พืชผักป่าชายเลนที่หายากแต่อุดมไปด้วยคุณค่า
ป่าชายเลนไม่เพียงแต่เป็นระบบนิเวศที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์สำหรับชุมชนชายฝั่ง โดยเฉพาะในพื้นที่อัมพวาตอนใต้ จังหวัดสมุทรสงคราม ที่มีพืชผักป่าชายเลนหลากหลายชนิดที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ลำแพนแดง: ผลไม้ป่าชายเลนรสเปรี้ยว
ลำแพนแดง เป็นพืชป่าชายเลนที่มีลักษณะคล้ายกับลำพู โดยมีลูกออกเป็นผลไม้ที่สุกที่ต้น เมื่อสุกแล้วจะร่วงลงสู่ลำคลองและไปงอกเป็นต้นใหม่ตามตลิ่ง
คุณสมบัติของลำแพน:
- เป็นต้นไม้ที่อยู่ได้ทั้งน้ำเค็มและน้ำกร่อย
- ผลมีรสเปรี้ยวจัด เหมาะใช้แทนมะนาว
- เมื่อสุกจะมีสีเหลืองและส่งกลิ่นหอม
- เนื้อนิ่มและมีความชุ่มคอธรรมชาติ
หนามพุงดอ (หนามรอบข้อ): ผักป่าที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน
หนามพุงดอ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "หนามรอบข้อ" เป็นพืชป่าที่มีหนามแหลมรอบลำต้น การเก็บและประกอบอาหารต้องใช้ความระมัดระวังและความพิถีพิถันสูง
วิธีการเตรียม:
- เด็ดเฉพาะยอดอ่อนที่หนามยังไม่แข็ง
- ใช้กรรไกรเล็มหนามออกอย่างละเอียด
- ลวกน้ำร้อนเพื่อลดความขม
- น็อกน้ำเย็นเพื่อคงสีเขียวและความกรอบ
เมนูอาหารจากพืชป่าชายเลน
ยำหนามพุงดอกุ้งสด
ส่วนผสม:
- หนามพุงดอที่เล็มหนามและลวกแล้ว
- กุ้งลวก
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำปลา
- น้ำมะนาว
- พริกซอย
- หอมแดงซอย
วิธีทำ:
- ผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาวให้ได้รส
- ใส่หนามพุงดอและกุ้งลงคลุก
- โรยพริกซอยและหอมแดงซอย
- คลุกเคล้าให้เข้ากันและเสิร์ฟ
ต้มยำปลาทูลำแพน
ส่วนผสม:
- ปลาทูแม่กลอง
- เนื้อลำแพนปั่น (ปั่นทั้งเม็ดแล้วกรอง)
- ตะไคร้
- ข่า
- ใบมะกรูด
- หอมแดง
- พริกขี้หนู
- ใบกะเพรา
- เกลือ
- น้ำสต๊อก
วิธีทำ:
- ต้มน้ำสต๊อกให้เดือด ใส่เกลือ ตะไคร้ ข่า และหอมแดง
- ใส่ปลาทูลงต้มจนสุก
- ปิดไฟ ใส่ใบมะกรูด ใบกะเพรา ปรุงรสด้วยพริกขี้หนูสวน ลำแพน
ความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าชายเลน
ผลกระทบจากการทำลายป่าชายเลน
ในอดีตชาวบ้านอัมพวาตอนใต้ได้ตัดป่าชายเลนเพื่อทำบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ เนื่องจากมีรายได้ดี แต่การกระทำนี้ส่งผลเสียต่อระบบนิเวศอย่างร้ายแรง:
- การสูญหายของพืชพันธุ์: ลำแพน โกงกาง และลำพูถูกตัดทิ้งหมด
- ความไม่สมดุลของระบบนิเวศ: แอมโมเนียและของเสียจากกุ้งทำลายสิ่งแวดล้อม
- การรุกรานของเอเลี่ยนสปีชีส์: ปลาหมอคางดำเข้ามาทำลายสัตว์ท้องถิ่น
ปัญหาปลาหมอคางดำ
ปลาหมอคางดำ เป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่สร้างปัญหาร้ายแรง:
- วางไข่ทุก 22 วัน และออกลูกอย่างต่อเนื่อง
- กินสัตว์น้ำวัยอ่อน เช่น กุ้งตัวเล็ก กุ้งฝอย และไข่ปู
- ทำให้ชาวบ้านสูญเสียรายได้จากการเลี้ยงกุ้งธรรมชาติ
- บางคนต้องเปลี่ยนอาชีพหรือขายที่ดิน
การปรับตัวของชุมชน
การกลับสู่วิถีธรรมชาติ
ปัจจุบันชาวบ้านเริ่มปรับเปลี่ยนแนวทางการเลี้ยงกุ้ง:
- ใช้น้ำจากระบบนิเวศธรรมชาติในคลอง
- เลี้ยงกุ้งโดยไม่ใช้สารเคมี
- เลี้ยงระยะสั้น 3 เดือน แล้วขายเป็นกุ้งธรรมชาติ
การสืบทอดภูมิปัญญา
คนรุ่นใหม่เริ่มหันมาสนใจ:
- การเรียนรู้พืชผักพื้นถิ่น
- การสร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น ไอศกรีมลำแพน
- การแบ่งปันความรู้ผ่านสื่อต่างๆ
พืชอื่นๆ ในป่าชายเลน
นอกจากลำแพนและหนามพุงดอแล้ว ยังมีพืชอื่นๆ ที่สามารถนำมาทำอาหาร:
- ตำลึง: ใช้ประดับบ้านและทำอาหาร
- กระถิน: นำมาแปรรูป
- ลูกสามสิบ: นำมาทำแกงคั่ว มีรสขมแต่เป็นยาบำรุงร่างกาย
บทสรุป
อาหารจากป่าชายเลนสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของชุมชนชายฝั่งที่รู้จักใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ป่าชายเลนไม่เพียงแต่ช่วยรักษาระบบนิเวศ แต่ยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น
การที่เราได้รู้จักและเห็นคุณค่าของพืชผักป่าชายเลนเหล่านี้ จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการอนุรักษ์และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าเหล่านี้ไว้สำหรับคนรุ่นหลัง พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนในรูปแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ติดตามได้ในรายการกินอยู่คือ วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 เวลา 16.30 - 17.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live