ณ ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาแห่งหนึ่งในเวียนนา ประเทศออสเตรีย นักเรียนเกือบทั้งหมดมีพื้นเพมาจากครอบครัวผู้อพยพ พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กเหล่านั้นไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาเยอรมันได้คล่องแคล่ว ที่นี่ไม่มีผู้ช่วยครู ไม่มีนักจิตวิทยา และไม่มีโปรแกรมสนับสนุนการเรียนภาษาใด ๆ
แล้วอะไรทำให้ห้องเรียนนี้กลายมาเป็น “ตัวอย่าง” ที่ผู้กำกับสารคดีมือเก๋าอย่าง รูธ เบ็คเคอร์มันน์ เลือกเข้าไปใช้เวลาถึง 3 ปีเต็มในการเฝ้าสังเกต ถ่ายทำสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วบอกเล่ามาเป็นสารคดีอบอุ่นหัวใจเรื่องนี้?
คำตอบก็คือ เพราะห้องเรียนนี้มีคุณครูผู้น่ารักที่ชื่อ อิลคาย อิดิสกุท เป็นศูนย์กลางนั่นเอง
ตลอดทั้งเรื่อง เราจะเห็นอิลคายในฐานะครูผู้เปี่ยมความมุ่งมั่น ความพิเศษของเธอคือการที่เธอเกิดในเวียนนาจากครอบครัวชาวตุรกีซึ่งทำให้เธอเข้าอกเข้าใจพื้นเพของเด็ก ๆ เป็นอย่างดีและยังสามารถพูดภาษาตุรกีกับผู้ปกครองจำนวนหนึ่งได้ แถมเธอยังใช้แอปฯ WhatsApp ติดต่อสื่อสารกับผู้ปกครองตลอดเวลา พร้อม ๆ ไปกับการพยายามช่วยแก้ปัญหาสารพัดให้แก่นักเรียนตัวน้อยอย่างไม่ยอมเหน็ดเหนื่อย หรือกล่าวง่าย ๆ ว่า สิ่งที่ครูอิลคายทำนั้นไม่ใช่แค่การ “สอนหนังสือ” แต่คือการสร้างชุมชนเล็ก ๆ ในห้องเรียน เธอเป็นตัวแทนของครูรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง และห้องเรียนของเธอก็เป็นเหมือนห้องเรียนอีกหลายแห่งในเมืองใหญ่ทั่วยุโรปทุกวันนี้


ลำพังแค่ตามถ่ายการทำงานของอิลคายและความสัมพันธ์ของเธอกับเด็ก ๆ ก็สามารถกลายเป็นสารคดีดี ๆ ได้แล้ว แต่เบ็คเคอร์มันน์แหลมคมกว่านั้นอีก เธอไม่ได้ทำ Favoriten เพื่อจะเชิดชูครูผู้เก่งกาจ แต่ความตั้งใจแท้จริงของเธอคือ การเผยให้โลกได้เห็นว่าในห้องเรียนนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และมันสะท้อนภาพสังคมภายนอกอย่างไร
เบ็คเคอร์มันน์เชื่อว่าโรงเรียนประถมศึกษาคือรากฐานที่สำคัญของชีวิตเด็ก แต่ก็น่าเศร้าที่ในประเทศออสเตรียนั้น โรงเรียนประถมกลับถูกละเลยอย่างน่าใจหาย ด้านหนึ่งเราอาจเห็นว่าอิลคายเป็นครูที่ทุ่มเทแก่เด็ก ๆ อย่างสุดจิตสุดใจ แต่อีกด้าน มันก็ตีแผ่ความจริงที่ว่าครูคนนี้ถูกทอดทิ้งให้ต้องรับมือกับทุกสิ่งเพียงลำพัง ไม่มีผู้ช่วยแม้แต่คนเดียว ซ้ำร้าย โรงเรียนประถมที่ใหญ่ที่สุดในเวียนนาแห่งนี้ก็ไม่มีนักสังคมสงเคราะห์หรือนักจิตวิทยาประจำเลย ซึ่งทั้งหมดนี้คือ "รอยรั่ว" ของระบบการศึกษาที่ส่งผลให้ครูคนหนึ่งต้องทำหน้าที่ปะผุมันด้วยตัวเองตามลำพัง
นอกจากเรื่องของครูแล้ว Favoriten ยังให้ความสำคัญกับการฉายตัวตนของเด็กแต่ละคนอย่างเต็มที่ ทั้งด้วยการพยายามตั้งกล้องให้ใกล้ชิดกับเด็ก ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเบ็คเคอร์มันน์ยังให้พวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายวิดีโอสัมภาษณ์กันเองแล้วนำมาเป็นส่วนหนึ่งในหนังด้วย ฉากเล็ก ๆ เหล่านี้ทำให้เราได้ยินบทสนทนาหลากหลายของเด็ก ๆ ซึ่งครอบคลุมคำถามที่สะท้อนประเด็นทางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างน่าสนใจ เช่น "เด็กผู้หญิงว่ายน้ำได้ไหม" "ผู้หญิงใส่บิกินี่ได้หรือเปล่า" ไปจนถึงเรื่องราวของผู้ลี้ภัยและสงครามในยูเครน (ซึ่งหลายครั้งครูอิลคายก็เข้าไปมีส่วนร่วมในการสนทนาเหล่านั้น โดยเธอไม่เคยปฏิเสธที่จะตอบคำถามหรือให้ความเห็น แต่เน้นการเปิดบทสนทนาและกระตุ้นให้เด็ก ๆ ได้คิดอย่างอิสระ)


ในบรรดาปัญหามากมายที่เด็กจากครอบครัวผู้อพยพต้องเชิญหน้า เบ็คเคอร์มันน์บอกว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ "ภาษา" เธอเชื่อว่าเหตุผลที่เด็กเหล่านี้ยังใช้ภาษาเยอรมันได้ไม่ดีนั้นไม่ใช่เพราะผู้ปกครองไม่ต้องการให้ลูกได้รับการศึกษา แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ใช้ภาษาเยอรมันที่บ้าน เด็กจึงมีโอกาสได้ฝึกฝนแค่ตอนมาโรงเรียนเท่านั้น และปัญหาที่น่ากังวลมากขึ้นไปอีกก็คือ ช่องว่างทางการศึกษากำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ คนที่มีฐานะดีจะส่งลูกไปเรียนโรงเรียนเอกชนราคาแพง ขณะที่โรงเรียนของรัฐกลับมีปัญหาความแออัดและขาดแคลนบุคลากร ซึ่งยิ่งทำให้เกิดการแบ่งแยกทางสังคมรุนแรงขึ้น
ท้ายที่สุด เบ็คเคอร์มันน์หวังว่าสารคดีเรื่องนี้จะจุดประกายให้เกิดการถกเถียงเรื่องระบบการศึกษาในออสเตรีย เธอฝากคำท้าไปยังผู้กำหนดนโยบายทางการศึกษาว่า "พวกเขาควรลองไปนั่งในห้องเรียนสักหนึ่งสัปดาห์ ไม่ใช่แค่โผล่หน้าไปเยี่ยมตอนที่ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย" เพื่อที่จะได้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นด้วยตาตัวเอง เพราะหากสังคมไม่ลงทุนกับการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ดีพอล่ะก็ มันจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของสังคมอย่างแน่นอน


▶ ติดตามสารคดี Favoriten - “Favorite” เป็นชื่อย่านที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่สุดแห่งหนึ่ง ในกรุงเวียนนา และเป็นจุดเริ่มต้นของสารคดีเรื่องนี้ ซึ่ง "รูธ เบ็คเคอร์มันน์" ผู้กำกับมือทองชาวออสเตรีย ติดตามกลุ่มนักเรียนตั้งแต่อายุ 7 ถึง 10 ปี กับคุณครูผู้ทุ่มเทอย่าง "อิลเคย์" ที่ตั้งใจสร้างสภาพแวดล้อมให้โอบรับความหลากหลาย สนับสนุนและให้ความปลอดภัยสำหรับเด็ก เด็กส่วนใหญ่ที่นี่ไม่ได้มีภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ บางครอบครัวมีบาดแผลจากสงคราม และหลายคนต้อง เผชิญกับการเลือกปฏิบัติ แม้จะมีทรัพยากรจากระบบการศึกษาเพียงเล็กน้อย แต่อิลเคย์ก็พาเด็ก ๆ ผ่านการ ผจญภัย ความพ่ายแพ้ และชัยชนะในชีวิตประจำวันด้วยความอ่อนโยน ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพชุมชนเล็ก ๆ ที่แสนเบิกบาน สะท้อนถึงความซับซ้อนของสังคมยุโรปยุคปัจจุบัน
รับชมได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application




















