ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

รวมวิธี “แบงก์ปลอม” ดูอย่างไร ?


Insight

อธิเจต มงคลโสฬศ

แชร์

รวมวิธี “แบงก์ปลอม” ดูอย่างไร ?

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3182

รวมวิธี “แบงก์ปลอม” ดูอย่างไร ?

 

กระแส “อายัดบัญชี” จากการปราบบัญชีม้าส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มงดรับเงินโอน หันมารับเฉพาะเงินสด แต่กลับเจอปัญหาแบงก์ปลอมระบาด

Thai PBS รวบรวมวิธีดูแบงก์ปลอมสามารถสังเกตได้อย่างไร ? มีเครื่องมืออะไรสามารถช่วยได้บ้าง ? เจอแบงก์ปลอมต้องทำอย่างไร ? แบงก์ปลอมถือเป็นเรื่องใหญ่หากพบเจอสามารถแจ้งเพื่อรับรางวัลนำจับให้อีกด้วย

“แบงก์ปลอม” มีวิธีสังเกตอะไรบ้าง ?

หลังจากกระแสข่าวอายัดบัญชีที่ทำให้พ่อค้าแม่ค้าหลายคนหันมารับเงินสดเท่านั้น แบงก์ปลอมกลับกลายเป็นภัยร้ายใหม่ที่เข้ามา ความจำเป็นที่จะต้องรับเงินสดจากผู้คนมากมายในแต่ละวัน มิจฉาชีพอาจใช้เป็นโอกาสที่จะใช้เงินปลอมเหล่านี้ได้ Thai PBS รวบรวมวิธีสังเกตรวมถึงตรวจสอบซึ่งสามารถทำได้ไม่ยาก มีวิธีดังนี้

สัมผัสเนื้อกระดาษ แบงก์ปลอมจะมีสัมผัสของเนื้อกระดาษต่างจากแบงก์จริง โดยแบงก์จริงจะทำจากกระดาษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก มีความแกร่ง ทนทาน และไม่ยุ่ยง่ายเมื่อจับสัมผัสจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษทั่วไป นอกจากนี้ยังมีแบงก์พอลิเมอร์ซึ่ง ณ ปัจจุบันประเทศไทยเองมีเฉพาะแบงก์ 20 บาทที่ผลิตจากพอลิเมอร์ มีลักษณะด้าน ๆ เป็นพลาสติกชนิดพิเศษ มีเคลือบผิวลื่น ปลอมแปลงได้ยาก และมีกำลังจะมีการผลิตแบงก์พอลิเมอร์ใช้งานมากขึ้นในอนาคตโดยมีกำหนดใช้แบงก์พอลิเมอร์ชนิดราคา 50 บาท และ 100 บาท ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568

สัมผัสลายพิมพ์เส้นนูน อีกจุดสังเกตด้วยการสัมผัสเพื่อแยกแบงก์ปลอม คือบริเวณเส้นพิมพ์นูนเกิดจากการพิมพ์โดยใช้แม่พิมพ์ที่มีร่องหมึกลึกและใช้แรงกดพิมพ์สูง หมึกพิมพ์จึงนูนขึ้นมาจากเนื้อกระดาษ ภาพและลายเส้นจึงมีรายละเอียดที่คมชัด โดยจุดที่ใช้พิมพ์เส้นนูนจะได้แก่ พระบรมฉายาลักษณ์ คำว่า “รัฐบาลไทย” ตัวอักษะและตัวเลขแจ้งชนิดราคาของแบงก์ สัญลักษณ์แจ้งราคาแบงก์สำหรับผู้พิการทางสายตา (รูปดอกไม้แทนอักษรเบรลล์) เมื่อสัมผัสด้วยปลายนิ้วจะรู้สึกถึงพื้นผิวที่สะดุดขึ้นมา

การยกส่องดูลายน้ำ ถือเป็นอีกจุดแยกแบงก์ปลอมจากแบงก์จริง “ลายน้ำ” เกิดจากขั้นตอนการผลิตกระดาษทำให้เนื้อกระดาษมีความหนาบางไม่เท่ากันเกิดเป็นภาพขึ้นมา โดยลายน้ำในธนาบัตรไทยจะเป็นพระบรมฉายาสาทิสลักณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อยกส่องจะเห็นชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลายน้ำยังมีตัวเลขชนิดราคาของแบงก์กำกลับอยู่ด้วย

จุดสังเกตของลายน้ำ
 

การยกส่องดูช่องใส จุดนี้สามารถแยกแบงก์ปลอมได้เฉพาะกับแบงก์พอลิเมอร์ ซึ่งมีเฉพาะในแบงก์ 20 บาท และในอนาคตจะมีแบงก์ 50 บาทและ 100 บาทเพิ่มขึ้น โดยช่องใสจะสามารถมองทะลุได้ทั้ง 2 ด้าน มีตัวราคากำกับ

การยกส่องดูภาพซ้อนทับ เนื่องจากการพิมพ์แบงก์มีการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ภาพ 2 ด้านพร้อมกัน ทำให้ลวดลายที่ออกแบบมาอยู่บนแบงก์ไว้ในตำแหน่งตรงกันทั้งด้านหน้าและด้านหลังซ้อนทับกันได้สนิท หรือประกอบเข้ากันได้อย่างพอดีเมื่อยกแบงก์ส่องดู จุดที่ส่องเห็นชัดได้แก่ ตราครุฑที่ด้านหน้าจะมีหนึ่ง ด้านหลังจะเป็นอีกสีเพื่อส่องจะเห็นเป็นสีผสมกันพอดี

การพลิกเอียง สามารถใช้ดูตรวจสอบแบงก์ปลอมได้จากหลายจุด ได้แก่
ตัวเลขแฝง บริเวณลายประดิษฐ์ที่มุมล่าง เมื่อเอียงแบงก์เข้าหาแสงจะมองเห็น
ลายดอกประดิษฐ์ สีทองมีตราสัญลักษณ์ที่มีเฉพาะในแบงก์ 500 บาท และ 1,000 บาท พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติ เมื่อพลิกเอียงจะเห็นสีสันที่เปลี่ยนได้ ขณะแบงก์ 100 บาท ลายดอกประดิษฐ์นี้จะเห็นเป็นประกาย
แถบสี-แทบเทา ที่มีลักษณะเป็นเส้นหนา ๆ บนแบงก์ เกิดขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการผลิจกระดาษโดยใช้วิธีพิเศษที่ฝังแถบพลาสติกขนาดเล็กเคลื่อนด้วยสีโลหะใส่ไส้ในเนื้อกระดาษตามแนวตั้ง เอียงพลิกดูแล้วสีจะเปลี่ยนตามมุมมอง ภายในแถบนี้มีตัวเลขและอักษรแจ้งราคาของแบงก์อยู่ด้วย ส่วนแบงก์พอลิเมอร์ แบงก์ 20 บาท และแบงก์ 50 บาท กับ 100 บาท ในอนาคต จะเป็นแถบสีเทาขนาดเล็ก ที่มีข้อความแสดงราคาเงินเช่นกัน จะเห็นชัดเพื่อเอียงส่องกับแสงสว่าง

ตรวจสอบลายเรืองแสงผ่านแสง UV สามารถช่วยในการแยกแบงก์ปลอมจากแบงก์จริง เนื่องจากแบงก์จริงจะมีการพิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์พิเศษเรืองแสงที่สามารถมองเห็นได้เมื่อถูกส่องด้วยแสง UV (UltraViolet) ซึ่งสามารถใช้แสงสีม่วงหรือไฟฉาย Black Light ช่วยในการตรวจสอบได้ โดยจะปรากฏลายเรืองแสงเป็นลายประดิษฐ์ ตัวเลขชนิดราคาแบงก์ และเส้นใยที่ฝังในเนื้อกระดาษจะเรืองแสงเป็นสีเหลือง แดง น้ำเงินด้วย ส่วนแบงก์พอลิเมอร์ 20 บาทจะมีลายประดิษฐ์เรืองแสงเป็นสีเขียวอมเหลือง ขณะแบงก์พอลิเมอร์ 50 บาท และ 100 บาท บริเวณกลางธนบัตรจะเป็นสีเขียวอมส้มขึ้นมา

ตัวอย่างเมื่อตรวจสอบผ่านแสง UV

เมื่อเจอ “แบงก์ปลอม” ต้องทำอย่างไร ?

ในช่วงที่เกิดการระบาดของแบงก์ปลอมหากคุณพบเห็นการใช้แบงก์ปลอม หรือได้รับจากการซื้อขายสินค้าและบริการมีข้อปฏิบัติจากธนาคารแห่งประเทศไทยดังนี้

1. ไม่นำแบงก์ปลอมไปใช้ต่อ เนื่องจากจะมีความผิดตามกฎหมายได้
2. แยกแบงก์ปลอมจากระบบ ด้วยการเขียนคำว่า “ปลอม” ลงบนธนบัตรปลอมเพื่อแยกแบงก์ปลอมออกจากแบงก์จริง
3. นำส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สามารถส่งมอบให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อนำส่งเข้าระบบ หรือนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแจ้งลักษณะรูปพรรณและสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับผู้ที่นำเอาแบงก์ปลอมมาใช้กับคุณ เช่น ได้มาอย่างไร ? จากใคร ? เพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุม หรือแจ้งธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 02 356 7987

ทั้งนี้ การแจ้งเบาะแสทั้งแหล่งผลิตหรือจำหน่ายแบงก์ปลอมจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด ทางการได้มีการตั้ง “เงินสินบท” หรือ “เงินรางวัล” ให้กับผู้แจ้งความให้เกิดการจับกุม ตามระเบียบของกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลการจับกุมการปลอมแปลงธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2529 

มีการกำหนดให้ “เงินสินบน” จ่ายให้ผู้แจ้งความนำจับโดยมีหลักเกณฑ์คือ กรณีที่ 1 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นอุปกรณ์ ให้จ่ายเงินสินบนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของราคาอุปกรณ์ตามที่กรมธนารักษ์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วแต่กรณีประเมินราคา แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท กรณีที่ 2 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นธนบัตรปลอม ให้จ่ายเงินสินบนในอัตราไม่เกินร้อยละ 30 ของราคาในหน้าธนบัตรปลอม หรือเหรียญกษาปณ์ปลอมที่จับได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ส่วน “เงินรางวัล” จ่ายให้กับผู้จับกุมโดยมีหลักเกณฑ์คือ กรณีที่ 1 จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นอุปกรณ์ให้จ่ายเงินรางวัลในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของราคาอุปกรณ์ตามที่กรมธนารักษ์ หรือธนาคารแห่งประเทศไทยแล้วแต่กรณีประเมินราคา แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท กรณีที่ 2  จับได้ตัวผู้ต้องหา และของกลางเป็นธนบัตรปลอมให้จ่ายเงินรางวัลในอัตราไม่เกินร้อยละ 25 ของราคาในหน้าธนบัตรปลอม หรือเหรียญกษาปณ์ปลอมที่จับได้ แต่ต้องไม่เกิน 100,000 บาท

ใช้ “แบงก์ปลอม” มีความผิดอะไรบ้าง ?

แบงก์ปลอมสร้างความเสียหายต่อหลายบุคคล กระทบได้ถึงเศรษฐกิจของประเทศหากมีการแพร่ระบาดเป็นปริมาณมาก จึงมีความผิดตามกฎหมายหลายมาตราด้วยกัน และมีความผิดในทุกขั้นตอนของขบวนการที่เกี่ยวข้องกับแบงก์ปลอม ทั้งการใช้แบงก์ ตลอดจนการผลิต รวมไปถึงการสร้างเครื่องที่ใช้ผลิตแบงก์ปลอมอีกที

มาตรา 240 ผู้ใดทำปลอมขึ้นซึ่งเงินตรา ไม่ว่าจะปลอมขึ้นเพื่อให้เป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือทำปลอมขึ้นซึ่งพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ๆ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานปลอมเงินตรา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 241 ผู้ใดแปลงเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์  ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใดซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือแปลงพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ๆ ให้ผิดไปจากเดิม เพื่อให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีมูลค่าสูงกว่าจริง ผู้นั้นกระทำความผิดฐานแปลงเงินตรา ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท

มาตรา 244 ผู้ใดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งสิ่งใด ๆ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสามแสนบาท

มาตรา 245 ผู้ใดได้มาซึ่งสิ่งใด ๆ โดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอมตามมาตรา 240 หรือของแปลงตามมาตรา 241 ถ้าต่อมารู้ว่าเป็นของปลอมหรือของแปลงเช่นว่านั้น ขืนยันนำออกใช้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 246 ผู้ใดทำเครื่องมือหรือวัตถุสำหรับปลอมหรือแปลงเงินตราไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตร หรือสิ่งใด ๆ ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือสำหรับปลอมหรือแปลงพันธบัตรรัฐบาลหรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ๆ หรือมีเครื่องมือหรือวัตถุเช่นว่านั้น เพื่อใช้ในการปลอมหรือแปลง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสามแสนบาท

มาตรา 249 ผู้ใดทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใด ๆ ให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกษาปณ์ ธนบัตรหรือสิ่งใด ๆ ซึ่งรัฐบาลออกใช้หรือให้อำนาจให้ออกใช้ หรือพันธบัตรรัฐบาล หรือใบสำคัญสำหรับรับดอกเบี้ยพันธบัตรนั้น ๆ หรือจำหน่ายบัตรหรือโลหะธาตุเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการจำหน่ายบัตรหรือโลหะธาตุดังกล่าวในวรรคแรก เป็นการจำหน่ายโดยการนำออกใช้ดังเช่นสิ่งใด ๆ ที่กล่าวในวรรคแรก ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
[อัตราโทษ แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ 2560]

อ้างอิง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ธนาบัตรแบงก์ปลอมแบงก์มิจฉาชีพอายัดบัญชี
อธิเจต มงคลโสฬศ

ผู้เขียน: อธิเจต มงคลโสฬศ

เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล ไทยพีบีเอส สนใจเนื้อหาด้านสุขภาพจิต สาธารณสุข และความยั่งยืน รวมถึงประเด็นทันกระแสที่มีแง่มุมน่าสนใจซ่อนอยู่

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด