุนในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ซึ่งผลประโยชน์ทางทะเล ก็คือเรื่องก๊าซธรรมชาติ แล้วก็เปิดตลาดให้อเมริกามาทําเรื่องของสตาร์ลิงก์อีกด้วย

ติดตามชมรายการทันโลก กับ Thai PBS วันจันทร์ - พฤหัสบดี เวลา 21.00 – 21.30 น. ทางช่อง Thai PBS หมายเลข 3 หรือรับชมออนไลน์ผ่านทาง www.thaipbs.or.th/Live และชมย้อนหลังได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/program/Tanloke

แท็กที่เกี่ยวข้อง

กำแพงภาษีสหรัฐอเมริกาโดนัลด์ ทรัมป์กัมพูชาภาษีรศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช
มินนี่ นัฐชา กิจโมกข์

ผู้เขียน: มินนี่ นัฐชา กิจโมกข์

“มินนี่” ชอบ “เมาท์” เรื่องต่างประเทศ รักเปียโน กีตาร์ และเพลงแจ๊ส เป็นพี่สาวแมวสองตัวชื่อโมเนต์กับมิวทู <3

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด