Secret Story | UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality ปัญหาคนไร้บ้านและความเหลื่อมล้ำที่ต้องชำแหละ


Lifestyle

31 ต.ค. 66

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

Logo Thai PBS
Secret Story | UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality ปัญหาคนไร้บ้านและความเหลื่อมล้ำที่ต้องชำแหละ

คุณคิดและรู้สึกอย่างไร ? เมื่อได้เห็น หรือได้ยินคำว่า ‘คนไร้บ้าน’

ชายคนหนึ่งพูดในสารคดีสัญชาติอเมริกันเรื่องนี้ว่า “เวลาผมเห็นคนพวกนี้สะพายเป้และดูสกปรก ผมก็ไม่สนหรอกว่าเขาจะเป็นคนผิวขาว คนผิวดำหรือคนละติน สำหรับผมแล้ว พวกเขาเป็นพวกที่ใช้ชีวิตผิดพลาด ขยันไม่เท่าคนที่ประสบความสำเร็จ แถมยังมีแนวโน้มสูงว่าจะเสพยาด้วย” คุณเห็นด้วยกับเขาไหม ?

UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality เป็นสารคดีที่สำรวจประเด็นวิกฤติที่อยู่อาศัยได้อย่างหนักแน่น แม้พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่หนังนำเสนอจะจำกัดอยู่ในท้องถิ่นพื้นที่เดียว แต่การสำรวจมันอย่างเจาะลึกระดับ ‘ชันสูตรชำแหละ’ (ตามชื่อหนัง) ก็ส่งผลให้หนังอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดหลากหลายมิติจนสามารถสะท้อนสภาพความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาเมืองใหญ่ได้เกือบทั้งโลก พร้อม ๆ กับถ่ายทอดความเดียดฉันท์ขัดแย้งระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งเกิดขึ้นได้เพียงเพราะ “อาศัยอยู่กันคนละเขตรหัสไปรษณีย์” ได้อย่างน่าเจ็บปวด

พื้นที่ที่เป็นใจกลางของหนังเรื่องนี้คือ เวนิส ย่านชายหาดเขตรหัสไปรษณีย์ 90291 รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแม้ภาพลักษณ์ฉากหน้าจะเป็นย่านสุดคูล แหล่งโชว์งานศิลปะของศิลปินสตรีต สรวงสวรรค์ของนักเล่นสเกตและเซิร์ฟ ที่เที่ยวหย่อนใจสำหรับคนอยากเสพไลฟ์สไตล์เก๋ ๆ แถมยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ แต่อีกด้าน ที่นี่ก็เต็มไปด้วยคนไร้บ้าน คนผิวดำฐานะยากจน และแหล่งอยู่อาศัยซึ่งถูกมองเป็นแหล่งเสื่อมโทรมศูนย์รวมยาเสพติดและอาชญากรรม หรือดังที่หนังสรุปอย่างกระชับไว้ในช่วงหนึ่งว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้และการเหยียดเชื้อชาติส่งผลให้เวนิสในปัจจุบันมีช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

จากการสำรวจพบว่า ปัจจุบันในเวนิสมีคนไร้บ้านกว่า 1,100 คน จากประชากรทั้งหมดราว 41,000 คน ซึ่งหมายความว่า 1 ใน 40 ของคนที่นี่ไม่มีบ้านอยู่ (ตัวเลขนี้ยิ่งเลวร้ายขึ้นอีกในช่วงเกิดการระบาดของโรคโควิด-19) และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ในลอสแอนเจลิสมีคนไร้บ้านเสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 3 คน แสดงถึงสภาพการดำรงชีวิตที่ไร้ความปลอดภัยอย่างที่สุด

การแบ่งแยกกีดกันทั้งทางสีผิวและชนชั้นในเวนิสปรากฏชัดเจนน่าตกใจในหลายเหตุการณ์ ตัวอย่างที่ชวนสะเทือนอารมณ์มากคือ ฉากการประชุมอันเดือดพล่านของคนในชุมชนที่ต่อต้านโครงการสร้าง ‘บ้านทางผ่าน’ ซึ่งนายกเทศมนตรีหวังให้เป็นที่พักพิงชั่วคราวของคนไร้บ้านในเวนิส เราได้เห็นภาพเป็นรูปธรรมของปรากฏการณ์ที่กันเรียกว่า ‘NIMBY’ (ย่อมาจาก Not in my Backyard ซึ่งเป็นวลีที่แพร่หลายมาจากวงการสิ่งแวดล้อม บ่งบอกแนวคิดของคนบางกลุ่มที่ประท้วงไม่ต้องการให้สิ่งไม่พึงประสงค์ใด ๆ ก็ตามย่างกรายเข้ามาในชุมชนของตัวเอง โดยสิ่งนั้นจะไปอยู่ที่ไหนก็ช่าง แต่ต้อง “ไม่ใช่ในสวนหลังบ้านของฉัน”) เมื่อชาวบ้านหลายคนประกาศก้องว่าไม่ต้องการให้คนไร้บ้านมาเป็นตัวอันตรายอยู่ใกล้ชิดตนกับครอบครัว และยินดีมากหากพวกเขาถูกย้ายออกไปไกล ๆ กว่านี้

อีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งยิ่งแสดงให้เห็นความซับซ้อนของสถานการณ์ในเวนิส คือเหตุการณ์ลูกชายมหาเศรษฐีที่มีแผนซื้อและปรับเปลี่ยนโบสถ์เฟิร์สต์แบปทิสต์เก่าแก่ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจของคนผิวดำในชุมชนมายาวนาน ให้กลายเป็นคฤหาสน์หรูส่วนตัวภายใต้ความเห็นชอบของผู้บริหารโบสถ์เอง เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างชัดเจนของปัญหาการปรับแปลงพื้นที่เพื่อเปลี่ยนชนชั้น (Gentrification) อันเป็นวิกฤติที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกเมืองใหญ่ 

เมื่อ ‘การพัฒนา’ ที่ดูผิวเผินเป็นเหมือนการชะล้างความไร้ระเบียบไม่น่ามองของเมืองทิ้งไปเพื่อเปลี่ยนให้กลายเป็นสถาปัตยกรรมหรือภูมิทัศน์ที่ดูศิวิไลซ์สวยสดงดงามขึ้นนั้น แท้จริงแล้วเกิดขึ้นควบคู่กับปัญหาราคาที่อยู่อาศัยพุ่งสูงจนชาวบ้านที่อยู่มานานไม่สามารถเลี้ยงชีวิตต่อไปได้ไหว เมืองเริ่มกลายเป็นที่อยู่ของเศรษฐีใหม่ ตามมาด้วยการรื้อไล่คนท้องถิ่น และอาจถึงขั้นลบล้างกำจัดอัตลักษณ์ ความเชื่อ วิถีชีวิต วัฒนธรรมของพวกเขาจนหมดสิ้น

Unzipped4.jpg

แต่พร้อม ๆ กับที่ให้ข้อมูลทางสังคมมากมายแบบนี้ UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality ก็ไม่ใช่สารคดีแห้งแล้ง เพราะหนังเลือกเล่าเรื่องทั้งหมดนั้น ผ่านชีวิตคนซึ่งพยายามดิ้นรนเอาตัวรอดท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของเมือง โดยซับเจ็กต์ที่เป็นหัวใจของหนังคือครอบครัวศิลปินไร้บ้าน 2 ครอบครัว หนึ่งคือคู่รักผิวดำวัยเยาว์กับลูกสาวสองคนที่พยายามเลี้ยงชีพด้วยการขายงานศิลปะบนทางเดินริมทะเล และอีกหนึ่งคือศิลปินท้องถิ่นกับภรรยาและลูกชายสามคนซึ่งลักลอบอยู่อย่างผิดกฎหมายในสตูดิโอศิลปะของเพื่อน

ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นชีวิตของคนไร้บ้าน ซึ่งอีกด้านหนึ่งเป็นศิลปินผู้พยายามสร้างงาน และไขว่คว้าหาโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพ การที่หนังเลือกพวกเขาเป็นซับเจ็กต์จึงทำให้เรื่องราวโดดเด่นและยิ่งน่าสนใจ ด้านหนึ่งมันท้าทายให้คนดูต้องตรวจสอบอคติที่ตนอาจเคยมีต่อคนไร้บ้าน เมื่อได้เห็นว่าพวกเขาเหล่านี้ในหนังก็มีความคิดความหวังไม่แตกต่างจากคนอื่นสักเท่าไร และอีกด้านก็ชวนให้เราต้องเจ็บปวดไปกับความเป็นจริงอันโหดร้ายที่ว่า ในสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำนั้น ความอุตสาหะพยายาม หรือแม้แต่ความสามารถก็ไม่ได้เป็นคุณสมบัติที่นำมาซึ่งโอกาสหรือชีวิตที่ดีเสมอไป

UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality ไม่เพียงพยายามทำลายทัศนคติแบบเหมารวมของเราด้วยเรื่องราวของคนไร้บ้านผู้มีเลือดเนื้อและน้ำตา แต่หนังยังนำเสนอบทสัมภาษณ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลากหลายระดับ ตั้งแต่นักการเมือง นักวิชาการ องค์กรทางสังคม และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เราตระหนักว่า การขาดแคลนที่อยู่อาศัยนั้นถือเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมระดับโลก และเป็นปัญหาระดับโครงสร้างที่นำมาสู่ความเหลื่อมล้ำอย่างรุนแรง ความไม่เท่าเทียมของรายได้ ความไม่สมดุลระหว่างค่าจ้างอันต่ำเตี้ยกับค่าเช่าที่อยู่อาศัยซึ่งพุ่งสูง การขาดแคลนนโยบายของรัฐในการลงทุนสร้างบ้านราคาเข้าถึงได้ ไปจนถึงปัญหาการเหยียดเชื้อชาติ และการพัฒนาที่แบ่งแยกกดขี่ทางชนชั้น

มันไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากความล้มเหลวของปัจเจกผู้ ‘ใช้ชีวิตผิดพลาด’ หรือคนติดยาเกียจคร้านที่ ‘ขยันไม่เท่าคนที่ประสบความสำเร็จ’ อย่างแน่นอน

ร่วมกัน ‘ชำแหละ’ วิกฤติปัญหาที่อยู่อาศัยไปพร้อม ๆ กัน ในสารคดี UNZIPPED: An Autopsy of American Inequality รับชมทาง www.VIPA.me  และ VIPA Application

▶ คลิกเพื่อรับชม : https://watch.vipa.me/T3woiz5QkEb

“ Secret Story ” คือคอลัมน์น้องใหม่จาก VIPA ที่มาพร้อมเรื่องราวเจาะลึก มุมมองในมิติที่คุณอาจไม่เคยรู้ ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังของผลงานสารคดีคุณภาพ ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดใน www.VIPA.me 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Secret Storyสารคดี VIPAVIPAVIPAdotMeสหรัฐอเมริกาปัญหาที่อยู่อาศัยคนไร้บ้านสารคดี UNZIPPED: An Autopsy of American Inequalityสารคดีต่างประเทศ
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์
ผู้เขียน: ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้ง Documentary Club คลับของคนรักสารคดี และหนังนอกกระแส

บทความ NOW แนะนำ