นักวิจัยพัฒนาวิธีการ "Tap and Go" เพื่อติดแท็ก "วาฬหัวทุย" โดยใช้โดรน ยกระดับการวิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลอย่างปลอดภัย และไม่คุกคามต่อสัตว์ท้องถิ่น
สำนักข่าว Reuters รายงานถึงความพยายามของทีม Project CETI (Cetacean Translation Initiative) ในการศึกษาวิจัยเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและการสื่อสารของวาฬหัวทุย พร้อมกับการอนุรักษ์ทางทะเล ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัย และไม่คุกคามต่อสัตว์ท้องถิ่น
โดยทั่วไปแล้ว วาฬหัวทุยสามารถดำน้ำลึกและอยู่ใต้น้ำได้นานประมาณ 45 นาที และโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำเพียง 8-10 นาทีเท่านั้น ทีมวิจัยจึงจำเป็นต้องติดแท็กวาฬในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยเลือกใช้โดรนบินทางอากาศแทนการใช้โดรนใต้น้ำซึ่งจะช้ากว่ามาก
วิธีการนี้ถูกทดสอบกับวาฬหัวทุยนอกชายฝั่งโดมินิกา โดยทีมวิจัยใช้โดรนแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPV) ที่ได้รับการดัดแปลง เพื่อติดตั้งแท็กแบบถ้วยดูด สำหรับรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของวาฬ รวมถึงข้อมูล Bioacoustics ที่ครอบคลุมไปถึงการผลิต การแพร่กระจาย และการรับสัญญาณเสียงของสิ่งมีชีวิต และความลึกของการดำน้ำ
วิธีการนี้จะใช้โดรนช่วยให้สามารถติดแท็กได้จากระยะไกล ซึ่งช่วยลดการรบกวนของมนุษย์กับวาฬ ต่างจากวิธีการติดแท็กแบบใช้เสาทั่วไปที่เรือต้องเข้าใกล้วาฬมากขึ้น

ศาสตราจารย์เดวิด กรูเบอร์ ผู้ก่อตั้งโครงการ CETI ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ระบุว่า วิธีการติดแท็กแบบถ้วยดูด ด้วยโดรนแบบ "Tap-and-go" เป็นวิธีใหม่ที่สามารถติดแท็กบนหลังวาฬได้ง่ายสะดวกมากขึ้น เพียงแค่ส่งโดรนเข้าไปใกล้ ๆ วาฬ และติดแท็กเบา ๆ บนหลังของมัน จากนั้นโดรนก็จะบินออกไปในทันที
โดรนเหล่านี้ซึ่งถูกดัดแปลงให้ทนทานต่อน้ำทะเล สามารถติดแท็กที่ติดอยู่บนหลังวาฬได้ภายในเวลาเฉลี่ย 1 นาที 15 วินาที ซึ่งเร็วกว่าการติดแท็กแบบใช้เสาที่ปกติต้องใช้เวลา 3-5 นาที โดยมีอัตราความสำเร็จมากกว่า 55%
การศึกษานี้ซึ่งดำเนินการโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและโครงการ CETI เน้นย้ำถึงความคุ้มค่าของวิธีการนี้ โดยส่วนประกอบของโดรนมีราคาอยู่ที่ประมาณ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 42,500 บาทเท่านั้น
อนึ่ง "วาฬสเปิร์ม" หรือ "วาฬหัวทุย" (Sperm whale) เป็นวาฬที่มีฟันที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยขนาด 15-16 เมตร มีลักษณะเด่นคือ ส่วนหัวที่ใหญ่ และยาวมาก คิดเป็น 40% ของความยาวทั้งหมด เป็นหนึ่งในวาฬที่สามารถดำน้ำได้ลึกที่สุด โดยดำได้ลึกถึง 3,000 เมตร
วิธีการนี้อาจทำให้นักวิจัยหันมาใช้การติดแท็กอัตโนมัติมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับการวิจัยสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลโดยที่ไม่ต้องเข้าไปรบกวนสัตว์ท้องถิ่น
ที่มาข้อมูล : Reuters
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech