รศ.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศ มองประเด็นนี้ว่า การยกระดับการกดดันจะต้องทำควบคู่ไปกับการดำเนินการปฏิญญาที่เราได้ลงนามไว้แล้วตั้งแต่แรก คือ จะต้องมีความชัดเจนในเรื่องจุดยืน ชัดเจนในเรื่องการปฏิบัติการ และมีความชัดเจนว่า ถ้าสถานการณ์ไม่เป็นไปตามปฏิญญา เราก็พร้อมที่จะระงับ-ถอนตัว สุดท้ายก็ต้องป้องกันตนเองไม่ให้เกิดภัยคุกคามโดยใช้กติกาสากล
Q : ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติออกมาระงับทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องของการเจรจาเรื่องของปฏิญญาที่มีร่วมกันก่อนหน้านี้ อาจารย์มองยุทธการยุทธวิธีนี้ยังไง ?
รศ.ปณิธาน : ก็เป็นการยกระดับการกดดัน จริง ๆ การยกระดับการกดดันจะต้องทำควบคู่ไปกับการดำเนินการตามปฏิญญาที่เราได้ลงนามไว้แล้วตั้งแต่แรก ก็คือว่าจะต้องมีความชัดเจนในเรื่องจุดยืน มีความชัดเจนในเรื่องการปฏิบัติการ แล้วก็สุดท้ายก็แน่นอน มีความชัดเจนว่าถ้าสถานการณ์ไม่ได้เป็นไปตามปฏิญญา เราก็พร้อมที่จะระงับ-ถอนตัว แล้วก็สุดท้ายก็ต้องป้องกันตนเอง ไม่ให้เกิดภัยคุกคาม โดยใช้กติกาสากล ก็เป็นไปตามขั้นตอน โดยอนุมัติแล้วโดยสภาความมั่นคงฯ ขณะนี้ก็คงจะต้องส่งสัญญาณอย่างจริงจังให้กัมพูชาเข้าใจว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นอย่างไร ซึ่งเข้าใจว่าทางกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ส่งสัญญาณให้กับทั้งกัมพูชา แล้วก็ให้กับทั้งคู่ที่เป็นพยานหรือเป็นประเทศที่มีพันธกรณีผูกพันกับเรา อย่างเช่นสหรัฐฯ, ประธานอาเซียน แล้วก็สมาชิกอาเซียน
Q : ในขณะนี้ก็ต้องถือว่าสถานการณ์เปราะบางต่อการเผชิญหน้า แล้วก็การใช้กำลัง อาจารย์ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าไปถึงการใช้กำลังกันระหว่าง 2 ประเทศอีกไหม ?
รศ.ปณิธาน : ก็ก็ต้องบอกว่ามี แล้วก็สูงขึ้นนะ แต่ว่าก็ยังมีโอกาส เพราะว่าที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังหรือความสูญเสีย เพราะว่าขณะนี้ อย่างที่ทางฝ่ายความมั่นคงได้ชี้แจง ก็ยังมีช่องทางอื่น ๆ ของทางทหารที่เปิดไว้ เพื่อให้มีการสื่อสารระหว่างกองกำลังของทั้ง 2 ประเทศให้อยู่ในพื้นที่ที่ควรจะอยู่ แล้วก็ไม่ลุกล้ำเข้ามา แล้วก็แล้วก็แน่นอน กลับไปดำเนินการตามข้อตกลงเดิม แต่ว่ากลไกปกติอื่น ๆ อย่างเช่นคณะกรรมการต่าง ๆ ก็ถือว่าต้องถูกระงับไปชั่วคราว ก็เหลือแต่ช่องทางการทหารที่จะต้องสื่อสารกันให้ชัดเจน ไม่เกิดความเข้าใจผิดในการเคลื่อนกำลัง แล้วก็สุดท้ายก็ในการป้องกันตนเอง แต่ว่าก็ถือว่าเป็นขั้นตอนที่ทางฝ่ายการเมืองของกัมพูชาจะต้องรับไปชั่งน้ำหนักดูว่า เมื่อทางฝ่ายไทยพร้อมแล้ว สภาความมั่นคงฯ ของไทยได้มีมติให้มีการประกอบกำลัง เคลื่อนกำลัง หรือว่าเตรียมพร้อมในระดับที่ถือว่าค่อนข้างสูง แล้วก็ควรจะต้องมีการปรับท่าทีทางการเมืองของทางฝ่ายกัมพูชา โดยสรุปก็คือว่าขณะนี้กัมพูชาต้องตัดสินใจว่าจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับเราโดยไม่ให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อทหารไทยต่อคนไทยอีกหรือไม่ ถ้าไม่ เราก็คงจะต้องรักษาสิทธิ์ แล้วก็ดำเนินการในส่วนที่เราคิดว่าจำเป็น ก็คงรอดู แต่ว่าเวลาอาจจะยังไม่ชัดเจนนักว่าช่องทางสื่อสารที่ไม่เป็นทางการกับกัมพูชา เราให้เวลาเขาเท่าไรในการลดระดับการคุกคามต่อไทย
Q : รอบนี้กัมพูชาดูจะเงียบ ๆ สงวนท่าทีหรือไม่ หลังจากเกิดเหตุ ถ้าเทียบกับ 6 ครั้งที่ผ่านมา พอเกิดเหตุปุ๊บ เขาจะสวนกลับมาทันที
รศ.ปณิธาน : ขณะนี้ก็ถือว่าเขาเห็นความชัดเจนแล้ว เพราะว่าเรายืนยันเสมอว่าความชัดเจนจะต้องมาจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์ประกอบของสภาสงครามเดิม เป็นองค์ประกอบของการใช้กำลังที่ชัดเจนที่สุด ในเมื่อขณะนี้น่าจะเข้าใจถึงความชัดเจน แล้วก็คงจะต้องปรึกษาหารือกันว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แล้วเราก็หวังว่าเขาจะดำเนินการให้สอดคล้องกับความตั้งใจของเรา ในเรื่องสันติภาพ แต่ว่าถ้าตัดสินใจไม่ดำเนินตามนี้ ก็แน่นอน เขาก็คงจะต้องเตรียมกำลังแล้ว ก็ต้องเตรียมความสูญเสีย รองรับความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับฝ่ายเขา ก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับกัมพูชา ทำให้เขาอาจจะไม่มีปฏิกิริยามากมายนัก เพราะว่าขณะนี้อยู่ในช่วงที่ต้องตัดสินใจสำคัญอีกครั้งหนึ่ง
Q : บางคนตั้งคำถามว่าก่อนหน้านี้มีข้อเสนออยากให้ยกเลิก MOU 2 ฉบับ ก็มีเสียงท้วงติงว่า ถ้ายกเลิกไปเราจะไม่มีกรอบอะไรมาดึงให้เขามาอยู่ในวงเจรจารเลย แต่พอตอนนี้เราระงับพันธะที่ได้พูดคุยสื่อสารกันไว้ มันจะทำให้เราเสียเปรียบหรือว่าทำให้วงจรจารเหล่านี้ เราไปปิดช่องทางสื่อสารหรือเปล่า 2 อย่างนี้มีความเหมือนความต่างกันยังไง
รศ.ปณิธาน : คือ กรอบปกติในการทำงาน ถ้าความสัมพันธ์ราบรื่นไม่มีปัญหา ไม่ได้อยู่ในสภาวะสงครามข้อตกลงเดินตามบันทึกช่วยจำก็ดี คณะกรรมการชายแดนชุดต่าง ๆ ก็ดี แล้วก็ยังมีความร่วมมืออื่น ๆ อีกหลายชุดหลายฉบับที่เราได้ตกลงกับกัมพูชาไว้ แล้วเรื่องศุลกากร เรื่องด่าน เรื่องการเข้าเมือง เรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถ้าในสถานการปกติ เงื่อนไขในข้อตกลงเหล่านั้นก็สามารถดำเนินการได้ แต่ในขณะนี้ ความสัมพันธ์ไม่ปกติ ไม่ได้อยู่ในระดับเดิมมาสักพักแล้ว และขณะนี้กำลังเข้าสู่สภาวะเตรียมพร้อมที่จะต้องมีการเผชิญหน้าหรือทำสงครามกันอีก เพราะฉะนั้น กลไกพิเศษที่มีอยู่ในแต่ละประเทศ ซึ่งก็เป็นสายด่วนสายตรงของผู้นำหรือของกองกำลังก็ยังมีอยู่ และสายด่วนสายตรงของผู้นำทางการเมืองของ ฝ่ายผู้นำในระบบวิชาการ รวมทั้งกองทัพ ก็ยังเปิดให้มีการสื่อสารเพื่อยืนยันความชัดเจนอีกครั้งว่าจะเข้าสู่ปฏิบัติการเผชิญหน้าการรบ การใช้กำลัง หรือว่าจะเข้าสู่การเจรจาใหม่อีกรอบหนึ่ง เราก็หวังว่ากัมพูชาจะตัดสินใจกลับเข้ามาสู่เจตนาด้วยการลดการปฏิบัติที่ล่อแหลมต่อเราก่อนในชั้นแรก โดยเฉพาะถ้าเกิดลุกล้ำเข้ามาอีกบริเวณที่เราได้วางรั้วลวดหนามหรือว่าตั้งแนวปฏิบัติการไว้ชัดเจนแล้ว ถ้าเกิดเขาลดการปฏิบัติเหล่านั้นลง แล้วก็ไม่ได้มีการเพิ่มเติมในเรื่องของทุ่นระเบิดใน 3-4 พื้นที่เป้าหมาย ที่เรากำลังเฝ้าระวังอยู่ก็ถือว่าได้เริ่มปฏิบัติการลดระดับความตึงเครียด แล้วหลังจากนั้นก็คงจะมีการสื่อสารกลับไปใหม่ว่าจะใช้กลไกอื่น ๆ อะไรนอกเหนือจากช่องทางพิเศษในสถานการณ์แบบนี้ในการที่จะพูดคุยในสภาวะที่ปกติขึ้น
Q : อาจารย์มองว่ามีแนวโน้มหรือความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะเปิดการปะทะหรือว่าใช้กำลังกันอีก อะไรที่จะเป็นเงื่อนไข เป็นปัจจัย หรือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะทำให้การปะทะรอบใหม่เกิดขึ้น ?
รศ.ปณิธาน : ก็มีอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ การเคลื่อนเข้ามาประชิดพรมแดนไทยมากเกินไป ก็ไม่เป็นไปตามข้อตกลงสากลอยู่แล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็จำเป็นต้องผลักดันและกดดันด้วยการใช้กำลังให้เขาถอยออกไปจากเส้นเขตแดนไทย อันนี้ก็เป็นกติกาสากล แต่ว่าอาจจะต้องมีขั้นตอนในการปฏิบัติที่ชัดเจน ส่วนนี้อาจจะเกิดขึ้นยากกว่า เพราะว่าการขึ้นกำลังอย่างเปิดเผยก็แสดงตนว่าเป็นผู้รุกราน อันนี้ก็ถือว่าอาจจะไม่ได้มีความเข้มข้นหรือว่าความเป็นไปได้สูงนัก ยกเว้นว่าจะประกาศสงครามอย่างเป็นทางการแล้วก็เคลื่อนกำลังเข้ามา ซึ่งโอกาสก็ถือว่ามีน้อย เเสียเปรียบเราในเรื่องของกำลังรบที่เป็นหลักหรือเป็นทางการ แต่ว่าการปฏิบัติการลักลอบเข้ามาเพื่อวางทุ่นระเบิด เพื่อปฏิบัติการทางการทหารอื่น ๆ อย่างเช่นการสอดแนม การบินล้ำเข้ามา หรือว่าการติดเครื่องมือยุทโธปกรณ์ที่จะทำให้ทหารไทยไม่ปลอดภัย ตรงนี้อาจจะตรวจจับได้ยาก แล้วก็อย่างที่ทราบพื้นที่ก็ค่อนข้างมีบริเวณกว้าง แต่ว่าถ้าเราลาดตระเวนหรือว่ามีการเผชิญหน้ากันชัดเจน เราก็สามารถปฏิบัติการทางการทหารได้เลยในการกดดัน แต่ตรงนี้อาจจะเป็นเรื่องที่เราจะต้องเฝ้าระวังมากขึ้นเป็นพิเศษในหลายพื้นที่ที่เขาอาจจะรุกล้ำเข้ามา แต่ถ้าไม่มีเหตุการณ์ทั้ง 2 เหตุการณ์นี้ ก็ถือว่าเราสามารถตรึงกำลัง แล้วก็ตรึงสถานการณ์ไว้ได้ แล้วก็หลังจากนั้นก็คงดูว่าแรงกดดันต่าง ๆ ของกัมพูชาที่ได้รับจากไทยจะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แล้วก็กลับมาพูดคุยเพื่อเดินหน้าสู่สันติภาพได้อย่างไรหรือไม่ แล้วก็เมื่อไร
มุมการเมือง
"ณัฐพล" ยื่นคำขาดกัมพูชา ถก "จีบีซี-เจบีซี" ล่ม เลิกคุย!
ประจักษ์วิเคราะห์ : โลกตีกระหนาบ! "กัมพูชา" โอเค GBC
ยกเครื่อง “เพื่อไทย” แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ไร้เงา ”ตระกูลชิน”
จับตาสหรัฐฯ ยืนกลางวงอาเซียนครั้งแรก มีอะไรต้องระวัง?
สันติภาพบนกระดาษ ต้องไม่ซ่อนมีดข้างหลัง ?
ข้อตกลง “แรร์เอิร์ธ” ไทย-สหรัฐฯ ใครได้ประโยชน์?
โจรปราบโจร หรือ โจรช่วยโจร ไทยต้องลุยสแกมเมอร์
ทำไม ? "สหรัฐฯ" ถึงสนใจ แร่ "แรร์เอิร์ธ"
แปลกใจทำ “MOU แรร์เอิร์ธ” ไม่บอก พอจะยกเลิก MOU44 กลับถามประชาชน?
"พล.อ.เกรียงไกร" ชี้ทำตามกระบวนการ ปมจริยธรรม "สว.นันทนา"
เพื่อไทยโมเดลเดิม "หนิม-บอย" ตัวเต็ง หัวจ่ายหาย?
โจทย์ใหญ่ “เพื่อไทย” เลือกตั้ง 2569 เมื่อคนเจนวาย-ซีเป็นเสียงส่วนใหญ่
1 พ.ย.นี้ ดีเดย์! "ไทย-กัมพูชา" ถอนอาวุธ เฟสแรก
“พงศกร” ตอบชัดงบฯ กองทัพ พอหรือไม่ หลังขอให้ “กัน จอมพลัง” ช่วย?
ปชน.รุกไม่หยุด ล้างบางนักการเมืองสีเทา
กมธ.มั่นคงฯ เชิญ "อนุทิน-วรภัค" แจงปมทุนเทา
พรรคประชาชนชูนโยบาย "มีเรา ไม่มีเทา" เลือกตั้งครั้งหน้า
วิเคราะห์: บ้านใหญ่ปากน้ำ “อัศวเหม” ดีลเด็ด “เพื่อไทย”
อนาคต “เสี่ยต่อ” ภูมิใจไทย-กล้าธรรม อ้าแขนรับ
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หาก “อนุทิน” ชิงยุบสภา ก่อนถูกยื่นซักฟอก?
แกะรอยดรามา ใครสั่งแม่ทัพกุ้งหยุดยิง ?
ประจักษ์วิเคราะห์ : "เพื่อไทย" ยุ "ประชาชน" ร่วมซักฟอกรัฐบาล ทางสามแพร่งค่ายส้ม
ประจักษ์วิเคราะห์ : "เพื่อไทย" วิกฤตหนัก แย้ม 3 นายกฯ ดึงแต้ม "เหนือ-อีสาน"
ท่าที "ไทย" หลังทหารเหยียบกับระเบิดคนที่ 7
ประจักษ์วิเคราะห์ : ถึงคิว "ชนนพัฒฐ์" สส.ค่ายผู้กอง
วิเคราะห์สถานการณ์หลังระงับปฏิญญา "ไทย-กัมพูชา"
มุมการเมือง
"ณัฐพล" ยื่นคำขาดกัมพูชา ถก "จีบีซี-เจบีซี" ล่ม เลิกคุย!
ประจักษ์วิเคราะห์ : โลกตีกระหนาบ! "กัมพูชา" โอเค GBC
ยกเครื่อง “เพื่อไทย” แคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนใหม่ ไร้เงา ”ตระกูลชิน”
จับตาสหรัฐฯ ยืนกลางวงอาเซียนครั้งแรก มีอะไรต้องระวัง?
สันติภาพบนกระดาษ ต้องไม่ซ่อนมีดข้างหลัง ?
ข้อตกลง “แรร์เอิร์ธ” ไทย-สหรัฐฯ ใครได้ประโยชน์?
โจรปราบโจร หรือ โจรช่วยโจร ไทยต้องลุยสแกมเมอร์
ทำไม ? "สหรัฐฯ" ถึงสนใจ แร่ "แรร์เอิร์ธ"
แปลกใจทำ “MOU แรร์เอิร์ธ” ไม่บอก พอจะยกเลิก MOU44 กลับถามประชาชน?
"พล.อ.เกรียงไกร" ชี้ทำตามกระบวนการ ปมจริยธรรม "สว.นันทนา"
เพื่อไทยโมเดลเดิม "หนิม-บอย" ตัวเต็ง หัวจ่ายหาย?
โจทย์ใหญ่ “เพื่อไทย” เลือกตั้ง 2569 เมื่อคนเจนวาย-ซีเป็นเสียงส่วนใหญ่
1 พ.ย.นี้ ดีเดย์! "ไทย-กัมพูชา" ถอนอาวุธ เฟสแรก
“พงศกร” ตอบชัดงบฯ กองทัพ พอหรือไม่ หลังขอให้ “กัน จอมพลัง” ช่วย?
ปชน.รุกไม่หยุด ล้างบางนักการเมืองสีเทา
กมธ.มั่นคงฯ เชิญ "อนุทิน-วรภัค" แจงปมทุนเทา
พรรคประชาชนชูนโยบาย "มีเรา ไม่มีเทา" เลือกตั้งครั้งหน้า
วิเคราะห์: บ้านใหญ่ปากน้ำ “อัศวเหม” ดีลเด็ด “เพื่อไทย”
อนาคต “เสี่ยต่อ” ภูมิใจไทย-กล้าธรรม อ้าแขนรับ
จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง หาก “อนุทิน” ชิงยุบสภา ก่อนถูกยื่นซักฟอก?
แกะรอยดรามา ใครสั่งแม่ทัพกุ้งหยุดยิง ?
ประจักษ์วิเคราะห์ : "เพื่อไทย" ยุ "ประชาชน" ร่วมซักฟอกรัฐบาล ทางสามแพร่งค่ายส้ม
ประจักษ์วิเคราะห์ : "เพื่อไทย" วิกฤตหนัก แย้ม 3 นายกฯ ดึงแต้ม "เหนือ-อีสาน"
ท่าที "ไทย" หลังทหารเหยียบกับระเบิดคนที่ 7
ประจักษ์วิเคราะห์ : ถึงคิว "ชนนพัฒฐ์" สส.ค่ายผู้กอง
วิเคราะห์สถานการณ์หลังระงับปฏิญญา "ไทย-กัมพูชา"