ท่ามกลางฉากหลังของสงครามเต็มรูปแบบในยูเครน ที่เต็มไปด้วยความสูญเสีย ความหวาดกลัว และความเศร้าโศก มีเรื่องราวเล็ก ๆ ที่แสนกินใจอีกด้านหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะไม่เคยได้รับความสนใจเลยจากสื่อทั้งหลายในโลก นั่นคือ เรื่องราวของความสัมพันธ์ระหว่างชาวยูเครนและบรรดาสัตว์เลี้ยงตัวจ้อยของพวกเขา
อันตัน ปตุชกิน บล็อกเกอร์ชื่อดังชาวยูเครนตัดสินใจก้าวมาสู่สถานะผู้กำกับหนังเป็นครั้งแรกกับสารคดีเรื่องนี้ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากเขาสังเกตเห็นจากภาพข่าวผู้คนอพยพหนีสงครามว่า นอกจากกระเป๋าเสื้อผ้าและข้าวของสำคัญแล้ว อีกสิ่งที่หลายต่อหลายบ้านพากันหอบหิ้วหนีภัยไปด้วยไม่ว่าจะทุลักทุเลแค่ไหนก็คือหมาแมว (และอันที่จริงรวมไปถึงเต่า กระต่าย ฯลฯ) บ้างอยู่ในกระเป๋าสัตว์ บ้างอยู่ในอ้อมแขนเจ้าของ บ้างมีสายหิ้วจูงคอ บางตัวใหญ่ บางตัวเล็กจิ๋ว แต่ไม่ว่าจะในรูปลักษณ์ไหนสภาพใด พวกมันเหล่านี้ก็ไม่เคยถูกทอดทิ้ง ต่อให้ต้องเสี่ยงอันตราย ต่อให้มีสงครามอยู่รอบตัว เจ้าของของมันก็ล้วนเต็มใจพามันระหกระเหินไปด้วยกันอย่างใกล้ชิด



ภาพเหล่านี้สร้างความประทับใจแก่ปตุชกินมากและทำให้เขาเกิดคำถามว่า ในภาวะเช่นนี้ อะไรคือสิ่งสำคัญที่เพื่อนร่วมชาติเชื่อมั่นว่าต้องปกป้อง? และคำตอบที่เขาได้พบหลังจากลงมือทำสารคดีก็คือ การที่คนยูเครนเลือกจะกางแขนออกคุ้มกันชีวิตของสัตว์ตัวเล็ก ๆ นั้นสะท้อนว่า พวกเขายังคงสามารถรักษาไว้ซึ่งจิตใจอันดีงาม แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้นที่สุดก็ตาม
ปตุชกินกับทีมงานใช้เวลาถ่ายทำ Us, Our Pets and the War กว่าหนึ่งปีครึ่งในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นใจเอาเสียเลย เขาให้สัมภาษณ์ว่า อุปสรรคสำคัญไม่ใช่แค่ความอันตรายจากเขตสงคราม แต่คือปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าอย่างหนักในช่วงฤดูหนาวปี ค.ศ. 2022-2023 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนเขาถึงกับต้องเปิดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อตัดต่อฟุตเตจ (ที่ถ่ายมายาวกว่า 85 ชั่วโมง) กว่าจะสำเร็จออกมาได้



เอลเลียต ฮัลเพิร์น ผู้อำนวยการสร้างร่วมชาวแคนาดาบอกว่า สิ่งที่เราจะได้เห็นในหนังเรื่องนี้ไม่ได้มีแค่การช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ยังมีพันธกิจหลากหลายมิติกว่านั้น ทั้งการอพยพสัตว์ในสวนสัตว์, ความผูกพันของตำรวจหนุ่มกับหมาน้อยที่กลายมาเป็นฮีโร่นักเก็บกู้ระเบิด ไปจนถึงเรื่องของเจ้าแมวหน้าย่นขนฟูที่รอดตายจากตึกซึ่งแทบจะพังทลายเพราะระเบิด และการพยายามอันน่าซาบซึ้งของกลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ยอมทุ่มเทช่วยเหลือมันออกมา เหตุการณ์เหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นน้ำใจและความเมตตาอันน่าตื้นตัน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งน่าอัศจรรย์ขึ้นอีกเมื่อมันเกิดขึ้นในภาวะสงครามอันโหดร้าย
Us, Our Pets and the War เข้าฉายในยูเครนและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก ๆ ก่อนจะได้โอกาสเผยแพร่สู่สายตาผู้ชมทั่วโลกเมื่อช่อง PBS ในสหรัฐอเมริกา (ซึ่งเคยฉายสารคดีรางวัลออสการ์เรื่อง 20 Days in Mariupol ที่บันทึกความรุนแรงในเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครนช่วงแรก) ตัดสินใจซื้อไปฉายในรายการ Nature โดย เฟร็ด คอฟแมน หัวหน้าทีมรายการกล่าวว่า แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ใช่สารคดีธรรมชาติหรือสารคดีสัตว์โลกแบบที่ช่องของเขาคุ้นเคย แต่สำหรับเขาแล้ว มันสมควรถูกฉายให้ชาวอเมริกันรวมถึงคนพื้นที่อื่น ๆ ในโลกได้ดูอย่างยิ่ง เพราะหัวใจสำคัญที่สุดของมันก็คือ "ความเป็นมนุษย์" ซึ่งตรงกับถ้อยคำน่าประทับใจจาก อาเซีย เซอร์พินสกา ผู้ก่อตั้งสถานพักพิงสัตว์ในโฮสโตเมลที่ว่า “Save animals to stay human” นั่นเอง

▶ ติดตามสารคดี US, Our Pets and The War ท่ามกลางความรุนแรงและสงคราม ชาวยูเครนรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้จากการอพยพหนีของผู้คน ตั้งแต่แมวและหมาในอาคารร้าง ไปจนถึงสิงโตและเสือในสวนสัตว์ทั่วประเทศ พวกเขาทุ่มเทความพยายามอย่างไม่ธรรมดา เพื่อนำสัตว์เหล่านี้ไปสู่ที่ปลอดภัย สารคดีเรื่องนี้กำกับโดย "แอนตัน ปทุชกิน" ยูทูบเบอร์ชาวยูเครน ถ่ายทอดด้านที่งดงามที่สุดของมนุษย์ แม้จะอยู่ท่ามกลางความโหดร้ายของสงคราม
รับชมได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application




















