เมื่อไม่นานมานี้ คณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์โลกและการรับมือภัยพิบัติแห่งชาติญี่ปุ่น เปิดเผยว่าเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้งทางตอนกลางของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีความรุนแรงขนาด 7.6 ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินเหลว หรือ liquefaction (ดินมีสภาพคล้ายกับของเหลว เนื่องจากสูญเสียกำลัง และความแข็งแรงในด้านความเค้น โดยปรากฏการณ์นี้มักเกิดขึ้นในระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหว) ในหลายพื้นที่มากกว่าเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชินเมื่อปี 1995 (ปี 2538)
รายงานระบุว่าทีมงานสถาบันฯ แบ่งพื้นที่ออกเป็นบล็อกสี่เหลี่ยม ขนาด 250 ตารางเมตร และนับจุดที่เกิดละอองน้ำและการพวยพ่นของทรายอันมีต้นตอจากปรากฏการณ์แผ่นดินเหลวในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. นำไปสู่การค้นพบพื้นที่อย่างน้อย 1,724 จุด ในจังหวัดอิชิกาวะ โทยามะ นีงาตะ และฟุกุอิ กำลังเผชิญปรากฏการณ์แผ่นดินเหลว
การวิจัยนี้ที่ยังคงเดินหน้าศึกษาค้นคว้าโดยใช้ข้อมูลต่าง ๆ เช่น ภาพถ่ายจากดาวเทียม และรายงานความเสียหายในการสำรวจภาคพื้น ถือเป็นการศึกษาขอบเขตปรากฏการณ์แผ่นดินเหลวอันเกิดจากแผ่นดินไหวคาบสมุทรโนโตะ 2024 อย่างเต็มรูปแบบครั้งแรก
ความเสียหายที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวในวันปีใหม่นั้นมีนัยสำคัญ เนื่องจากระยะเวลาการสั่นสะเทือนที่ยาว กอปรกับหลายพื้นที่มีประเภทของดินที่มีแนวโน้มก่อให้เกิดปรากฏการณ์แผ่นดินเหลว เช่น ทรายหรือดินถม
จำนวนจุดเกิดปรากฏการณ์แผ่นดินเหลวจากแผ่นดินไหวในวันขึ้นปีใหม่ (1,724 จุด) นั้นสูงกว่าจำนวนจุดดังกล่าวจากแผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1,266 จุด) และคาดว่าจะสูงเกิน 2,000 จุด ซึ่งมากกว่าจำนวนจุดดังกล่าวจากแผ่นดินไหวคุมาโมโตะ 2016 (1,890 จุด) ส่วนแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่นตะวันออก 2011 ก่อให้เกิดจุดดังกล่าวสูงถึง 8,600 จุด
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
ภาพซินหัว : ถนนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวในเมืองฮาคุอิ จังหวัดอิชิกาวะของญี่ปุ่น วันที่ 2 ม.ค. 2024
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : Xinhua
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech