สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีประกาศเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ. 69 ด้วยความที่เทคโนโลยีก้าวหน้า เกิด Case Study ที่น่าสนใจเมื่อมีการนำ AI ไปใช้ในทางที่ผิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เช่น สร้างสำนักข่าวปลอม Thai PBS และ Thai PBS Sci & Tech จึงนำความรู้ประเด็นดังกล่าวมาให้ได้ทราบ เพื่อรู้เท่าทันไม่ตกเป็นเหยื่อผู้ไม่หวังดี
ในเรื่องนี้ คุณอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ อดีตรองผู้อำนวยการ ส.ส.ท. ด้านเทคโนโลยีการกระจายสื่อ ได้ให้ความรู้ในเฟซบุ๊ก “Anupong Chaiyariti” ไว้ว่า ด้วยความที่ AI ทำให้ต้นทุนโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) ต่ำลงมาก ใครก็สามารถสร้าง “สำนักข่าวปลอม” ได้ จนส่งผลให้ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้างภัยคุกคามการเลือกตั้ง เช่น “ช่องผี” (anonymous channel) ปล่อยข่าวปลอมบน YouTube โดยมีสัญญาณเตือนจากประเทศอังกฤษถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทย
ในอดีต การทำโฆษณาชวนเชื่อทางการเมืองต้องอาศัยทรัพยากรจำนวนมาก ต้องมีสำนักข่าว ต้องมีนักข่าว ต้องมีทีมโปรดักชัน และต้องมีงบประมาณ แต่ในยุคของปัญญาประดิษฐ์ ต้นทุนเหล่านี้แทบหายไปทั้งหมด สิ่งที่เหลืออยู่คือความสามารถในการใช้เครื่องมือ AI ราคาถูก และความเข้าใจกลไก Algorithm ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

“AI” ถูกใช้กับการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร
กรณีล่าสุดจากสหราชอาณาจักรสะท้อนความเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างชัดเจน งานวิจัยของ Reset Tech องค์กรไม่แสวงหากำไรด้านนโยบายเทคโนโลยี ซึ่งถูกเปิดเผยผ่านการรายงานของ The Guardian พบว่า ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา มีช่อง YouTube ลึกลับมากกว่า 150 ช่อง ที่ผลิตและเผยแพร่เนื้อหาโจมตีพรรค Labour และนายกรัฐมนตรี Keir Starmer อย่างเป็นระบบ
ช่องเหล่านี้สร้างวิดีโอรวมกว่า 56,000 คลิป มีผู้ติดตามสะสมกว่า 5.3 ล้านบัญชี และมียอดรับชมรวมเกือบ 1.2 พันล้านวิวในปี 2025 เพียงปีเดียว Starmer ถูกเอ่ยถึงในชื่อหรือคำอธิบายวิดีโอมากกว่า 15,600 ครั้ง โดยเนื้อหาจำนวนมากเป็นข่าวเท็จหรือกล่าวหาอย่างไร้หลักฐาน เช่น การถูกจับกุม การถูกปลดออกจากตำแหน่ง หรือการล่มสลายของรัฐบาลแบบ “สด ๆ”
สิ่งที่น่ากังวลไม่ใช่เพียงปริมาณของข้อมูลเท็จ แต่คือ “รูปแบบ” ของมัน ช่องเหล่านี้ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นเพจการเมืองหัวรุนแรง หากแต่ใช้ชื่อและภาพลักษณ์คล้ายสำนักข่าวจริง ใช้เสียงบรรยายสำเนียงอังกฤษ ใช้ภาษาข่าวเร่งด่วน และออกแบบหน้าปกคลิปให้ดูน่าเชื่อถือ ทั้งหมดนี้สามารถผลิตได้ด้วย AI แทบทั้งสิ้น ตั้งแต่การเขียนสคริปต์ การพากย์เสียง ไปจนถึงการตัดต่อและอัปโหลดแบบอัตโนมัติ

Reset Tech ระบุว่านี่คือแนวโน้มระดับโลกของ Synthetic Propaganda ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะเครื่องมือ AI มีราคาถูก เข้าถึงง่าย และใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการสร้าง “โรงงานข่าวปลอม” ที่ดูเหมือนสื่อจริง งานวิจัยยังพบเครือข่ายลักษณะเดียวกันในหลายประเทศยุโรป รวมกว่า 420 ช่อง ในภาษาเยอรมัน ฝรั่งเศส สเปน และโปแลนด์
ที่น่าสนใจคือ งานวิจัยไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าช่องที่มุ่งเป้าอังกฤษทั้งหมดเป็นปฏิบัติการของรัฐต่างชาติ หากแต่ส่วนใหญ่เป็นผู้สร้างเนื้อหาเชิงฉวยโอกาส (Opportunist Creator) ที่หวังสร้างรายได้จากโฆษณาและ Engagement โดยอาศัยประเด็นที่แตกแยกในสังคม เช่น การเมืองและการอพยพ อย่างไรก็ตาม Reset Tech เตือนว่า แม้แรงจูงใจจะเป็นเรื่องเงิน แต่ผลกระทบต่อความไว้วางใจในระบบประชาธิปไตยก็ร้ายแรงไม่ต่างกัน

Case Study ชี้ให้เห็นปัญหาเชิงโครงสร้างของแพลตฟอร์ม
เมื่อระบบแนะนำเนื้อหาให้รางวัลกับความตื่นตระหนก ความโกรธ และการกล่าวหา แพลตฟอร์มจึงเผชิญการขัดกันเองระหว่างการบังคับใช้นโยบาย กับการรักษารายได้จาก Engagement อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Dylan Sparks ผู้อำนวยการ Reset Tech ประจำสหราชอาณาจักร ระบุว่า โมเดลธุรกิจของแพลตฟอร์มทำให้เนื้อหาลักษณะนี้สามารถแพร่กระจายและสร้างรายได้ได้ ก่อนจะถูกตรวจพบและลบออกในภายหลัง
บทเรียนจากอังกฤษจึงเป็นสัญญาณเตือนโดยตรงถึงประเทศที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง รวมถึงประเทศไทย คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ว่า “จะมีใครแทรกแซงหรือไม่” แต่คือ “ระบบนิเวศสื่อของเราพร้อมรับมือแค่ไหน” หากเกิดช่อง YouTube ภาษาไทยที่ใช้ AI ปล่อยข่าวว่ามีนักการเมืองถูกจับ ถูกยุบพรรค หรือถูกโค่นล้ม โดยใช้รูปแบบเหมือนข่าวจริง เรามีกลไกตรวจจับและตอบสนองได้เร็วพอหรือไม่
การลบเนื้อหาหลังจากเกิดความเสียหายแล้วไม่ใช่ “คำตอบเชิงนโยบาย” ที่เพียงพอ กรณีอังกฤษสะท้อนว่า ต้องมีมาตรการเชิงป้องกัน ตั้งแต่การบังคับติดป้ายเนื้อหา AI-generated ทางการเมือง การตัดรายได้โฆษณาจากเนื้อหาที่บ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้ง ไปจนถึงความร่วมมือระหว่างรัฐ แพลตฟอร์ม และสื่อมืออาชีพในการสร้างมาตรฐานร่วม

ท้ายที่สุด ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีล้วน ๆ แต่เป็นเรื่องของความไว้วางใจ เมื่อประชาชนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือข่าวจริง ใครคือสื่อ และใครต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหา การเลือกตั้งก็เสี่ยงจะกลายเป็นสนามแข่งขันของ Algorithm มากกว่าการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลของประชาชน
อังกฤษอาจเป็นกรณีศึกษาแรกที่เห็นภาพชัด แต่ประเทศไทยอาจเป็นสนามถัดไป หากเรายังเชื่อว่าการโฆษณาชวนเชื่อต้องใช้ต้นทุนสูง และยังมองข่าวปลอมเป็นเพียงปัญหาชายขอบของโลกออนไลน์
หน่วยงานในบ้านเราที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ตระหนักและพร้อมรับมือหรือไม่อย่างไร…
อ้างอิง (Sources)
• Reset Tech (UK) – งานวิจัยเกี่ยวกับช่อว YouTube ที่ใช้ AI สร้างและเผยแพร่ synthetic political content และ misinformation ในยุโรป ปี 2025
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : theguardian, คุณอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech




















