สวัสดีครับคุณผู้ชมทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่รายการภัตตาคารบ้านทุ่งครับ เช้าวันนี้สตางค์และทีมงานของเราอยู่กันที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ภารกิจดีดีเช้าวันนี้ ได้เวลาชวนคุณผู้ชมมาติดตามค้นหาเรื่องราวของ มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม มะม่วงน้ำกร่อยที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องรสชาติหอมหวานอร่อยเป็นเอกลักษณ์ เราจะไปลุยกันครับ!
เช้าวันนี้สตางค์ได้นัดหมายกับ ป้าสาว รองประธานกลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอกร่องบ้านเสม็ดงาม จุดแรกป้าสาวจะพาสตางค์ไปดูมะม่วงต้นโบราณ อายุนมนานกว่าร้อยปี ณ บ้านของป้าบุหงา มะม่วงเหล่านี้เป็นมรดกตกทอดจากรุ่นปู่รุ่นพ่อ ที่ยังคงให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง สวนของป้าบุหงามีมะม่วงอกร่องรวมประมาณหกสิบต้น โดยต้นที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุถึง 120 ปี ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนถึงความเก่าแก่และความผูกพันของชุมชนกับมะม่วงอกร่องเสม็ดงาม
มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม ไม่ได้เป็นเพียงมะม่วงพื้นถิ่นโบราณทั่วไป แต่เป็นมะม่วงที่มีรสชาติหวานจัดและมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ป้าสาวเล่าให้ฟังว่าพื้นที่ในหมู่บ้านเสม็ดงามแห่งนี้ กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของครัวเรือนปลูกมะม่วงอกร่อง บางบ้านอาจจะมีมะพร้าวแซมบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คือมะม่วงอกร่อง ซึ่งต่อมาภายหลังจึงได้มีการปลูกมะม่วงพันธุ์อื่น ๆ เช่น เขียวเสวยแซมเข้ามาบ้าง
ป้าสาวเผยเคล็ดลับที่ทำให้มะม่วงอกร่องเสม็ดงามมีชื่อเสียงโด่งดัง นั่นเป็นเพราะพื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่บน เกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยน้ำเค็ม ทั้งหมู่ 10 และหมู่ 11 ดินที่นี่จึงมีการทับถมของตะกอนน้ำเค็มมาเป็นเวลานาน ทำให้กลายเป็น มะม่วงน้ำกร่อย ที่มีรสชาติหวานและมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นี่คือสิ่งที่ไม่เหมือนใคร และเป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากในมะม่วงพันธุ์อื่น ๆ
จากการสำรวจของเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดในอดีต พบว่าในหมู่บ้านเสม็ดงามแห่งนี้ มีแร่ธาตุกำมะถันในดินเยอะมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้มะม่วงอกร่องเสม็ดงามมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ และรสชาติหวานที่แตกต่างออกไป
รสชาติของมะม่วงอกร่องเสม็ดงามนั้น เป็นความหวานที่ไม่เหมือนใคร ป้าสาวอธิบายว่า "หวานแบบธรรมชาติ หวานมะม่วง" คือ หวานไม่แหลม ไม่เจ็บคอ และไม่แสบ แต่กลับมีความกลมกล่อมและหอมอย่างยิ่ง หากเป็นมะม่วงที่แก่จัดและบ่มจนสุกเต็มที่ จะไม่มีรสชาติอมเปรี้ยวเลย
ดังนั้น มะม่วงอกร่องเสม็ดงามจึง เหมาะอย่างยิ่งที่จะรับประทานผลในระยะสุก ซึ่งหมายถึงการเก็บจากต้นแล้วนำมาบ่ม เนื่องจากถ้าสุกคาต้นหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "สุกปากตะกร้อ" ผลจะร่วงหล่นเสียหาย และที่สำคัญคือจะมีรสชาติอมเปรี้ยวและอาจมีรสชาติคันคอระคายคอได้
ป้าสาวอธิบายถึงที่มาของชื่อ "มะม่วงอกร่อง" ว่ามาจาก ลักษณะของผลมะม่วงที่มีส่วนอกนูนเด่นและเว้าเป็นร่องลึก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ทำให้มะม่วงพันธุ์นี้แตกต่างจากมะม่วงพันธุ์อื่น ๆ
ปัจจุบัน สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรีกำลังผลักดันให้ มะม่วงอกร่องเสม็ดงามเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งจะเป็นการรับรองคุณภาพ แหล่งที่มา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมะม่วงอกร่องเสม็ดงามในตลาดโลก
การเก็บเกี่ยวมะม่วงอกร่องนั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก ยางของมะม่วงสามารถกระเด็นออกมาได้เยอะมาก ดังนั้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องใช้ ไม้สอยยาว ๆ และสวม หมวกคลุม เพื่อป้องกันยางมะม่วงที่อาจฉีดออกมาเมื่อดึงขั้วผลหลุด
ลำต้น: เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง ลำต้นแตกกิ่งหลักและกิ่งแขนงมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนาทึบ เปลือกลำต้นมีสีเทาอมดำ
ผล: มะม่วงอกร่องจะมีรูปไข่อวบใหญ่และค่อนข้างแบนเล็กน้อย ด้านหน้าผลโค้งนูนแล้วค่อย ๆ เล็กขอดลงทางปลายผล ด้านล่างบางผลจะเห็นมีปุ่มนูนชัดเจน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า "สะดือมะม่วง"
เมื่อกัดเข้าไปในเนื้อมะม่วงอกร่องดิบที่ยังกรอบ บางครั้งจะได้ยินเสียง "ลั่น" ซึ่งหมายถึงความกรอบคล้ายกับมะม่วงฟ้าลั่นที่ต้องกินอ่อน ๆ เมื่อเราผ่ามะม่วงอกร่องออกมา จะได้กลิ่นหอมฟุ้งลอยขึ้นมาทันที เพียงแค่ดมก็สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงอกร่องเสม็ดงาม
สำหรับมะม่วงดิบ ป้าบุหงาแนะนำว่า "ยำน่าจะอร่อย" โดยเฉพาะเมื่อนำไปกินกับยำหัวข่า ซึ่งเป็นเมนูพื้นถิ่นที่น่าสนใจ และสตางค์เองก็จะได้ลิ้มลองความเข้ากันของมะม่วงกับหัวข่าในวันนี้
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการกัดบริเวณขั้วผลมะม่วง เพราะอาจมียางมะม่วงติดอยู่ ซึ่งจะทำให้ ปากเปื่อย ได้
สวนของป้าสาวได้เข้าร่วม กลุ่มแปลงใหญ่มะม่วงอกร่องบ้านเสม็ดงาม และได้รับเลือกให้เป็น สวนต้นแบบในการดูแลมะม่วงแบบระยะปลอดภัยมาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practices) เพื่อพัฒนาคุณภาพและการตลาดของมะม่วงอกร่องเสม็ดงามให้ดียิ่งขึ้น
พื้นที่การทำสวนมะม่วงมักพบปัญหาเรื่อง แมลงวันทอง เข้ามารบกวนเป็นจำนวนมาก ทางเกษตรจังหวัดจึงได้นำ แมลงวันทองตัวผู้ที่ผ่านการฉายแสงให้เป็นหมัน มาปล่อยในพื้นที่สวน เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์กับแมลงวันทองตัวเมียในธรรมชาติ และออกไข่แต่ไม่ได้ออกตัว ซึ่งเป็นวิธีการลดจำนวนการเกิดใหม่ของแมลงวันทองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมให้เกษตรกร ห่อมะม่วงด้วยถุงคาร์บอน ซึ่งมีลักษณะ 2 แบบ คือ ถุงสีแดง และ ถุงสีน้ำตาล วิธีนี้ช่วยป้องกันแมลงและศัตรูพืชต่าง ๆ ได้ดี
ป้าสาวเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาที่จังหวัดจันทบุรี และมีการนำมะม่วงอกร่องเสม็ดงามทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งพระองค์ได้มีโอกาสเสวยและ ทรงชมว่าเป็นมะม่วงที่อร่อย แต่ให้ระวังเรื่องหนอนที่ติดมากับมะม่วง
จากพระราชดำริดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านหันกลับมาใส่ใจในการปลูกและดูแลมะม่วงอกร่องมากขึ้น ทำให้เป็นที่นิยมและ กลายมาเป็นมะม่วงที่มีราคาสูงในปัจจุบัน
หากมะม่วงอกร่องไม่ได้รับการบ่มและสุกงอมหรือสุกปากตะกร้อคาต้น แม้จะมีรสชาติหวานแต่จะมี กลิ่นยางมาก และยางจะซึมเข้าไปในเนื้อ ทำให้รสชาติไม่น่ารับประทาน ชาวบ้านจึงนิยมเก็บมะม่วงมาบ่มมากกว่า
มะม่วงอกร่องที่บ่มจนสุกจะมี กลิ่นหอมแรงมาก หอมมากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัดเจน
มาเริ่มต้นเมนูแรกในวันนี้ สตางค์ได้รับเกียรติจากแม่ครัวใหญ่ คือ ป้าวรรณ ป้านกเอี้ยง และ ป้าลูกจันทร์ ที่เป็นแม่ครัวหลักของวัด มาร่วมกันนำมะม่วงอกร่องเสม็ดงามมาปรุงในแบบฉบับพื้นถิ่น โดยใช้วัตถุดิบที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นั่นคือ ข่า กับเมนูที่มีชื่อว่า "ยำข่าอ่อนหอยน้ำแตก" เมนูนี้เป็นการนำเมนูพื้นบ้าน 2 เมนูมารวมกัน คือยำข่าอ่อนและยำหอยน้ำแตก
ป้าวรรณมีเทคนิคเคล็ดลับในการขยำมะม่วง โดยการใช้น้ำปลาผสมกับน้ำตาลทราย เพื่อให้มะม่วงเกิดความนิ่ม และความหวานเค็มแทรกซึมประสานเข้าไปสู่ความเปรี้ยว
รสชาติของยำข่าอ่อนหอยน้ำแตก: หน้าตาก็ยั่วน้ำลายแล้ว รสชาติอร่อยแทรกปนประสานความเปรี้ยวแซ่บครบรส ให้ความเปรี้ยวสด ๆ จากเนื้อมะม่วงอกร่องและยอดมะกอก อร่อยใช่หยอกคือเนื้อหอยพอกที่เราย่าง ทั้งเด้งทั้งหนุบกรุบ ๆ น่ากัด อร่อยชะมัดเมื่อผสมพริกยำ หอมเต็ม ๆ คำจากใบชะพลูและสะระแหน่ เป็นเมนูที่เหมาะแท้ ๆ ที่จะเป็นทั้งกับแกล้มและกับข้าวเลยล่ะครับ
มาลุยต่อกับเมนูที่สองในวันนี้ ถือว่าพลาดไม่ได้เลยครับ เมื่อเราบ่มมะม่วงอกร่องเสม็ดงามจนสุกแล้ว ก็พร้อมที่จะนำมารับประทานกับเมนูคลาสสิกอย่าง ข้าวเหนียวมูนมะม่วงอกร่อง
น้องมอสเล่าถึงวิธีการรับประทานมะม่วงกะตอย (มะม่วงลูกเล็กที่มักจะสุกคาต้น) ซึ่งพี่ป้าน้าอาที่นี่แนะนำให้กินอย่างถูกวิธีว่า "หวานเจี๊ยบ" และ "เมล็ดเขาจะลีบ" มีกลิ่นหอมหวาน บรรยากาศการกินมะม่วงแบบนี้ชวนให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ ที่เคยดูดเม็ดมะม่วงสุกจนเสี้ยนภายในชี้เด่
เมื่อชิมมะม่วงอกร่องในระยะสุก เนื้อภายในเหลืองสวยมาก และอร่อยมาก เป็นมะม่วงที่มีราคาสูงที่สุดเท่าที่สตางค์เคยได้กิน มะม่วงที่นี่จะทำ 2 ระยะ คือ "นาปี" (มะม่วงตามฤดูกาลปกติ) และ "นาปัง" (มะม่วงนอกฤดู) ซึ่งเกษตรกรเขาจะทำให้ออกดอกได้อีก 1 ฤดู ผลผลิตนอกฤดูจะมีราคาสูง และรสชาติจะดีกว่านี้อีก เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก
ราคาเคยสูงถึง 240 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับมะม่วงลูกขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยเมื่อใครได้สัมผัสรสชาติมัน มีเสี้ยนน้อยมาก เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม และกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
ข้อควรระวัง: สตางค์ไม่แนะนำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานรับประทานมะม่วงสุกในปริมาณมาก เพราะมะม่วงมีทั้งแป้งและน้ำตาล อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้
สำหรับมะม่วงอกร่องที่สุกกินไม่ทัน และมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ สามารถนำไป กวน ได้ โดยมะม่วงกวนที่นี่จะใส่เกลืออย่างเดียว ไม่ได้ใส่น้ำตาลเลย แต่ความหวานมีอยู่ในตัว เพราะใช้มะม่วงระยะสุกปากตะกร้อที่หวานอมเปรี้ยว
"มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม" เป็นมะม่วงพื้นถิ่นโบราณ และเป็นมะม่วงที่มีชื่อเสียงในจังหวัดจันทบุรี เนื่องจากแหล่งปลูกมะม่วงที่ชุมชนเสม็ดงาม มีลักษณะพื้นที่เป็นเกาะ มีน้ำล้อมรอบ และเป็นน้ำกร่อย พื้นดินเป็นดินเค็มและดินเหนียว ทำให้มีธาตุโพแทสเซียมในดินสูง ส่งผลให้ผลไม้ในชุมชน มีรสชาติหวานหอมเป็นเอกลักษณ์ และมีการปลูกมาอย่างยาวนานนับร้อยปี เนื่องจากปัจจุบันยังพบต้นมะม่วงอกร่องเสม็ดงามต้นโบราณอยู่ในชุมชนแห่งนี้
ติดตามชมได้ในรายการ ภัตตาคารบ้านทุ่ง ตอน มะม่วงอกร่องเสม็ดงาม วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2568 เวลา 16.05 - 16.30 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
แท็กที่เกี่ยวข้อง: