ผลประกาศรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก ประจำปี 2025 หรือ “บัลลงดอร์ 2025”ผ่านไปเรียบร้อย โดยรางวัลตกเป็นของ อุสมาน เดมเบเล่ นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส และเป็นนักเตะสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในลีกเอิง ประเทศฝรั่งเศส
Thai PBS ชวนเข้าสู่โลกแห่งการประกาศรางวัลใหญ่แห่งนี้ ที่ผ่านมา มีเรื่องราวใดที่น่าสนใจ และโดยเฉพาะกับผลรางวัลครั้งล่าสุด ที่นักเตะ Gen Z อย่าง “เดมเบเล่” ได้ก้าวขึ้นมารับรางวัลนี้ หรือจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า โลกฟุตบอลกำลังเปลี่ยนผ่าน และขับเคลื่อนด้วยนักฟุตบอลรุ่นใหม่ไปแล้ว ?
รู้จักรางวัลบัลลงดอร์ (Ballon d'Or) คืออะไร ?
รางวัลบัลลงดอร์ หรือในชื่อเรียกเต็มว่า รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า (FIFA Ballon d'Or ) เป็นรางวัลฟุตบอลประจำปี ที่มอบให้กับนักฟุตบอลที่มีผลงานดีที่สุดในรอบปีตามปฏิทินฟุตบอลของฟีฟ่า
โดยหลักเกณฑ์ในการตัดสิน สำหรับผู้ที่จะได้รับรางวัลบัลลงดอร์ คือ
- พิจารณาจากผลงานฤดูกาลปกติของการแข่งขันในยุโรป ระหว่างเดือนสิงหาคม - กรกฎาคม ของอีกปี
- พิจารณาจากผลงานในการเล่นฟุตบอล และผลงานส่วนตัวของนักเตะ รวมถึงการมีน้ำใจนักกีฬา
- ผลคะแนนจะมาจากการโหวตของ นักข่าวจากท็อป 100 ชาติใน ฟีฟ่า เวิลด์ แรงกิ้ง ของฝั่งนักเตะชาย และจากนักข่าวท็อป 50 สำหรับฝั่งนักเตะหญิง ที่จะได้รับสิทธ์ในการโหวตหานักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำปี
การประกาศรางวัลบัลลงดอร์ (ฝ่ายชาย) เริ่มมาตั้งปี 2010 โดยเป็นการยุบรวมการประกาศรางวัลนักฟุตบอลยอดยี่ยมของโลกแห่งปี เข้ากับการประกาศรางวัลบัลลงดอร์ ส่วนรางวัลบัลลงดอร์ฝ่ายหญิง เริ่มต้นการมอบรางวัลมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา
รางวัลบัลลงดอร์ กับผู้ได้รับรางวัลที่ผ่านมา
ในปี 2010 ที่เริ่มมีการมอบรางวัลบัลลงดอร์ นักฟุตบอลฝ่ายชายที่ได้รับรางวัลนี้เป็นคนแรก ได้แก่ ลิโอเนล เมสซี่ ในสมัยที่ยังเป็นผู้เล่นสังกัดทีมบาร์เซโลน่าในสเปน ส่วนบัลลงดอร์นักเตะฝ่ายหญิง เริ่มต้นมอบรางวัลกันในปี 2018 โดยรางวัลตกเป็นของ อาดา เฮเกอร์เบิร์ก นักฟุตบอลหญิงชาวนอร์เวย์ และเป็นผู้เล่นจากสโมสรโอลิมปิก ลียง ในฝรั่งเศส
ทั้งนี้ นับจากปี 2010 เป็นต้นมา รางวัลบัลลงดอร์ฝ่ายชาย ตกเป็นของชายที่ชื่อ ลิโอเนล เมสซี่ ถึง 7 ครั้ง คือในปี 2010, 2011, 2012, 2015, 2019, 2021, 2023 ตามมาด้วยคู่แค้นแสนรักอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ได้รางวัลบัลลงดอร์ไป 4 ครั้ง คือในปี 2013, 2014, 2016, 2017
เป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่างปี 2010 – 2017 มีเพียงสองซูเปอร์สตาร์โลกลูกหนังในเวลานั้นอย่าง เมสซี่ และโรนัลโด้ ที่สลับกันคว้ารางวัลใหญ่นี้ไปครอง
รางวัลบัลลงดอร์กับสองมหาเทพ และการเปลี่ยนแปลง “ขาประจำ”
สาเหตุที่ต้องยกให้สองมหาเทพ ลิโอเนล เมสซี่ และคริสเตียโน โรนัลโด้ เป็นขาประจำบัลลงดอร์ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ช่วงเวลา 2010-2017 ทั้งสองซุป’ตาร์สร้างสรรค์ผลงานลูกหนัง ทั้งในระดับสโมสรและระดับชาติ ได้อย่างยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
ทว่า เมื่อเข้าสู่ปี 2018 เวทีประกาศรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกก็มีอันเปลี่ยนไป เมื่อมีชื่อของ ลูก้า โมดริช นักเตะสัญชาติโครเอเชีย ที่ก้าวขึ้นมารับรางวัลใหญ่นี้แทน ถือเป็นเรื่องน่าเซอร์ไพรส์จนบรรดาสื่อมากมายต่างแซวกันว่า “นี่เป็นมนุษย์คนแรกที่ได้รางวัลบัลลงดอร์” เนื่องจากตลอด 10 ปีที่ผ่านมา รางวัลตกเป็นของ “สองมหาเทพ” เมสซี่ & โรนัลโด้ นักเตะที่มาจากต่างดาวนั่นเอง
ทั้งนี้ สาเหตุที่ในปี 2018 ลูก้า โมดริช สามารถคว้ารางวัลบัลลงดอร์มาครอง เนื่องจากเจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยช่วยให้ต้นสังกัดเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนสลีกเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน แถมยังพาทีมชาติโครเอเชีย คว้ารองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ได้อีกด้วย จึงส่งผลให้นักเตะชาวโครแอตรายนี้ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกแห่งปี 2018 ไปครองอย่างเป็นเอกฉันท์
อย่างไรก็ตาม ในปี 2019, 2021 และ 2023 รางวัลบัลลงดอร์ก็กลับไปสู่มือของ “เทพเมสซี่” อีกครั้ง ทว่าในระหว่างนั้น ยังมีชื่อของ คาริม เบนเซมม่า นักเตะสโมสรเรอัล มาดริด ก้าวขึ้นมารับรางวัลบัลลงดอร์ในปี 2022 ซึ่งถือเป็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงของบัลลงดอร์ที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เข้าสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกลูกหนังและรางวัลบัลลงดอร์
หลังปี 2023 ที่ลิโอเนล เมสซี่ รับรางวัลบัลลงดอร์หนล่าสุด ปีนั้นเจ้าตัวอายุ 36 ปี และย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก ของสหรัฐอเมริกา กระทั่งต่อมาในปี 2024 รางวัลบัลลงดอร์ได้นักเตะยอดเยี่ยมคนใหม่ เขาคือ โรดรี มิดฟิลด์ชาวสปน ที่มีผลงานช่วยพาทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัยติด รวมทั้งยังพาทีมชาติสเปน คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2024 ได้สำเร็จ
โรดรี กลายเป็นนักเตะสเปนคนแรกในรอบ 64 ปีที่คว้ารางวัลนี้ เหนืออื่นใด คู่แข่งที่ได้คะแนนลดหลั่นกันมาอีก 2 คน นั่นคือ วินิซิอุส จูเนียร์ และ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ต่างถือได้ว่าเป็น “นักเตะเจเนอเรชันใหม่” ทั้งสิ้น โดยในเวลานั้น โรดรีอายุ 28 ปี วินิวิอุส จูเนียร์ อายุ 24 ปี และจู๊ด เบลลิ่งแฮม อายุ 21 ปี
จากผลการประกาศรางวัลบัลลงดอร์ ปี 2024 ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Messi & Ronaldo Era หรือยุคทองแห่งสองมหาเทพ เตรียมปิดฉากลงแล้ว ขณะเดียวกัน โลกลูกหนังก็เตรียมเข้าสู่การผลัดใบ เดินหน้าสู่ความยิ่งใหญ่ของนักเตะ Gen Z (13-28 ปี) แล้วเช่นกัน
บัลลงดอร์ 2025 กับโลกลูกหนัง Gen Z
ตามธรรมเนียมของงานประกาศผลรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า มักไดรับการจัดขึ้นช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี และในปี 2025 ก่อนที่งานประกาศผลบัลลงดอร์จะเริ่มขึ้น ได้มีการเผยรายชื่อ 30 นักฟุตบอลชาย ที่มีผลงานตลอดปีอันเป็นที่ประจักษ์ ได้แก่
- อุสมาน เดมเบเล่ (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 28 ปี
- จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง ก่อนย้ายไปแมนฯ ซิตี้) อายุ 26 ปี
- จู๊ด เบลลิ่งแฮม (ทีมเรอัล มาดริด) อายุ 22 ปี
- เดซิเร่ ดูเอ้ (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 20 ปี
- เดนเซล ดุมฟรีส (ทีมอินเตอร์ มิลาน) อายุ 29 ปี
- เซร์อู กีราสซี่ (ทีมดอร์ทมุนด์) อายุ 29 ปี
- เออร์ลิง ฮาลันด์ (ทีมแมนฯ ซิตี้) อายุ 25 ปี
- วิคตอร์ โยเคเรส (ทีมอาร์เซน่อล) อายุ 27 ปี
- อาชราฟ ฮาคิมี่ (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 26 ปี
- แฮร์รี่ เคน (ทีมบาเยิร์น มิวนิค) อายุ 32 ปี
- ควิช่า ควารัตสเคเลีย (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 24 ปี
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (ทีมบาร์เซโลน่า) อายุ 37 ปี
- อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ทีมลิเวอร์พูล) อายุ 26 ปี
- เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ (ทีมอินเตอร์ มิลาน) อายุ 28 ปี
- สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (ทีมนาโปลี) อายุ 28 ปี
- คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (ทีมเรอัล มาดริด) อายุ 26 ปี
- นูโน่ เมนเดส (ทีมปารีส แซงต์ แชรก์แมง) อายุ 23 ปี
- ชูเอา เนเวส (ทีมปารีส แซงต์ แชรก์แมง) อายุ 21 ปี
- เปดรี (ทีมบาร์เซโลน่า) อายุ 22 ปี
- โคล พาลเมอร์ (ทีมเชลซี) อายุ 23 ปี
- ไมเคิล โอลิเซ่ (ทีมบาเยิร์น มิวนิค) อายุ 23 ปี
- ราฟินญ่า (ทีมบาร์เซโลน่า) อายุ 28 ปี
- เดแคลน ไรซ์ (ทีมอาร์เซน่อล) อายุ 26 ปี
- ฟาเบียน รุยซ์ (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 29 ปี
- เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ทีมลิเวอร์พูล) อายุ 34 ปี
- วินิซิอุส จูเนียร์ (ทีมเรอัล มาดริด) อายุ 25 ปี
- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ทีมลิเวอร์พูล) อายุ 33 ปี
- ฟลอเรียน เวียตซ์ (ทีมลิเวอร์พูล) อายุ 22 ปี
- วิตินญ่า (ทีมปารีส แซงต์ แชร์กแมง) อายุ 25 ปี
- ลามีน ยามาล (ทีมบาร์เซโลน่า) อายุ 18 ปี
หากพิจารณาจากทั้ง 30 รายชื่อ บัลลงดอร์ 2025 มีนักเตะจากสโมสรปารีส แซงต์ แชรก์แมง เข้ารอบการโหวตนักเตะยอดเยี่ยมมากที่สุดถึง 8 คน (ไม่นับรวม จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่ย้ายไปสู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ส่วนนักเตะที่มีอายุมากที่สุดที่ติด 1 ใน 30 ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2025 คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อายุ 37 ปี ด้านผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ติดโผยอดเยี่ยมครั้งนี้ คือ ลามีน ยามาล อายุ 18 ปี โดยทั้งคู่มาจากทีมบาร์เซโลน่าเหมือนกัน
น่าสนใจที่ว่า บัลลงดอร์ 2025 มีนักเตะที่อายุเกิน 30 ปี เพียงแค่ 4 คนเท่านั้น คือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อายุ 33 ปี, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ อายุ 34 ปี, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อายุ 37 ปี และ แฮร์รี่ เคน อายุ 32 ปี ส่วนอายุเฉลี่ยของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมปี 2025 รวมกันอยู่ที่ 26 ปี
ในรายชื่อ 30 คนดังกล่าว มีจำนวนผู้เล่นที่อายุไม่เกิน 28 ปี หรือเรียกว่า เป็นผู้เล่น Gen Z อยู่ถึง 23 คน ซึ่งรวมไปถึง อุสมาน เดมเบเล่ เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุด ที่เจ้าตัวอายุ 28 ปีเช่นเดียวกัน
บัลลงดอร์ 2025 สะท้อนมิติอายุของนักฟุตบอลรุ่นใหม่ ๆ ที่เตรียมก้าวขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ ทว่าโลกลูกหนังวันนี้ ยังมีผู้เล่นอายุมากและน้อยคละเคล้ากันไป และรวมถึงสองซูเปอร์สตาร์ ลิโอเนล เมสซี่ และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพอยู่ต่อไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่าน จากบรรดาบิ๊กเนมที่แฟนฟุตบอลคุ้นเคยกันมาตลอด 20 ปี สู่การได้เห็นผลงานของนักเตะรุ่นใหม่ ที่ก้าวขึ้นมาเชิดฉายเป็นกำลังหลักทั้งกับสโมสรและทีมชาติ
ไม่ช้าก็เร็ว นักเตะเหล่านี้จะขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ ๆ ที่โรยราลงไป และน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่า ฟุตบอลโลก 2026 ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ จะเป็นเวทีสำคัญของบรรดานักฟุตบอลยุคใหม่ ที่เตรียมประกาศศักดา และตอกย้ำว่า โลกฟุตบอล…ได้เปลี่ยนยุคสมัยไปแล้วจริง ๆ
Did You Know ?: รางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์ เคยถูกประกาศยกเลิกการจัดงานในปี 2020 จากสาเหตุของโรคระบาดโควิด -19 ซึ่งปีนั้นมีการพักการแข่งขันฟุตบอลลีกยาวนาน ทำให้เงื่อนไขของการโหวตเพื่อรับรางวัลไม่ยุติธรรมและชัดเจนมากพอ จึงเป็นเหตุให้มีการยกเลิกการจัดงานในปีนั้นไป