รายการ Song of Fame เพลงคู่สยาม สัปดาห์นี้ จะพาทุกคนไปฟังเพลงของสองพี่น้องคนดนตรี อัสนี และวสันต์ ที่มีเพลงฮิตมากที่สุดของเมืองไทยเจ้าของฉายา จิ๊กโก๋อกหัก ผู้เป็น “Icon” ทางดนตรีร็อกของเมืองไทย โดยแนวเพลงของพวกเขามีทั้งเพลงแนวปรัชญาที่ไว้สอนใจคน เตือนใจคนฟังโดยอัลบั้มที่โด่งดังมากในชุดนั้นก็คือ บ้าหอบฟาง และแนวเพลงรักที่ดังทุกยุคทุกสมัยอย่าง รักเธอเสมอ ซึ่งในวันนี้บทเพลงของอัสนี และวสันต์ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ผ่านเสียงร้องของ แมว จิรศักดิ์, หมู มูซู และปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล รวมถึงนักร้องรุ่นใหม่ น้องณณ, น้องเบส และน้องภูมิ เรื่องราวเพลงของอัสนี และวสันต์ในครั้งนี้จะถ่ายทอดโดย 6 หนุ่มที่เรียกได้ว่าเป็น Gentleman Rock กันเลยทีเดียว
อัสนีและวสันต์ สองพี่น้องจากที่ราบสูง จังหวัดเลย เป็นคู่ดูโอ้ที่ได้รับฉายาว่า "จิ๊กโก๋อกหัก" จากแฟนเพลงที่เรียกพวกเขาอย่างเคยชินว่า "พี่ป้อมพี่โต๊ะ" ทั้งสองได้เข้ามาศึกษาต่อในกรุงเทพฯ และเข้าร่วมประกวดวงดนตรีโฟล์คซองจนได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้งวงอิสซึ่น (Isn't) ที่มีผลงานเพลงดังอย่าง "แม่สาวตางาม" และ "พบกันหน้าสยามสแควร์"
หลังจากทำงานกับวงอิสซึ่นได้ไม่นาน พี่ป้อมและพี่โต๊ะก็ได้แยกตัวออกมาทำงานเบื้องหลัง และเริ่มรับบทเป็นคู่หูพี่น้องในชื่อ "อัสนี-วสันต์" โดยมีอัลบั้มชุดแรกคือ "บ้าหอบฟาง" ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดในยุคนั้น จนดังเป็นพลุแตก และนับเป็นผลงานเพลงที่มาก่อนกาล ต่อมาทั้งคู่ยังคงผลิตผลงานเพลงที่มีความหลากหลายออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแนวเพลงปรัชญาที่ให้คำสอนใจคน และเพลงรักที่ดังติดหูคนไทยมาจนถึงทุกวันนี้
ในวันนี้ทาง Song Of Fame เพลงคู่สยาม ขอเลือก 5 เพลงรักฉบับ "อัสนี-วสันต์" ที่ถูกถ่ายทอดใหม่โดยนักร้องรุ่นใหม่ เพื่อให้บทเพลงยังคงอยู่ในใจคนตลอดไป ได้แก่
1. เพลง "บังอรเอาแต่นอน"
2. เพลง "ก็เคยสัญญา"
3. เพลง "ยินยอม"
4. เพลง "รักเธอเสมอ"
5. เพลง "สิทธิ์ของเธอ"
ผลงานเพลงของ อัสนี-วสันต์ ที่ถูกนำมาถ่ายทอดใหม่โดยนักร้องรุ่นใหม่ ทั้ง 5 เพลงนี้ ถือเป็นเพลงคลาสสิกที่ยังคงฝังแน่นอยู่ในใจคนฟังมาจนถึงทุกวันนี้ และจะยังคงเป็นตำนานของ เพลงร็อกไทย ในยุค 90 ที่เขย่าวงการเพลงไทยไปตลอดกาล
อยู่ในอัลบั้มชุด ผักชีโรยหน้า เป็นผลงานเพลงชุดที่ 2 ของสองพี่น้องอัสนีและวสันต์ โดยเป็นผลงานที่สร้างทั้งความสำเร็จ และชื่อเสียงให้กับสองพี่น้องอย่างมาก เพลงนี้ตอนแรกพี่ป้อมไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่เดิมตั้งชื่อว่า อัมพรเอาแต่นอน แต่ว่าชื่อนี้ ไปตรงกับชื่อเพื่อนคนหนึ่งของพี่ป้อม เลยเปลี่ยนมาเป็น บังอร กลายมาเป็น บังอรเอาแต่นอน และเป็นเพลงจุดกำเนิดมหากาพย์ของครอบครัวตัวป่วน ทำให้เกิดเพลงบังเอิญติดดิน และเพลงยินดีไม่มีปัญหา
อยู่ในอัลบั้มชุด ผักชีโรยหน้า แรงบันดาลใจของพี่ป้อมตอนนั้นคือมีประโยคที่ว่า “จำไว้นะว่าตอนนั้นพูดอะไรไว้”เป็นเพลงที่เล่าเรื่องความผิดหวังชั่วข้ามคืน
ยินยอมอยู่ในอัลบั้ม กระดี่ได้น้ำ 2531 ชุด 3 แต่งโดยพี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค โดยตอนนั้น พี่ป้อมนำทำนอง พร้อมกับคำที่อยากให้มีในเนื้อร้อง มาให้พี่ดี้แต่งต่อ นั่นก็คือคาว่า “ยินยอม” พี่ดี้เลยได้ประโยคเท่ ๆ สไตล์จิ๊กโก๋ขึ้นหัวเพลงว่า เกิดมาก็เป็นคนหนึ่ง ช่างเป็นคำโดนใจวัยรุ่นยุคนั้นซะเหลือเกิน
อยู่ในอัลบั้ม รุ้งกินน้ำ ซึ่งอัลบั้มนี้ได้รับรางวัล สีสันอวอร์ดส อัลบั้มยอดเยี่ยมและสาขาศิลปินยอดเยี่ยม และเป็นเพลงฮิตติดอันดับหนึ่งติดต่อกัน 70 สัปดาห์ แม้ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้
แต่งโดย พี่ใหญ่ อาทิตย์ สาระจูฑะ ซึ่งพี่ใหญ่เล่าเป็นมุขตลกให้เราฟังว่า เพลงนี้จริง ๆ พี่ใหญ่ไม่ได้ตั้งชื่อนี้ แล้วพี่ป้อมไปเปลี่ยนทีหลัง วันหนึ่งบังเอิญไปเจอกันที่ลิฟต์ พี่ป้อมก็บอกพี่ใหญ่ว่าผมเปลี่ยนชื่อเพลงนะพี่ ขอโทษทีผมไม่ได้บอก พี่ใหญ่เล่นมุขตลกกลับว่า ก็สิทธิ์ของเธอ
ติดตามรายการ Song of Fame เพลงคู่สยาม วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 21.30 - 22.20 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมทีวีออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live
Song of fame เพลงคู่สยาม
บันทึกการแสดง คอนเสิร์ต Thai PBS THE GREATEST SONG OF FAME
The Innocent
คีรีบูน
อิทธิ พลางกูร
วงชาตรี
หรั่ง ร็อคเคสตร้า
ไมโคร
ตู่ นันทิดา
อัสนี-วสันต์
วงเรนโบว์ (Rainbow)
เรวัต พุทธินันทน์
ธนพล อินทฤทธิ์
แหวน ฐิติมา
ไฮดรา
วงเฉลียง
วง Forever
ธเนศ วรากูลนุเคราะห์
แกรนด์เอ็กซ์
จรัล มโนเพ็ชร
อ๊อด บรั่นดี
หิน เหล็ก ไฟ
ผ่องศรี วรนุช
Song of fame เพลงคู่สยาม
บันทึกการแสดง คอนเสิร์ต Thai PBS THE GREATEST SONG OF FAME
The Innocent
คีรีบูน
อิทธิ พลางกูร
วงชาตรี
หรั่ง ร็อคเคสตร้า
ไมโคร
ตู่ นันทิดา
อัสนี-วสันต์
วงเรนโบว์ (Rainbow)
เรวัต พุทธินันทน์
ธนพล อินทฤทธิ์
แหวน ฐิติมา
ไฮดรา
วงเฉลียง
วง Forever
ธเนศ วรากูลนุเคราะห์
แกรนด์เอ็กซ์
จรัล มโนเพ็ชร
อ๊อด บรั่นดี
หิน เหล็ก ไฟ
ผ่องศรี วรนุช