เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทำเนียบขาว เปิดเผยว่า สำนักงานบริหารบริการของรัฐบาลกลาง เตรียมส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยงานรัฐบาลต่าง ๆ เพื่อให้ตรวจสอบสัญญาที่ทำไว้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยพิจารณาว่าจะสามารถยกเลิกหรือย้ายไปทำสัญญากับที่อื่นได้หรือไม่
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประเมินว่าขณะนี้มีสัญญากับฮาร์วาร์ด ประมาณ 30 ฉบับ มูลค่ารวมราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่อาจจะเพิกถอนได้หรือประเมินว่าไม่ได้มาตรฐานและสั่งเพิกถอน เพื่อนำงบประมาณส่วนดังกล่าวไปทำสัญญากับหน่วยงานอื่นแทน
อ่านข่าว : นักศึกษาไทยในฮาร์วาร์ด หวั่นอนาคต หลังคำสั่ง "ทรัมป์"
จากฐานข้อมูลของรัฐบาลกลางสัญญาที่อาจได้รับผลกระทบ ได้แก่ สัญญากับสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สำหรับการวิจัยผลกระทบจากการดื่มกาแฟ และสัญญากระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สำหรับการฝึกอบรมผู้บริหารระดับสูง เป็นต้น
หนังสือเวียนฉบับดังกล่าวกำหนดให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐแจ้งกลับไปทางสำนักงานภายในวันที่ 6 มิ.ย. ถึงการยกเลิกสัญญา โดยสัญญาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นที่สำคัญและต้องทำต่อเนื่องจะไม่ได้ถูกยกเลิกทันทีแต่จะถ่ายโอนไปยังหน่วยงานหรือผู้ให้บริการรายอื่น นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่่ระบุว่าในจำนวนสัญญาที่อาจถูกเพิกถอนนี้จะไม่ครอบคลุมถึงสัญญาที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลต่าง ๆ ในสังกัดฮาร์วาร์ด
อ่านข่าว : "ฮาร์วาร์ด" 388 ปีแห่งความยิ่งใหญ่ สถาบันเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา
อลัน การ์เบอร์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุว่า การตัดงบประมาณการวิจัยต่าง ๆ จะกระทบทางมหาวิทยาลัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และยังจะกระทบต่อประเทศโดยรวม เนื่องจากงบประมาณเพื่อการวิจัยไม่ใช่เงินให้เปล่า แต่เป็นเงินที่มหาวิทยาลัยหรือสถาบันวิจัยต่าง ๆ ใช้เพื่อทำงานวิจัยที่รัฐบาลประเมินว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องศึกษาค้นคว้าจึงจัดสรรงบประมาณเพื่อวิจัยในด้านนั้น ๆ
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นความพยายามอีกระลอกหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการกดดันให้สถาบันการศึกษาเก่าแก่ของประเทศแห่งนี้ยอมศิโรราบ หลังรัฐบาลกล่าวหาว่าฮาร์วาร์ดเลือกปฏิบัติต่อนักศึกษาตามชาติพันธุ์ และไม่สามารถจัดการกับแนวคิดต่อต้านยิวในมหาวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากพอ
อ่านข่าว : "ผู้นำฝรั่งเศส" ปัดทะเลาะภรรยาหลังถูกผลักหน้า ชี้แค่หยอกล้อกัน
ทรัมป์พลิกท่าที เลื่อนเก็บภาษี 50% EU ยืดเวลาเจรจาถึง 9 ก.ค.
"บ้าไปแล้ว!" ทรัมป์ไม่ไว้หน้าประณามปูติน ชี้โจมตียูเครนไร้เหตุผล