เมื่อฤดูฝน วนเวียนมาอีกครั้ง น้ำในท้องนาจะเริ่มสูงขึ้น และกลายเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชั่วคราว เมื่อมีน้ำ สิ่งมีชีวิตที่ย้ายถิ่นไปในหน้าแล้งก็จะเริ่มกลับมา แมลงและสัตว์ตัวเล็กตัวน้อย ทำหน้าที่เป็นอาหารของนก รวมถึงนกขนาดใหญ่อย่างนกกระเรียน ที่ได้รับการปล่อยคืนแหล่งธรรมชาติดั้งเดิม หลังจากสูญหายไปนับสิบ ๆ ปี สายฝนได้นำชีวิตชีวากลับสู่ผืนนา และจะชุ่มฉ่ำแบบนี้ไปอีก 3 – 4 เดือน
แต่ระบบนิเวศที่สมบูรณ์ จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเกษตรกรสร้างผลผลิตด้วยการใช้ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า และปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งให้ข้าวเติบโต เน้นปริมาณมาก ๆ ความเขียวชะอุ่มและมีชีวิตชีวา ทั้งจากมนุษย์และสรรพสิ่งที่อาศัยอยู่ที่นี่ รวมถึงการอยู่รอดปลอดภัยของนกกระเรียน และออกลูกออกหลานตามกันมาเป็นรุ่น ๆ คือประจักษ์พยานอย่างดี ถึงการดำรงชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งพาระบบนิเวศจากธรรมชาติล้วน ๆ ซึ่งเพียงพอแล้ว
สนุกกับการอ่านป่าและเข้าใจธรรมชาติ ในรายการอ่านป่ากับหมอหม่อง วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมผ่านทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/live
อ่านป่ากับหมอหม่อง
เลี้ยงนกนอกกรง
อ่านป่าหลังบ้าน
ท่องใต้ถุนป่า
นกปากห่างขวัญใจชาวนา
จากป่าเมฆสู่ป่าต้นน้ำ 2
นกชุ่มน้ำ
อ่านป่าบนดอย
วิหารกลางป่า
อ่านป่าในพายุ
อ่านป่าบนเรือนยอด
อาชีพนก
อ่านป่าด้วยหัวใจ
ชายเลนโฮมสเตย์
ความพยายามสืบทอดสายพันธุ์
ป่าผลัดใบในฤดูแล้ง
ท้องนาหน้าแล้ง
ท้องนาหน้าฝน
เขาหินปูน
นิเวศบริการ
อ่านลำธาร
คนเอื้อเฟื้อนก
ป่าผลัดใบในฤดูฝน
รังนก
พื้นที่ชุ่มน้ำ
ชีวิตชีวาแห่งป่าเมฆ
อ่านป่ากับหมอหม่อง
เลี้ยงนกนอกกรง
อ่านป่าหลังบ้าน
ท่องใต้ถุนป่า
นกปากห่างขวัญใจชาวนา
จากป่าเมฆสู่ป่าต้นน้ำ 2
นกชุ่มน้ำ
อ่านป่าบนดอย
วิหารกลางป่า
อ่านป่าในพายุ
อ่านป่าบนเรือนยอด
อาชีพนก
อ่านป่าด้วยหัวใจ
ชายเลนโฮมสเตย์
ความพยายามสืบทอดสายพันธุ์
ป่าผลัดใบในฤดูแล้ง
ท้องนาหน้าแล้ง
ท้องนาหน้าฝน
เขาหินปูน
นิเวศบริการ
อ่านลำธาร
คนเอื้อเฟื้อนก
ป่าผลัดใบในฤดูฝน
รังนก
พื้นที่ชุ่มน้ำ
ชีวิตชีวาแห่งป่าเมฆ