รวมทุกเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพื่อความปลอดภัย “คนละครึ่งพลัส”

29 ตุลาคม 2568 ดีเดย์เริ่มต้นการใช้สิทธิโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เรื่องความปลอดภัย ตลอดจนการรู้เท่าทัน ถือเป็นสิ่งสำคัญ มีเรื่องใดที่ประชาชนควรรู้เพื่อเตรียมตัวไว้บ้าง Thai PBS รวบรวมมาบอกกัน

1.ห้วงเวลาโครงการที่ควรรู้ “คนละครึ่งพลัส” เริ่มเมื่อไร สิ้นสุดมื่อไร ?

ท่องจำให้แม่น ระยะเวลาของการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัส มีรายละเอียดดังนี้

• 29 ต.ค. 68 เริ่มใช้สิทธิวันแรก เวลา 06:00 - 23:00 น.
• 7 พ.ย. 68 ประชาชนเริ่มใช้สิทธิ โครงการคนละครึ่งพลัส ในรูปแบบของฟู้ดเดลิเวอรี วันแรก เวลา 06:00 - 21:00 น. ของทุกวัน
• 11 พ.ย. 68 กรุณาใช้สิทธิครั้งแรก ภายในเวลา 23:00 น. เพื่อไม่ให้โดนตัดสิทธิตามเงื่อนไขโครงการ
• 31 ธ.ค. 68 สิ้นสุดโครงการ เวลา 23:00 น.

2.อุปกรณ์ที่จำเป็น “มือถือ” ลักษณะแบบไหนที่รองรับการใช้งานโครงการคนละครึ่งพลัส 

โครงการคนละครึ่งพลัส ใช้วิธีการสแกนจ่ายเงินผ่านแอปพลิคชันเป๋าตัง ซึ่งต้องใช้มือถือที่มีเวอร์ชันที่รองรับ มีรายละเอียดดังนี้

1.หากใช้มือถือ iPhone ระบบปฏิบัติการ iOS ต้องมีเวอร์ชัน 15.0 ขึ้นไป
วิธีเช็กเวอร์ชัน iOS คือ

• ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
• เลือก ทั่วไป (General)
• เลือก เกี่ยวกับ (About)
• ดูที่ เวอร์ชั่นซอฟต์แวร์ (Software Version)

2.หากใช้มือถือ Android ระบบปฏิบัติการต้องเป็น Android 9.0 ขึ้นไป
วิธีเช็กเวอร์ชัน Android คือ

• ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
• เลือก เกี่ยวกับโทรศัพท์ (About Phone) (มือถือบางรุ่นอาจใช้ชื่อว่า "เกี่ยวกับอุปกรณ์")
• เลือก ข้อมูลซอฟต์แวร์ (Software Information)
• ดูที่ เวอร์ชัน Android (Android Version)

3.โครงการคนละครึ่งพลัส เติมเงินอย่างไรให้ปลอดภัย

การใช้จ่าย ตลอดจนการเติมเงินในโครงการคนละครึ่งพลัส ดำเนินการผ่าน  G-Wallet หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยหน้าที่หลักของ G-Wallet เปรียบเสมือนกระเป๋าเงินออนไลน์ที่ใช้จ่ายแทนเงินสดได้ในชีวิตประจำวัน 

สำหรับการเติมเงินเข้าสู่ระบบ G-Wallet ที่ปลอดภัย มีช่องทางให้เลือกได้หลายแบบ เช่น

ช่องทางที่ 1 เติมผ่าน Mobile Banking (แอปฯ ธนาคาร) โดยใช้ G-Wallet ID วิธีการคือ
1. คัดลอกรหัส G-Wallet ID (เลข 15 หลัก) จากแอปเป๋าตัง
2. ไปที่แอปฯ ธนาคาร เลือกเมนู "เติมเงิน" (Top-up) หรือ "เติมเงิน e-Wallet/พร้อมเพย์"
3. วางเลข G-Wallet ID 15 หลัก และใส่จำนวนเงินที่ต้องการเติมแล้วยืนยัน

ช่องทางที่ 2 เติมผ่าน QR Code มีวิธีการคือ
1. เข้าไปที่แอปเป๋าตัง สร้าง QR Code สำหรับรับเงิน
2. บันทึก QR Code 
3. เปิด Mobile Banking ของธนาคารใดก็ได้ แล้วเลือกเมนู "สแกน"
4. สแกน QR Code ที่บันทึกไว้ หรือเลือกจากอัลบั้มรูป
5. ใส่จำนวนเงินและกดยืนยัน

ช่องทางที่ 3 เติมผ่านตู้ ATM วิธีการคือ
1. ไปที่ตู้ ATM ของธนาคาร
2. เลือกเมนู "เติมเงิน" หรือ "โอนเงิน"
3. เลือก "เติมเงิน G-Wallet" หรือ "เติมเงิน e-Wallet"
4. กรอก G-Wallet ID 15 หลัก และจำนวนเงิน

ช่องทางที่ 4 เติมผ่านแอปฯ Krungthai NEXT (สำหรับผู้มีบัญชีกรุงไทย)
กรณีใช้แอปเป๋าตัง เมื่อกด "เติมเงิน" และเลือก "ธนาคารกรุงไทย" ระบบจะเชื่อมไปที่แอป Krungthai NEXT ให้ใส่จำนวนเงินและยืนยันได้ทันที

4.โครงการคนละครึ่งพลัส วงเงินเท่าไรที่ใช้ได้

วงเงินที่ประชาชนจะได้รับจากโครงการคนละครึ่งพลัส แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ

1.ประชาชน ผู้ที่อยู่นอกระบบภาษี

• ได้รับสิทธิเป็นวงเงิน 2,000 บาท (รัฐออกให้) ประชาชนจ่ายเองจำนวน 2,000 บาท (รวมเป็น 4,000 บาท)
• วิธีการใช้จ่าย ใช้ได้วันละไม่เกิน 200 บาทต่อวัน (รัฐบาลออกให้) และประชาชนจ่ายเอง จำนวน 200 บาท รวมเป็น 400 บาทต่อวัน

2.ประชาชน กลุ่มผู้เสียภาษี

• ได้รับสิทธิเป็นวงเงิน 2,400 บาท (รัฐออกให้) ประชาชนจ่ายเองจำนวน 2,400 บาท (รวมเป็น 4,800 บาท)
• วิธีการใช้จ่าย ใช้ได้วันละไม่เกิน 200 บาทต่อวัน (รัฐออกให้) และประชาชนจ่ายเอง จำนวน 200 บาท รวมเป็น 400 บาทต่อวัน

สำหรับกรณีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะไดรับสิทธิในโครงการ “เพิ่มวงเงินสวัสดิการให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68” โดยจะได้รับวงเงินเพิ่ม 850 บาทต่อคนต่อเดือน จากวงเงินเดิม 300 บาท รวมเป็น 1,700 บาทต่อคนตลอดระยะเวลา 2 เดือน หรือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2568 

5. โครงการคนละครึ่งพลัส ร้านค้าแบบไหนที่ใช้สิทธิได้

วิธีสังเกตร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส ส่วนใหญ่จะมีการติดป้ายและสติกเกอร์สัญลักษณ์โครงการคนละครึ่งพลัสอยู่บริเวณหน้าร้าน นอกจากนั้นประชาชนยังสามารถพิจารณาได้จากรายละเอียดดังต่อไปนี้

• เป็นร้านอาหาร, ร้านเครื่องดื่ม, ร้านขายสินค้าทั่วไป กรณีร้านค้า ต้องไม่เป็นร้านลักษณะแฟรนไชส์
• เป็นบริการร้านนวด, ร้านสปา, ร้านทำเล็บ ทำผม
• เป็นบริการรถยนต์รับจ้าง ที่บรรทุกผู้โดยสารไม่เกิน 7 คน (รถแท็กซี่มิเตอร์)
• เป็นบริการรถตู้โดยสารประจำทาง, รถยนต์สามล้อสาธารณะ, รถสองแถวรับจ้าง, รถจักรยานยนต์สาธารณะ, รถสามล้อถีบ
• เป็นบริการขนส่งสาธารณะรถไฟฟ้าในเขตเมือง, รถไฟ, รถโดยสารประจำทางสาธารณะ, เรือโดยสารสาธารณะ
• เป็นธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี อาทิ Grab Food, LINE MAN, ShopeeFood, Robinhood

6.โปรดระวัง “การส่งลิงก์ปลอม” ที่ปลอมแปลงจากโครงการคนละครึ่งพลัส

สิ่งที่ประชาชนพึงระวังในช่วงเวลาการใช้สิทธิคนละครึ่งพลัส คือการถูกหลอกจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือผู้ไม่ประสงค์ดี ทั้งนี้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีข้อแนะนำ โดยขอให้ประชาชนลงทะเบียนผ่าน แอปฯ เป๋าตัง ที่สามารถดาวน์โหลดจาก App Store หรือ Google Play ซึ่งถือเป็นช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น 

นอกจากนี้ยังไม่ควรกดลิงก์ หรือสแกน QR Code ที่ปรากฏข้อความชักชวนให้ลงทะเบียน หรือร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่มาจากแหล่งที่มาไม่แน่ชัด โดยอาจมีความเสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูล หรือเงินในบัญชีธนาคารได้

7.ขายสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” มีความผิดทางอาญา

กรณีมีข่าวรื่อง “การขายสิทธิ” คนละครึ่งพลัสให้กับผู้อื่น รวมทั้งกรณีที่ร้านค้าร่วมมือกับผู้ได้รับสิทธิ ไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าจริง ทั้งหมดถือเป็นการกระทำที่มีความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341/342 มีโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่กิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการอื่นของรัฐบาล รวมถึงต้องคืนเงินให้รัฐบาลด้วยเช่นกัน

8.พบปัญหา โครงการคนละครึ่งพลัส แจ้งได้ที่ไหน ?

ผู้ประกอบการร้านค้าและประชาชนสามารถตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ ของโครงการคนละครึ่งพลัส ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

1.ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารโครงการคนละครึ่งพลัส ได้ทาง www.คนละครึ่งพลัส.com

2.ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน

• ติดต่อสอบถาม โทร. 0 2111 1122 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
• ตรวจสอบผลการลงทะเบียนหรือวงเงินคงเหลือ โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

3.ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับร้านค้า

• ติดต่อเกี่ยวกับรายการรับเงินภาครัฐ และการใช้งานแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง
• ตรวจสอบสถานะลงทะเบียนร้านค้า โทร. 0 2111 1122 กด 3 ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์ 24 ชั่วโมง

4.สอบถามข้อมูลโครงการคนละครึ่งพลัส สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 08-5842-7102, 08-5842-7103, 08-5842-7104, 08-5842-7105 08-5842-7106, 08-5842-7107, 08-5842-7108, 08-5842-7109 ตั้งแต่วันจันทร์ - ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 - 16.30 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

นอกจากการใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งพลัสให้มีความถูกต้องตามหลักปฏิบัติแล้ว การใช้สิทธิด้วยความรอบคอบ ปลอดภัย ก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจเช่นเดียวกัน