ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

Secret Story | The Here Now Project เมื่อโลกกู่ร้องผ่านกล้องโทรศัพท์


Lifestyle

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

แชร์

Secret Story | The Here Now Project เมื่อโลกกู่ร้องผ่านกล้องโทรศัพท์

https://www.thaipbs.or.th/now/content/3440

Secret Story | The Here Now Project เมื่อโลกกู่ร้องผ่านกล้องโทรศัพท์

...ความหนาวเย็นที่แผ่คลุมรัฐเท็กซัสในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2021 ซึ่งกลายเป็นภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา, น้ำท่วมใหญ่ระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเยอรมนีและจีน, พายุที่รุนแรงจนบ้านเรือนในอินโดนีเซียและบราซิลพังยับเยิน, ไฟป่าที่ลุกลามกวาดล้างพื้นที่ขนาดมหึมาในไซบีเรียและบริติชโคลัมเบีย ไปจนถึงปรากฏการณ์น้ำทะเลขุ่นในตุรกี และฝูงตั๊กแตนมหาศาลน่าขนลุกที่บุกเข้าทำลายพืชผลในเคนยาจนพินาศ

นี่ไม่ใช่ฉากโชว์เทคนิคพิเศษทางภาพของหนังหายนภัยเรื่องใด แต่ทั้งหมดคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในปี 2021 และมันมาปรากฏอยู่ในสารคดีเรื่องนี้...ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนไปยืนอยู่ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงสุดขั้วด้วยตัวเราเอง

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะทุกสิ่งในหนังล้วนเป็นคลิปที่เกิดจากการบันทึกด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพาส่วนตัวของคนทั่วโลกกว่า 200 แหล่ง โดยทีมงานสารคดีลงมือรวบรวมมาจากโซเชียลมีเดียตลอดระยะเวลา 20 เดือน ภาพที่เราได้เห็นจึงไม่ได้เกิดจากการจัดฉาก แต่เป็นของจริงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกจริงในวินาทีนั้น ทั้งความตื่นตระหนก ความกลัว ความสิ้นหวัง อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project

เกร็ก เจคอบส์ กับ จอน ซิสเกล สองคนทำสารคดีมือเก๋าเคยใช้วิธีเดียวกันนี้ได้อย่างน่าสนใจมาแล้วในผลงานเรื่อง 102 Minutes That Changed America ที่เล่าเหตุการณ์ 9/11 ผ่านการร้อยเรียงคลิปจำนวนมากของผู้คน ทำให้หนังของพวกเขาแตกต่างจากแนวทางของสารคดีแบบดั้งเดิม (ที่มักจะใช้บทสัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ หรือนักการเมืองมาช่วยสรุปเหตุการณ์) เพราะพวกเขาต้องการให้หนังทำหน้าที่เก็บบันทึกเอาความรู้สึกสด ๆ ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเหตุการณ์ไว้โดยตรง และเพื่อจะทำให้ผู้ชมเกิดความเชื่อมโยงตนเองเข้ากับสิ่งที่ได้เห็นอย่างลึกซึ้งโดยไม่ต้องมีใครอธิบาย

เจคอบส์พูดไว้น่าสนใจว่า ทุกวันนี้เราเห็นสารคดีที่พยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากมาย จนถึงระดับหนึ่งดูเหมือนมันอาจเริ่มก่อผลร้ายในแง่ที่ทำให้คนเกิดภาวะ ‘ชาชินต่อปัญหา’ ขณะที่อีกจำนวนมากก็อาจรู้สึกว่ารู้ไปก็เท่านั้น มันดูเป็นเรื่องไกลตัวหรือแม้ใกล้ตัวก็ช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงคาดหวังว่าการดึงให้เราได้มาเห็นผลอันน่าตกใจ (และแน่นอนว่าใกล้ตัวสุด ๆ) ที่เกิดขึ้นกับ ‘คนแบบเดียวกับเรา’ ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก จะสามารถช่วยต้านทานภาวะดังกล่าวได้สำเร็จ

ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project

นอกจากคลิปที่ทรงพลังแล้ว The Here Now Project ยังมีองค์ประกอบเบื้องหลังที่น่าสนใจโดยเฉพาะงานดนตรีประกอบฝีมือ Kubilay Uner ซึ่งใช้เสียงทั้งหมดจากคลิปที่รวบรวมมา ไม่ว่าจะเป็นเสียงพายุ เสียงไฟ เสียงผู้คน มาออกแบบและบรรเลงเป็นเสียงออร์เคสตราซึ่งขับเน้นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเร่งด่วนให้แก่หนังได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งภาพและเสียงจะกระตุ้นเร้าให้เราตื่นตระหนก สิ่งที่หนังต้องการจะสื่อจริง ๆ ก็ไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะเรายังจะได้เห็นภาพของผู้คนที่ยังคงมอบน้ำใจและความช่วยเหลือให้แก่กันแม้ในยามวิกฤต ซึ่งสะท้อนข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มีใครจะรับมือกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้ได้เพียงลำพัง นอกจากนั้น หนังยังเลือกปิดท้ายด้วยคลิปสั้น ๆ ที่หลาย ๆ คน ‘ส่งข้อความถึงโลก’ ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องให้ลงมือทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ (แบบที่เราอาจจะคุ้นจากหนังสารคดีสิ่งแวดล้อมหลายเรื่อง) แต่เป็นการเรียกร้องให้เรามีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและอยู่เคียงข้างกันในการหาทางออกจากปัญหานี้ให้ได้

“การที่เราได้เผชิญหน้ากับหายนะผ่านเหตุการณ์ที่คนในหนังจำนวนมากได้เจอ จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรากล้าแกร่งขึ้นในการรับมือกับมัน หากวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเราบ้าง” เจคอบส์ให้สัมภาษณ์ไว้แบบนี้ “ผมหวังว่าหนังเรื่องนี้จะกำลังทำหน้าที่บอกให้คนดูรู้สึกว่า เราจะสามารถผ่านเรื่องราวทั้งหมดเหล่านี้ไปได้พร้อมกับผู้คนที่เป็นเหมือนกับเรา และเราจะตอบสนองต่อหายนะนี้ได้อย่างดีด้วยความเป็นมนุษย์”

ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project
ภาพจากสารคดี The Here Now Project


▶ ติดตามสารคดี The Here Now Project ปี 2011 ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการว่าเป็นปีแรกที่เหตุการณ์ไฟป่า น้ำท่วม และพายุ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องใน ทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สภาพอากาศสุดขั้วที่นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศทำนาย ไว้เป็นเวลาครึ่งศตวรรษแล้วนั้น...ได้มาถึงแล้ว! สารคดีเรื่องนี้จะเป็นประจักษ์พยาน ด้วยขอบเขตกว้างขวางแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เพราะ "จอน ซิสเคล" และ "เกรก จาค็อบส์" คนทำหนังรางวัลเอมมี่ ทำโครงการ "THE HERE NOW" ด้วยการรวบรวมภาพวิดีโอนับพันชั่ว โมงที่ถ่ายขณะเกิดเหตุการณ์จริงในปี 2011 ผ่านสายตาของคนธรรมดาทั่วโลก โดยไม่มีการบรรยายหรือการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญมาขัดจังหวะ เพื่อให้เราได้เห็นลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นพร้อม สารคดีเรื่องนี้จึงเป็นทั้ง สัญญาณเตือนภัย และหลักฐานของความยืดหยุ่น ความสามารถในการปรับตัว ตลอดจนความกล้าหาญของมนุษย์ในการเผชิญหน้ากับมัน

รับชมได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาโลกร้อนภาวะโลกร้อนภัยพิบัติVIPAVIPA Best DocumentaryVIPAdotMeสารคดี VIPADocumentary Club
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้เขียน: ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้ง Documentary Club คลับของคนรักสารคดี และหนังนอกกระแส

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด