ข่าวดีสำหรับ “เกษตรกรไทย” ในการทำเทคโนโลยี “โดรน” มาใช้ในภาคการเกษตร เมื่อ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร และสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ได้ร่วมมือกันจนประสบผลสำเร็จ ก่อนเปิดเป็น “ศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร” ต้นแบบแห่งแรกของภาคใต้ ณ วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร
เมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 67) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยวิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร และสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วมเปิดศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตรต้นแบบแห่งแรก ณ จังหวัดชุมพร
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนการนำ “เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร” มาใช้ยกระดับประสิทธิภาพภาคการเกษตรในพื้นที่จ.ชุมพร โดยใช้กลไกการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตร เป็นต้นแบบ ณ วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งการดำเนินงานในครั้งนี้ วช.ได้สนับสนุนให้มีการดำเนินงานร่วมกันระหว่างสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับและวิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร ซึ่งศูนย์การเรียนรู้ที่วิทยาลัย จะเป็นต้นแบบศูนย์แห่งแรกของภาคใต้ ที่ให้บริการแบบครบวงจร อาทิ การถ่ายทอดองค์ความรู้ การประกอบ การซ่อม และการให้บริการการบินโดรนเพื่อการเกษตร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จ.ชุมพร
อาจารย์พิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่า โครงการศึกษาประยุกต์ใช้โดรนเพื่อการเกษตรในพื้นที่ต้นแบบ จ.ชุมพร ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เพื่อนำเทคโนโลยีโดรนไปใช้ประโยชน์กับเกษตรกร ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งพื้นที่ต้นแบบ จ.ชุมพร เป็นพื้นที่ภูเขาสูงและมีพืชสวนที่มีต้นไม้สูง โดยเฉพาะ “ทุเรียน” ที่มีผลผลิตมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนมากกว่า 24,000 ราย การพัฒนาเทคโนโลยีโดรนมาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาภาคการเกษตรในภาคใต้ จึงเป็นการบูรณาการร่วมกันหลายภาคส่วนในการก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้โดรนเพื่อการเกษตรในพื้นที่ต้นแบบ ณ วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน จ.ชุมพร
โดยศูนย์แห่งนี้ ดำเนินการครบวงจร โดยมีการพัฒนาจัดทำเป็นหลักสูตรในการอบรม ประกอบด้วย การประกอบการบินโดรน การฝึกบินโดรน การลงพื้นที่จริงเพื่อฝึกให้สามารถบินโดรนในพื้นที่จริง โดยใช้โดรนขนาดใหญ่ที่มีเรดาร์ป้องกันการชน เพิ่มฟังก์ชันใส่ถังในการหวานเมล็ดและยาฆ่าแมลงต่าง ๆ และการบริการให้กับเกษตรกรในการพ่นสารเคมียาฆ่าแมลงโดยใช้โดรน
นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างยั่งยืน มีนักศึกษาหมุนเวียนต่อยอดอย่างต่อเนื่อง มีการถ่ายทอดองค์ความรู้การอบรมเชิงปฏิบัติด้านการประกอบอากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตรกรรม สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรกรรมในหลายด้าน ทั้งการลดระยะเวลาในการฉีดพ่นสารชีวภาพให้แก่พืช ทำให้เทคโนโลยีโดรนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแบ่งเบาภาระในการทำงานของเกษตรกรได้
นายจีรศักดิ์ แสงหอย นายอำเภอหลังสวน กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ โดรนเพื่อการเกษตร ในพื้นที่ต้นแบบจังหวัดชุมพร เป็นการบูรณาการงานในพื้นที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต โดยเฉพาะการนำโดรนมาใช้ในการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง การหว่านเมล็ดพันธุ์พืช การใส่ปุ๋ย เป็นต้น ช่วยลดเวลาในการทำงานและลดปัญหาการจ้างแรงงานลงไปได้ ซึ่งถือเป็นความยั่งยืนในการทำการเกษตรต่อไป
ทั้งนี้ คณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. และคณะนักวิจัย ได้ลงพื้นที่ชมการสาธิตการใช้งานโดรนระบบอัตโนมัติเพื่อการเกษตร ณ แปลงปลูกในสวนทุเรียน ซึ่งพบว่าโดรนเพื่อการเกษตรสามารถใช้งานได้อย่างดี โดยมุ่งหวังว่าโครงการนี้จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่ จ.ชุมพร และพื้นที่ใกล้เคียงในเขตภาคใต้ โดยการนำเทคโนโลยีโดรนมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ลดต้นทุน ลดปัญหาการจ้างแรงงาน และเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ให้ยั่งยืนต่อไป
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)