ในโลกของกีฬาฟุตบอล “ดาร์บี้แมตซ์” เป็นคำคุ้นหูของหลายคนที่ใช้เรียกแมตช์แข่งขันระหว่างทีมที่อยู่ร่วมเมืองเดียวกัน และว่ากันว่าการแข่งขันมักจะเดือดกว่าการเจอคู่แข่งทั่วไป
Thai PBS ชวนดูที่มาที่ไปของ “ดาร์บี้แมตซ์” ทีมร่วมเมืองเดียวกัน เหตุใดจึงจัดเต็มใส่หนักกว่าทีมอื่น และดาร์บี้แมตซ์ทั่วโลกลูกหนังมีแมตช์ไหน เรื่องราวใดซ่อนอยู่บ้าง ?
รู้จัก “ดาร์บี้แมตซ์” จากการแข่งม้ายอดนิยม สู่ แมตซ์สุดมันทีมร่วมเมือง
ที่มาของชื่อ ดาร์บี้แมตซ์ (Derby Match) มีหลายทฤษฎี แต่ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดว่าเป็นต้นกำเนิดของชื่อที่ใช้เรียกแมตซ์การแข่งขันระหว่างทีมที่อยู่ร่วมเมืองเดียวกันนั้นมาจากที่มาจากชื่อการแข่งม้า เดอะดาร์บี้ หรือ The Derby ที่มีจัดขึ้นในช่วงปี 1778 โดยมีที่มาจากขุนนางเอิร์ลแห่งดาร์บี้ที่ก่อตั้งการแข่งม้ารายการนี้ขึ้น
และเนื่องจากการแข่งม้าเดอะดาร์บี้เป็นที่นิยมของคนอังกฤษมาก นอกจากการแข่งม้าแล้วยังมีงานออกร้านแสดงสินค้าต่าง ๆทำให้ “ดาร์บี้แมตซ์” กลายเป็นวันสำคัญที่สร้างทั้งความบันเทิงและรายได้สู่ผู้คนในพื้นที่ ถึงขั้นครั้งหนึ่งสภาเมืองพิจารณาให้มีการหยุดงานเพื่อไปให้พนักงานไปร่วมดูการแข่งม้ารายการนี้
อย่างไรก็ตาม การแข่งม้าในอังกฤษมีความนิยมที่ลดลงตามยุคสมัย แต่คำว่าดาร์บี้แมตซ์ยังคงมีมนต์ขลังที่ถูกสื่อเมืองผู้ดีนำไปใช้เรียกการแข่งขันแมตซ์สำคัญ เช่น รักบี้ ฮอกกี้ คริกเกต และที่นิยมใช้กันมาถึงปัจจุบันคือนัดสำคัญในการแข่งขันฟุตบอลนั่นเอง โดยมีความหมายถึงการแข่งนัดสำคัญที่เป็นแมตซ์ใหญ่ และผู้คนที่มาร่วมดูต้องได้พบกับความสนุกอย่างแน่นอน
ทว่านิยามดาร์บี้แมตซ์ที่หมายถึงการแข่งขันระหว่างทีมร่วมเมืองเกิดขึ้นในปี 1914 จากหนังสือพิมพ์ เดลี เอ็กซ์เพรส ที่มีการใช้คำว่า “ดาร์บี้” พาดหัวเพื่อโปรโมทการแข่งขันระหว่าง 2 คู่แข่งสุดเดือดเพื่อนร่วมเมืองในช่วงเวลานั้นอย่าง ลิเวอร์พูล และ เอฟเวอร์ตัน หลังจากนั้นเองที่คำว่าดาร์บี้แมตซ์มีความหมายถึงการแข่งขันของทีมร่วมเมืองเดียวกัน
ในเวลาต่อมาคำว่าดาร์บี้แมตซ์ก็แพร่หลายไปทั่วโลกฟุตบอลจนเกิดเป็นดาร์บี้แมตซ์สุดดุเดือดของทีมร่วมเมืองที่แต่ละแห่งก็มีเอกลักษณ์ มีเรื่องราวแห่งศักดิ์ศรีเพื่อชิงความเป็นหนึ่งของเมืองอยู่เบื้องหลัง
นักจิตวิทยาด้านกีฬามองว่า เกมดาร์บี้แมตซ์กลายเป็นนัดแข่งขันที่ดุเดือดและมีความพิเศษ มีรากมาจากความเป็นสังคมชนเผ่าในยุคโบราณและสัญชาติญาณการเอาตัวรอด การรวมกลุ่มเพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัย ผ่านการระบุตัวตนด้วยทีมฟุตบอล สร้างความผูกพันผ่านสัญลักษณ์ของสีสัน โลโก้และผืนธง
เมื่อมาเผชิญกับทีมร่วมถิ่น คู่แข่งในภูมิศาสตร์เดียวกัน จึงเกิดเป็นการแข่งขันที่มีบรรยากาศที่เข้มข้น วัฒนธรรมการโห่ร้องเฉลิมฉลองในชัยชนะ ยิ่งสร้างอารมณ์ร่วมของผู้คนได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเช้าต่อมาหลังการแข่งขันจบลง แฟนบอลดาร์บี้แมตซ์ของทีมที่พ่ายแพ้ ยังคงต้องใช้ชีวิตเดินอยู่ในบรรยากาศเดียวกับทีมผู้ชนะ เนื่องจากอยู่ในละแวกเมืองเดียวกันนั่นเอง
ดาร์บี้แมตซ์สุดเดือดแห่งโลกฟุตบอลที่มีไหนบ้าง ?
การแข่งขันที่เรียกกันว่า ดาร์บี้แมตซ์ คือการแข่งขันระหว่างทีมที่อยู่ร่วมเมืองเดียวกัน ซึ่งมีความดุเดือดเข้มข้นที่แตกต่างกันไป และต่อไปนี้ คือดาร์บี้แมตซ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสนุกของเกมการแข่งขัน รวมทั้งมีเรื่องราวที่น่าสนใจซ่อนอยู่ มีแมตซ์ไหนบ้าง ? ไปดูกัน
1.เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตซ์ (Merseyside Derby) ศึกสุดแค้นแสนรักแห่งลุ่มน้ำเมอร์ซีย์
การแข่งขันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอฟเวอร์ตัน 2 ทีมดังจากที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน รากเหง้าของความขัดแย้งมีมาตั้งแต่ปี 1892 จากความขัดแย้งภายในของสโมสรเอฟเวอร์ตัน ที่เดิมทีใช้แอนฟิลด์เป็นสนามเหย้า แต่เกิดแตกหักกันกับจอห์น โฮลดิ้ง เจ้าของสนามแอนฟิลด์ เอฟเวอร์ตันจึงย้ายออกไป ขณะที่โฮลดิ้งก็ก่อตั้งสโมสรลิเวอร์พูลขึ้นมาตอบโต้
จากการแตกหักสู่ความขัดแย้ง นำพาไปสู่แมตซ์การแข่งขันสุดดุเดือนของทีมร่วมเมืองที่สนามแข่งขันอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 นาที ทั้งนี้ เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตซ์มีชื่อเดิมว่า friendly derby หรือแปลได้ว่า “ศึกดาร์บี้มิตรภาพ” เนื่องจากทั้ง 2 ทีมต่างมีแฟนบอลที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ทำให้การมาร่วมเชียร์ต่างก็ได้ประโยชน์ทั้งความสนุก
ทั้ง 2 ทีมกลายเป็นสโมสรคู่แข่งแย้งแชมป์กันในช่วงทศวรรษที่ 1960 อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการแข่งขันระหว่าง 2 ทีม แม้ในสนามจะดุเดือดเพื่อชัยชนะ แต่นอกสนามยังคงถือมีความเป็นมิตรต่อกัน กระทั่งในปี 1985 เกิดโศกนาฏกรรมเฮย์เซลในนัดชิงแชมป์ยูโรเปียนคัพ แฟนบอลลิเวอร์พูลทำกำแพงสนามพัง เหตุการณ์ชุลมุนขึ้นจนทำใหมีผู้เสียชีวิตถึง 39 ราย
ท้ายที่สุด กลายเป็นบทลงโทษแบนสโมสรจากอังกฤษ ไม่ให้เข้าร่วมการแข่งขันของยูฟ่านานหลายปี ส่งผลให้เอฟเวอร์ตันไม่ได้สิทธิ์ไปแข่งยุโรป ความขัดแย้งระหว่างแฟนบอลจึงเริ่มชัดเจนขึ้นในช่วงฤดูกาลต่อจากนั้นในช่วงปี 1986 นั่นเอง ประสานกับการขับเคี่ยวความสำเร็จที่ดุเดือดยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมสนามฮิลส์โบโรห์ ที่แฟนบอลลิเวอร์พูลเสียชีวิต จากการเข้าชมเกมการแข่งขันเอฟเอคัพรอบรองฯ ระหว่าง ลิวอร์พูลกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 97 คน ในช่วงเวลานั้น แม้แฟนบอลเอฟเวอร์ตันที่ยังรู้สึกเจ็บปวดจากการพลาดโอกาสไปเล่นฟุตบอลยุโรป แต่ก็พร้อมยืนเคียงข้างทีมเพื่อนร่วมเมือง ร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 20 ปี กว่าความจริงจะปรากฏ การสืบสวนทั้งหมดได้บทสรุปว่า เป็นความผิดพลาดจากการทำงานหลายส่วนของเจ้าหน้าที่ในสนาม
เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้แมตซ์ จึงเป็นการแข่งขันระหว่างทีมพี่น้องที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน ร่วมเมืองเดียวกัน มีความขัดแย้งไม่ชอบกัน เล่นหนักตามสไตล์อังกฤษ แต่ขณะเดียวกัน เรื่องราวนอกสนามก็มีความผูกพันที่ผ่านทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายมาด้วยกัน
2.นอร์ทลอนดอนดาร์บี้แมตช์ (North London Derby) มหาศึกแห่งลอนดอนเหนือ
ลอนดอนเมืองหลวงของอังกฤษ เป็นที่ตั้งของหลายสโมสรฟุตบอลชั้นนำ ทำให้มีดาร์บี้แมตซ์เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ดาร์บี้แมตช์ที่ขึ้นชื่อที่สุดแมตซ์หนึ่งคงหนีไม่พ้น นอร์ทลอนดอนดาร์บี้แมตซ์ ระหว่าง อาร์เซนอล และท็อตแนม ฮอตสเปอร์
เดิมทีทั้ง 2 ทีมเป็นเพียงทีมร่วมเมืองลอนดอนทั่วไป เคยพบกันมาก่อนตั้งแต่ช่วงปี 1887 ก่อนที่ความขัดแย้งที่เข้มข้นจะเริ่มต้นในปี 1913 เมื่ออาร์เซนอลย้ายไปอยู่ที่สนามไฮบิวรี ที่ห่างจากสนามไวท์ฮาร์ทเลนของสเปอร์สเพียง 4 ไมล์ หรือราว 6 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้แฟนบอลท็อตแนม ฮอตสเปอร์รู้สึกไม่พอใจ เพราะมองว่าพื้นที่ไฮบิวรีถือเป็นของพวกเขามาก่อน
หนังสือพิมพ์มีการลงบทความเผยว่าฝั่งเหนือของลอนดอน ไม่ต้องการสโมรสฟุตบอลเพิ่มเติม การย้ายมาอยู่ใกล้กัน ทำให้ทั้ง 2 ทีมกลายเป็นคู่แข่งที่อยู่ใกล้กันโดยปริยายอีกด้วย
ความขัดแย้งระหว่าง 2 สโมสรเข้มข้นขึ้นหลังปี 1919 เมื่อการแข่งขันฟุตบอลดิวิชัน 1 อังกฤษ มีการเพิ่มทีมในลีกสูงสุด และต้องมีการโหวตร่วมกันของสโมสรร่วมลีก เพื่อหาว่าทีมที่จะตกชั้นและเลื่อนชั้นต้องเป็นอย่างไร ผลสรุปมีกระแสข่าวการล็อบบี้กันและทำให้อาร์เซนอลได้เลื่อนชั้น สวนทางกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์ที่ตกชั้นไป เหตุการณ์ดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกิดเป็นความขัดแย้งที่เด่นชัดขึ้น
นับจากนั้นทั้ง 2 ทีมก็กลายเป็นคู่แข่งขันที่มีเรื่องราวดุเดือดต่อกันในเชิงลูกหนังทั้งในและนอกสนาม มีเหตุขัดแย้งต่อกัน โดยกรณีโด่งดังที่สุด คือการย้ายตัวของโซล แคมป์เบล ยอดกองหลังที่ย้ายจากท็อตแนม ฮอตสเปอร์ไปร่วมทีมอาร์เซนอลแบบไม่มีค่าตัว จนถูกตั้งฉายาว่า “จูดาส” จากแฟนบอลท็อตแนม ฮอตสเปอร์
3.โอลด์เฟิร์มดาร์บี้แมตซ์ (The Old Firm Derby) ศึกเดือดแห่งกลาสโกว์
ถอยออกมาจากเกาะอังกฤษแต่ยังคงอยู่ในเขตของสหราชอาณาจักร กับคู่อริจากสกอตแลนด์ และเป็นอริร่วมเมืองกลาสโกว์อย่าง กลาสโกว์ เซลติก และ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส โดยทั้ง 2 ทีมถือเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จสูงสูดและได้รับความนิยมมากที่สุุดในลีกสกอตแลนด์มาอย่างยาวนาน
การพบกันของทั้งสองทีม มีชื่อดาร์บี้แมตซ์ว่า ดิ โอลด์ เฟิร์ม ดาร์บี้ (The Old Firm Derby) ที่มาของชื่อนี้ไม่แน่ชัดนัก เชื่อกันมาว่า มาจากผู้บรรยายที่เรียกทั้ง 2 ทีมว่า like two old, firm friends มีความหมายว่า “เหมือนเพื่อนเก่าที่สนิทสนมกัน”
ความเป็นคู่แข่งร่วมเมืองของทั้งคู่ฝังรากอยู่ในวัฒนธรรมสกอตแลนด์ การเมือง สังคมและศาสนา
โดยกลาสโกว์ เซลติก มีประวัติศาสตร์ของสโมสรที่เป็นเสมือนภาพแทนของชาวไอริช - สกอต ที่อพยพเข้ามาอยู่ในสกอตแลนด์ นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และมีอุดมการณ์ทางการเมืองในแบบสังคมนิยม สีเขียวขาวและตรากางเขนแห่งสโมสรเซลติก สะท้อนอัตลักษณ์เหล่านี้ไว้อย่างชัดเจน
ขณะที่คู่อริร่วมเมืองอย่างกลาสโกว์ เรนเจอร์ ย่อมเป็นภาพแทนของชาวสกอตพื้นเมืองทั้งสีสัน ตราสัญลักษณ์ ที่มาพร้อมความแตกต่าง ทั้งเชื้อชาติ การนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ รวมทั้งไม่ยอมเซ็นสัญญากับนักเตะที่นับถือนิกายโรมันคาทอลิกมานานหลายทศวรรษ ขณะเดียวกันก็มีความเชื่อทางการเมืองในแบบอนุรักษ์นิยม
ศึกแห่งกลาสโกว์จึงเป็นเรื่องราวการปะทะที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง แฝงไปด้วยความเกลียดชังต่อกันมาเป็นเวลายาวนาน มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจากในสนามสู่นอกสนามฟุตบอล อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังปี 2000 ความขัดแย้งค่อย ๆ ลดลง ทั้งด้านศาสนา อุดมการณ์ทางการเมือง ทั้ง 2 สโมสรมีโครงการร่วมมือกันในหลายเรื่อง เพื่อพัฒนาเมืองไปในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งลดอคติด้านศาสนาในวงการฟุตบอล
“ดาร์บี้แมตซ์” ไม่ใช่เพียงแค่แมตซ์ฟุตบอลทั่วไป หลายแห่งต่างมีความเป็นมาของความขัดแย้งบางอย่างซ่อนอยู่ แต่ในความขัดแย้งเหล่านั้น มีสายสัมพันธ์ของความเป็นเพื่อนร่วมเมืองที่มีต่อกันอยู่ด้วย ความสนุกเร้าใจในเกมลูกหนัง สะท้อนทั้งความขัดแย้งที่ซับซ้อน และความสัมพันธ์ของผู้คนที่เป็นมากกว่าเกมกีฬา
อ้างอิง
- givemesport.com
- visitliverpool.com
- bbc.co.uk
- mancity.com
- friendsofliverpool.com
- onefootball.com