ชวนติดตามแนวคิดในการสร้างงานเพลงของนักแต่งเพลงฝีมือระดับอาจารย์อย่าง “กบ Big Ass” ผู้อยู่เบื้องหลังเพลงดังของศิลปินชั้นนำของเมืองไทย อาทิ Big Ass, Bodyslam, Palmy, Labanoon, Ebola, Billkin และอื่น ๆ อีกมากมาย
จุดเริ่มต้นการเข้ามาสู่บทบาทการเป็นนักแต่งเพลงฝีมือคุณภาพคนนี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงเบื้องหลังเพลงดังที่เชื่อว่าคนทั้งประเทศจะต้องรู้จัก แต่ละเพลงนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง ติดตามพร้อมกันได้ในบทความตอนนี้

ทำความรู้จัก “กบ Big Ass”
“กบ - ขจรเดช พรมรักษา” หรือชื่อที่คนรู้จักอย่าง “กบ Big Ass” คือผู้ที่คนในแวดวงดนตรีไทยต่างให้การยอมรับในเรื่องของฝีมือ ทักษะและความสามารถรอบด้าน กบ Big Ass นั้นมีบทบาทในเบื้องหน้าอย่างการเป็นมือกลองของวงร็อกชื่อดัง “Big Ass” ซึ่งไม่เพียงแค่บทบาทการเป็นนักดนตรีเท่านั้น กบ Big Ass ยังเป็นทั้งนักแต่งเพลง Producer และผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินมากมายในเมืองไทย
กบ Big Ass ได้เล่าเรื่องราวการเป็นนักแต่งเพลงเอาไว้ว่า เขานั้นเริ่มต้นมาจากการที่ในช่วงแรก Big Ass ยังเป็นเพียงวงดนตรีสมัครเล่น แล้วต้องไปเล่นที่งาน ๆ หนึ่ง ซึ่งมีโจทย์ว่า วงดนตรีที่เข้าร่วมงานจะต้องเป็นผู้แต่งเพลงเอง ด้วยสถานการณ์จำเป็นนี้ ทำให้สมาชิกในวงมองว่า ตัวของกบที่เดิมทีเป็นคนชอบเขียนกลอนอยู่แล้ว เหมาะกับการเป็นผู้ที่จะมาแต่งเพลงให้กับวงมากที่สุด นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นครั้งแรกในการเริ่มจับปากกาเขียนเพลงของ กบ Big Ass นั่นเอง

บทเพลงของ “กบ Big Ass” ที่สร้างชื่อ
ในรายการนักผจญเพลง Replay ได้หยิบเพลงที่มาจากปลายปากกาของเขาถึง 6 เพลงมาพูดคุยถึงเบื้องหลัง ที่มาที่ไปของแต่ละเพลงให้ทุกคนได้รับรู้ ยกตัวอย่างเพลงแรก “เกิดมาแค่รักกัน” ซึ่งเป็นเพลงของวงดนตรีของเขา “Big Ass” ซึ่งกบได้เล่าเรื่องราวที่มาของเพลงนี้เอาไว้ว่า ตนนั้นได้จดเอาไว้ถึงข้อความที่ว่า ‘ชีวิตของคนเรามันคงบอบช้ำเกินกว่าจะให้ใครมาแขวนชีวิตไว้ร่วมกัน’
ซึ่งจากประโยคนี้เองที่เป็นสารตั้งต้น และเป็นแนวทางให้เขาสร้างเพลงนี้ขึ้นมา รวมทั้งยังนำไปบวกกับคำพูดที่เขาเคยคุยกับเพื่อนของตัวเองว่า ‘คนเราเกิดมาแค่รักกัน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ได้’ จากนั้นจึงเขียนเป็นเพลงนี้ขึ้นมา
สุดท้ายพอเพลงนี้ได้เริ่มทำงาน และเดินทางไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าคู่รักคู่ไหนที่ต้องเลิกรากันไป เมื่อฟังเพลงนี้ก็จะเข้าใจได้เองว่า บางทีคนเราก็อาจเกิดมาแค่รักกัน แต่ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ เหมือนที่เพลงนี้ได้บอกเอาไว้นั่นเอง

ต่อกันที่เพลงดังอย่าง “นาฬิกาตาย – Bodyslam” ซึ่งที่มาของเพลงนี้ กบ Big Ass ได้แชร์เอาไว้ว่า เคยจดคำนี้ไว้ตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก แล้วไปเจอปกเทปของศิลปินอย่าง “ปฐมพร ปฐมพร” ซึ่งได้เขียนข้อความเอาไว้ในปกนั้นว่า “นาฬิกาตายยังบอกเวลาตรงตั้งสองครั้ง” ซึ่งในช่วงเวลานั้น กบเผยว่าตัวเองยังไม่เข้าใจความหมายของประโยคนี้เลยด้วยซ้ำ แต่สิ่งที่เขารู้สึกกับประโยคนี้ คือ รู้สึกว่ามันเท่ เขาจึงจดคำว่า “นาฬิกาตาย” เอาไว้
และเมื่อเวลาผ่านไปในเวลาที่เขาเติบโตขึ้นมาในฐานะนักดนตรีและคนแต่งเพลง วันหนึ่ง กบ Big Ass ต้องเขียนเพลงให้กับวงร็อกชั้นนำของเมืองไทยอย่าง Bodyslam เมื่อเขาได้ยินทำนองที่ถูกแต่งไว้ในตอนนั้น เขาก็มีคำที่ลอยขึ้นมาในหัวอย่าง “เข็มของนาฬิกา ไม่เคยบอกเวลา” เมื่อประโยคนี้ลอยขึ้นมาในเมโลดีนี้ ทำให้เขารู้ทันทีว่า “นาฬิกาตาย” คืออะไร
ซึ่งสิ่งที่ได้จากเพลงนี้ นั่นคือประโยคที่ว่า ถึงแม้อะไรจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่จะไม่ยอมเดินเลยนั่นคือ “นาฬิกาตาย” ทำให้เกิดเป็นเนื้อเพลงสุดเศร้าที่มีความหมายสวยงาม และลึกซึ้งอย่างในเพลง “นาฬิกาตาย” ที่ทุกคนได้ฟังกันนั่นเอง
เนื้อหาในเพลง รวมไปถึงวิธีคิดในการแต่งแต่ละเพลงนั้น กบ Big Ass ได้บอกเอาไว้ว่า มาจากการที่ตัวของเขานั้นเป็นคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของชีวิต ซึ่งวิธีการเขียนเพลงของเขา จะมีเอกลักษณ์ในเรื่องของการเลือกใช้คำ และภาษาในเพลงที่ลึกซึ้ง มีการใช้คำสัมผัสที่สวยงาม มีการพรรณนาเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้เพลงที่มาจากปลายปากกาของ กบ Big Ass กินใจคนฟัง จนหลาย ๆ เพลงนั้น กลายเป็นเพลงอมตะ ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแค่ไหน ก็ไม่เคยหายไปจากวงการเพลงในเมืองไทย
สามารถเข้าไปชมรายการนักผจญเพลง Replay กับตอนที่มีชื่อว่า “การเดินทางของปากกา กบ Big Ass” บทเพลงของชายคนนี้ จะถูกถ่ายทอดในเวอร์ชันใหม่ ซึ่งได้ศิลปินรับเชิญอย่าง “มะเหมี่ยว Mamio” และ “แพร ชนา” ที่มาร่วมถ่ายทอดแต่ละเพลงได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ และที่สำคัญ ศิลปินรับเชิญทั้ง 2 ท่านนี้ กบ Big Ass ยังเป็นผู้เลือกมาด้วยตัวเองอีกด้วย แต่ละบทเพลงที่ได้น้ำเสียงของศิลปินทั้งสอง จะออกมาในรูปแบบไหน มาร่วมผจญเพลงด้วยกันได้เลย


ติดตามชมรายการ "นักผจญเพลง Replay" ได้ทุกวันเสาร์ 21.30 น. ทาง #ThaiPBS #ช่องหมายเลข3 หรือชมสดทาง https://www.thaipbs.or.th/live ชมทุกตอนได้ทาง www.thaipbs.or.th/SongHunterTV




















